ทูตไทยประจำโตเกียว แจงเข้าช่วย “แรงงานเถื่อน” ที่ “ไตวายเฉียบพลัน” แล้ว ยันไม่มีการเลือกปฏิบัติ แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบยืมเงินในการช่วยคนไทย ทั้งกรณีป่วยหนักเข้า รพ. หรือต้องโทษจำคุก แต่เมื่อส่งตัวกลับประเทศ ต้องชดใช้รัฐทุกบาททุกสตางค์ เผย ปี 60 ให้ “คนไทยยืมเงิน” กรณีเช่นเดียวกัน กว่า 10 ล้านเยน แล้ว ด้าน “กระทรวงแรงงาน” ย้ำ “แรงงานเถื่อน” อย่าหวังพึ่งรัฐบาลให้เข้าช่วย “ฟรี”
วันนี้ (10 พ.ย.) มีรายงานว่า จกกรณีสงคมออนไลน์ เผยแพร่เรื่องเล่าของ 2 สามีชาวไทย ที่ลักลอบไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย โดยจ่ายเงินให้กับนายหน้าแรงงานเถื่อนเป็นเงินหลายแสนบาท ต่อมาได้เกิดป่วยหนักด้วยโรคไตวายเฉียบพลัน ระบบหัวใจล้มเหลว ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่เนื่องจากเป็นแรงงานเถื่อน จึงไม่ได้สิทธิประกันสุขภาพใดๆ ทำให้ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลหลายแสนบาท
ล่าสุด สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ว่า สืบเนื่องจากกรณีแรงงานไทยที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นอย่างผิด กม. ป่วยเป็นโรคไตวายเฉียบพลัน และนำไปสู่กระแส Social Media เกี่ยวกับการดำเนินการของ สอท. ณ กรุงโตเกียว ต่อกรณีดังกล่าว นั้น
สอท. ขอชี้แจง ว่า สอท. ดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ในญี่ปุ่นทุกคน ไม่ว่าจะเข้าเมืองมาถูกต้องตาม กม. หรือ ผิด กม. โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ โดยการให้ความช่วยเหลือเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ พ.ศ. 2549 หมวด 2 การให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับความเดือดร้อนในต่างประเทศ และกรณีที่ สอท. ให้ความช่วยเหลือส่วนใหญ่เป็นการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่พำนักอยู่โดยผิดกฎหมายด้วย โดยหากเป็นผู้ป่วยที่ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ สอท. จะเจรจากับโรงพยาบาล ขอให้รับรักษาโดยผ่อนจ่ายค่ารักษาพยาบาลทีหลัง (หลายโรงพยาบาลปฏิเสธที่จะรักษา หากไม่มีเงิน) และกรณีที่โรงพยาบาลไม่ยอมให้ผ่อนจ่าย สอท. ก็จะให้ยืมเงิน ทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทย
นอกจากนี้ สอท. ยังให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจำคุกในญี่ปุ่น โดยได้เข้าเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ส่งของใช้ที่จำเป็น ตลอดจนมีกลไกของอาสาสมัครในการช่วยติดตามความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของคนไทยในเรือนจำอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับกรณีที่เป็นข่าว สอท. ได้ช่วยเจรจากับโรงพยาบาลเพื่อขอให้ดำเนินการรักษาจนสามารถเดินทางกลับได้ โดยให้ผ่อนชำระค่ารักษาพยาบาลทีหลัง และ สอท. ได้แจ้งญาติของผู้ป่วยแล้วว่า พร้อมที่จะให้ยืมเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทย
สำหรับการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเมื่อป่วยในประเทศญี่ปุ่นนั้น คนไทยไม่ว่าจะพำนักอยู่ในญี่ปุ่นอย่างถูก กม. หรือ ผิด กม. จะต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเอง โดย สอท. สามารถให้ความช่วยเหลือได้โดยการให้ยืมเงิน ซึ่งในปี 2560 สอท. ณ กรุงโตเกียว ใช้งบประมาณเพื่อช่วยเหลือคนไทยตกทุกข์เฉพาะกรณีการให้ยืมค่ารักษาพยาบาลและค่าเดินทางกลับ ปทท. ไปกว่า 10 ล้านเยนแล้ว (2 ล้านบาทเศษ)
สอท. ขอชี้แจงว่า การให้ความช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่นนั้น เป็นหน้าที่หลักของ สอท. และ ที่ผ่านมา สอท. ได้ให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ในญี่ปุ่น ทั้งที่เข้าเมือง/พำนักโดยถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติใดๆ ทั้งสิ้น ตามระเบียบราชการและตามหลักมนุษยธรรม
มีรายงานด้วยว่า ขณะที่ กระทรวงแรงงาน ได้เร่งประสานมายังสถานทูตไทยในญี่ปุ่น ให้ดูแลช่วยเหลือทั้งด้านความเป็นอยู่และค่ารักษาพยาบาลแล้ว ซึ่งหากแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ก็จะส่งตัวกลับประเทศไทย แต่เมื่อมาถึงไทยแล้ว ทั้ง 2 สามีภรรยานี้จะต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ภาครัฐออกให้ภายในเวลาที่กระทรวงกำหนด เนื่องจากเป็นการเดินทางไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย จึงไม่ได้รับการคุ้มครองใดๆ
“กระทรวงแรงงาน เตือนผู้ที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ต้องเดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอย่าหวังพึ่งรัฐบาลจะให้เข้าช่วยเหลือแรงงานเถื่อน เพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่ลักลอบไปทำงาน ต้องกลับมาชดเชยค่าใช้จ่ายคืนให้กับรัฐบาลในทุกกรณี”