xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว : ตาเถรตกใต้ถุน!! 9 เดือนปี 60 “การบินไทย”เจ๊ง 3 พันล้าน ปีเดียวไปกลับขาดทุน 5 พันล้าน ผลงานโบว์ดำ การันตีฝีมือท่านว่าที่รัฐมนตรี“อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด

 อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม
ข่าวปนคน คนปนข่าว
 



**ตาเถรตกใต้ถุน!! 9 เดือนปี 60 “การบินไทย”เจ๊ง 3 พันล้าน ปีเดียวไปกลับขาดทุน 5 พันล้าน ผลงานโบว์ดำ การันตีฝีมือท่านว่าที่รัฐมนตรี“อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม”

ต้องเรียกขาดทุนบักโกรก! หลัง อุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกมาเปิดเผยตัวเลขประจำงวดไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า “การบินไทย”ขาดทุนสุทธิ “1,824.81ล้านบาท”เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขาดทุนสุทธิ 1,601.42 ล้านบาท .. ขณะที่รวม 9 เดือน ขาดทุนสุทธิ “3,878.82ล้านบาท”เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่เคยกำไรสุทธิ 1,476.68 ล้านบาท .. เข้าใจง่ายๆ 9 เดือน การบินไทยขาดทุนยับ “3พันล้านบาท”มากกว่าปีก่อนเท่าตัว หนักกว่านั้น คิดไปกลับช่วงเดียวกันปีก่อนเจ๊งไปเบ็ดเสร็จ 5 พันกว่าล้านบาท .. ข่าวนี้คนไทยถึงกับสะดุ้งทั้งประเทศ ด้วยความที่เป็น “สายการบินแห่งชาติ”พอช็อตเงินขาดมือ ก็มาล้วงเงินในคลังหลวงไป ต้นปี 60 เพิ่งมากู้กระทรวงการคลังไปโปะหนี้ 1,800 ล้านบาทนะจ๊ะ จำกันให้แม่น ..

ไม่รู้บริหารกันอย่างไรถึงขาดทุนเจ๊งยับขนาดนี้ เพราะแม้ภาพรวมเศรษฐกิจยังแย่ แต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แทบทุกภาคส่วนต่างเติบโตกันหมด ขยาด“รัฐบาลไทย”ที่หัวปักดินมานาน ยังฟื้นจนคุยโขมงเศรษฐกิจดีทุกด้าน แล้วไฉน “เจ้าจำปี”ของพี่สวนทางกับคนอื่นเขา .. น่าจะถึงเวลาแล้วที่ต้องชำแหละกันสักที บริหารกี่ปีๆ ขาดทุนกันยับตลอด แตกต่างจากสายการบินบ้านอื่น ที่เชิดหน้าชูตาได้ไม่อายใคร .. ในขณะที่องค์กรเจ๊งยับ แต่ก็คุ้นชินภาพของ“พนักงานการบินไทย”ที่รวยเอาๆ สิ้นปีนี้รับโบนัสกันบานเบอะ จนมีแต่คนตะเกียกตะกายอยากเข้าไปร่วมงานด้วย .. ยิ่งระดับ“บอร์ดการบินไทย”นี่อู้ฟู้ ซดค่าตอบแทนกันไม่หวาดไม่หวั่น นี่ล่ะหนา แทนที่จะเลือกคนเก่งมีความสามารถมาบริหาร “ผู้มีอำนาจ”ทุกยุคกลับล็อกสเปก “มือเซ้งลี้” เอาแต่หาเงินกอบโกยเข้ากระเป๋ามานั่งคุม”ขุมทรัพย์เจ้าจำปี”แต่ปัญหาใต้พรมไม่เคยปัดกวาด .. ตอนนี้คนเหลือบแลหาประธานบอร์ดการบินไทยว่า ใครกันนะ ทำสถิติได้ขนาดนี้ บอกเลยอย่าเสียเวลาหา เพราะ อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เพิ่งจะลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวไปได้ไม่กี่วัน .. ไม่ได้ลาออกเพราะหนีความยับเยิน หากแต่ลือหนาหูว่า เป็นการเตรียมตัวนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ก็ลองคิดดูเอาละกัน อยู่การบินไทย ยังบริหารได้งามไส้ขนาดนี้ บริหารประเทศจะงามใจ ไทยแลนด์ขนาดไหน หึหึ.
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ และ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ
** มาแรงแซงโค้ง!! หวูดรถไฟไทย-จีนไม่ดังซักที ทำ“อาคม”หมดรอบ รมว.คมนาคม หลัง“บิ๊กตู่ - เฮียกวง”อึดอัดเมกะโปรเจกต์เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จำใจหั่นทิ้ง ส่วน”ออมสิน-ณรงค์” ก็เก็บของแล้ว

ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่เมืองนอก เชื่อว่าจิตใจ“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แตะรันเวย์ประเทศไทย คงพะว้าพะวงอยู่กับการทำโผ “ครม.ประยุทธ์ 5” ..หลังประชุม ครม.อังคารก่อน ถือโอกาส“เซย์กู๊ดบาย”กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีทุกคน ด้วยรู้ว่า“ครม.ตู่ 4”จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครั้งสุดท้าย .. หนึ่งที่ต้องปรับแน่ก็“กระทรวงจับกัง”ที่ “บิ๊กบี้”พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ไขก๊อกจากรมว.แรงงาน ไปอย่างไม่ทันร่ำลา .. เป็นการ “เปิดหลุม”ไว้ให้คนข้างหลังเสียวซ่านไปทุกกระทรวง ทำเอาโปรเจกต์ ที่เหล่าเสนาบดีตั้งหลักจะใส่เกียร์ 5 ในไตรมาสแรก ของปีงบประมาณ ต้องตบเกียร์ P นิ่งไว้ก่อน .. เพราะพูดก็พูดเถอะ น่าจะมี“นายกฯตู่”ที่ชัวร์ ในอนาคตตัวเองคนแรก รายอื่นมีสิทธิ์ขยับทั้งสิ้น .. โดยเฉพาะรายของ “บิ๊กฉัตร”พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ที่พักหลังอ่วมพะยะค่ะ เป็น“ตำบลกระสุนตก”โดนขย่มเป็น “เต็ง 1”ถูกโยก แบบที่ “เซียนข้างบ่อน”ทุ่มแทง จนเจ้ามือไม่กล้ารับ .. เอาจริงถือเป็น“สายแข็งโป๊ก”อาจทำงานไม่ถูกใจหลายคน แต่ถูกใจ“เพื่อนตู่”มาตลอด .. ทว่าด้วยหมากสละ“เพื่อน”รักษา “พี่”หลบกระแสร้อน ทั้ง“พี่ป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ “พี่ป๊อก”พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เรียกว่า “เพื่อนฉัตร”ยังโคม่า เป็นตายเท่าๆ กัน .. ข่าวล่าว่า บิ๊กที่มีนิกเนมน่าชังอย่าง“บิ๊กนมชง”ยังเหนียว แน่น หนึบ ยังไงก็มีเก้าอี้รองก้น เช่นเดียวกับ “พี่ป้อม - พี่ป๊อก”ที่รอบนี้ข่าวแซะเงียบกริบ แต่ที่แพกกระเป๋าแน่นอนแล้วก็มี ออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯ ส่วน 8 รัฐมนตรี ที่ยังมีชนักเรื่องถือหุ้นขัดรัฐธรรมนูญ .. ก็ทำท่าจะ “หมดรอบ” แต่ถูกมองข้ามไปอีกราย ก็ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ที่ข่าวว่าทำทั้ง“บิ๊กตู่”และ“เฮียกวง”สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ออกอาการหงุดหงิดมาพักใหญ่ .. ด้วย “แอคชั่นแพลน”มูลค่าเป็นล้านล้านบาท ค้างคาราคาซัง จน “เฮียกวง”ต้องลุยไปบูตงานที่ “กระทรวงหูกวาง”ด้วยตัวเอง .. โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง อย่างรถไฟไทย-จีน สายอีสาน แค่เฟสแรก กทม.-โคราช 3.5 กิโลเมตร เสาเข็มยังไม่ได้ตอก ทั้งที่เป็นแอ็กชั่นแพลนของปี 59 ด้วยซ้ำ .. ไม่ต้องถามว่าแค่ 3 เฟส 249 กิโลเมตร เอาเป็นว่าติดขัดทุกขั้นตอน พันธะสัญญาต่างๆ อะไรไม่ได้เซ็นต์กันสักที ทั้งที่มี ม.44 เป็นใบเบิกทางให้แล้วแท้ๆ .. ขณะเดียวกัน “โปรเจกต์ อีอีซี”โครงการเรือธงของรัฐบาลคสช. ก็ต้องมีระบบรางเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งด้วย หากเข้าอิหรอบเดิม ก็เจ๊งตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม .. ด้วยว่า“อาคม”เติบโตมาทางสายราชการจ๋า ส่งผลให้ “ใจไม่ถึง”อะไรประเภทแหวกขนบ-อภินิหารกฎหมาย ไม่กล้าลุย .. จนจิ้งจกแถวๆ “กระทรวงราชรถ”ร้องระงม ได้ฤกษ์เปลี่ยนเจ้านายใหม่อีกรอบ .. สงสัยงานนี้ต้องหันกลับพึ่งบริการ “ท็อปบูตใจถึงๆ”มาลุยงานใหญ่ซะแล้ว.
                  
          พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
** ดิ้นอีกเฮือก!! งัดคดีสินบน“เหมืองทองอัครา”ในชั้นป.ป.ช. หวังรอดไม่ต้องจ่าย“ค่าโง่” แต่ช้าไปต๋อย ดันใช้ “อำนาจพิเศษ”จนเคยตัว มัดตัวเองเสียเปรียบทุกประตู

แหม่! โดนทักเยอะว่า จะต้อง“เสียค่าโง่”ให้กับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด จำกัด ที่เป็นบริษัทผู้ถือหุ้น บมจ. อัครา รีซอร์สเซส ในประเทศไทย หลังอีกฝ่ายเอาเรื่องเข้าสู่กระบวนอนุญาโตตุลาการ เพราะได้รับผลกระทบจากการที่ “บิ๊กตู่”ใช้ มาตรา 44 ปิดเหมือง เข้าข่ายขัดข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) .. ด้วยมาตรา 44 มันแน่แต่ในมุ้ง ไม่ครอบจักรวาล ไปสู้กันในระดับสากล ปิดประตูชนะ “แพ้”กับ “แพ้” อยู่ที่แค่ต่อรองว่า สุดท้ายไทยแลนด์ต้องจ่ายค่าโง่เท่าไร .. แม้ผลลัพธ์จะค่อนข้างได้รับเสียงเชียร์ ทั้งเรื่องประโยชน์ส่วนรวม ปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชน ทว่ากระบวนการมันผิด จนโดนเอาเรื่องนี่แหละ .. เห็นมีข่าวจากฝั่งสนามบินน้ำ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าอาจจะใช้คดีที่กำลังไต่สวนข้อกล่าวหา“คิงส์เกต”ติดสินบน “นักการเมือง-เจ้าหน้าที่”สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในชั้น ป.ป.ช.ไปต่อสู้ดู .. หลักๆ ที่มีชื่อก็ วิเชษฐ์ เกษมทองศรี อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเสริฐ บุญชัยสุข อดีต รมว.อุตสาหกรรม รวมทั้งอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ที่ตอนนั้นใหญ่โต เป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ..

ข้อกล่าวหามีว่า บุคคลเหล่านี้และพวก ไปเรียกรับทรัพย์สินเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ “คิงส์เกต”เข้ามาสำรวจ-ทำเหมืองทองในไทย .. เรื่องนี้กำลังถูกงัดเป็น“ท่าไม้ตาย”ที่ “รัฐบาลไทย”จะเอาไปแย้งว่า กระบวนการอนุญาตให้สำรวจเหมืองของ“คิงส์เกต”ผิดมาตั้งแต่ต้น เท่ากับว่า สัญญาจะเป็นโมฆะ .. แต่ ณ เวลานี้ “คิงส์เกต”รวมทั้งผู้ถูกกกล่าวหาทั้งหมดยัง“บริสุทธิ์”อยู่ ต้องรอให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดซะก่อน .. จุดนี้ไม่ยาก ป.ป.ช.ยุค“สายตรงวงษ์สุวรรณ”โดย “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ซ้ายหันขวาหันได้อยู่แล้ว .. ไม่ใช่แค่เอาไปต่อสู้คดีเท่านั้น บางคนยังมองกันไปถึงขนาดรัฐบาลไทยฟ้องกลับ เรียกค่าเสียหายด้วยซ้ำ .. แต่อะไรมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ก็ด้วย “ใจเร็วด่วนได้”ไปชักดาบอาญาสิทธิ์ ม.44 ฟันโชะไปซะก่อนที่คดีจะสิ้นสุดนี่สิ .. จะเอามาอ้างในชั้นอนุญาโตฯ ก็อาจจะไร้ผล อีกทั้งหากคดี “มีมูล-มีเชื้อ”จริง ป.ป.ช.ก็คงไม่ดองมาจนป่านนี้หรอก .. ก็ถือได้ว่าพยายาม“ดิ้นอีกเฮือก”เผื่อจะรอดพ้นบ่วง “ค่าโง่”เท่านั้น เพราะว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ก็ยังเสียเปรียบเขาเต็มประตู .. อันนี้ไม่ได้แช่ง แล้วก็ไม่ได้อยากให้เอาภาษีเราๆ ท่านๆไปจ่ายค่าโง่ให้ฝรั่งมังค่าซะด้วย .. แค่อยากชี้ให้เห็นว่า อำนาจเป็นของร้อน ไม่ใช่ของเล่น คิดจะใช้ต้องใคร่ครวญ ไตร่ตรอง ให้ดีเสียก่อนครับเจ้านาย.

ช.ชฎา
กำลังโหลดความคิดเห็น