ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ยศฐาไม่ค้ำฟ้า!! วิบากกรรม "ดิสธร วัชโรทัย" บทเรียนครั้งสำคัญให้ “ผู้มีอำนาจ” ได้สำเหนียก หากมีโอกาสแล้วทำไม่ถูกต้อง “เส้นวาสนา” ก็พร้อมขาดได้ทุกเมื่อ
กรณีของ ดิสธร วัชโรทัย ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายพลเรือน ที่มีคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ ฐาน “ประพฤติชั่วร้ายแรง” .. น่าจะเป็นกรณีศึกษา-กรณีตัวอย่างที่ดีสำหรับ “ผู้มีอำนาจ” ทั้งหลาย ให้ได้สำเหนียกว่า “อำนาจ-วาสนา-ยศฐาบรรดาศักดิ์” ล้วนเป็น “สิ่งสมมุติ” เมื่อถึงคราวย่อมเสื่อมสลาย .. แต่หากยิ่งประพฤติปฏิบติมิชอบ ไม่สมกับโอกาสที่ได้รับแล้ว ก็เป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ “อำนาจ-วาสนา-ยศฐาบรรดาศักดิ์” เสื่อมสลายเร็วยิ่งขึ้น .. ก็ต้องถามว่า 3 ปีกว่ามานี้ ประเทศชาติได้อะไรจาก “รัฐบาล คสช.” ในฐานะ “ผู้มีอำนาจ” ที่มีทั้ง “โอกาส - เวลา” และ “อำนาจ” ที่เหลือล้นมากกว่าหลายคณะ-หลายบุคคลในอดีตที่ผ่านมาด้วยซ้ำ .. เป็นเช่นนี้แล้ว “อนาคต - จุดจบ” จะเป็นเช่นไร อาจได้เห็นไม่นานอย่างที่คิด
** ประยุทธ์โพล!! “ลุงตู่” ยิง 6 คำถามหาแนวร่วม ปูทางตั้งพรรค คสช. รู้แล้วว่าเลี่ยง “เลือกตั้ง” ไม่พ้น แต่อาจจะสายเกินไป เมื่อกลายเป็นที่รังเกียจของ “ทีมคนเก่ง-โปรไฟล์ดี” ไปแล้ว
เปลี่ยนใจไวแท้ .. วันก่อนยังเจอถามถึง “พรรค คสช.” ทาง “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังออกท่าอิดออดว่า ขอดูสถานการณ์ก่อน .. ผ่านไปชั่วข้ามคืนนึกครึ้มโยน 6 คำถามให้ประชาชนตอบ (อีกแล้ว) อ่านแค่ประโยคแรกที่ว่า “เราจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองใหม่ๆ” ก็ “เห็นลิ้นไก่” .. แบบนี้มันโยนหินถามโต้งๆว่า ถ้า คสช.จะตั้งพรรคจะเป็นไรไหม?? .. คำถามข้อ 2 ยิ่งหนัก เหมือนไม่ได้ถาม แต่ประกาศว่า ถ้า คสช.จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด ก็เป็นสิทธิ? เพราะตัว “นายกฯตู่” ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง .. แค่นี้ก็รู้เช่นเห็นชาติ ไม่ต้องไล่อ่านให้ครบด้วยซ้ำ ถอดรหัสแต่ละคำถาม มีคำตอบไว้เสร็จสรรพ “ถามเอง ตอบเอง” แบบนี้ไม่ต้องให้ประชาชนได้ทันอ้าปากด้วยซ้ำ .. 6 คำถามรอบนี้หนักกว่า-ชัดกว่า 4 คำถามหนเมื่อกี่เดือนก่อนหลายเท่า ก็หนนี้ตีความไม่ยากว่า “ขอสืบทอดอำนาจ” แหงแซะ .. หรือขมวดปมได้ประมาณว่า “ถ้า คสช.ตั้งพรรคการเมืองลงเลือกตั้ง ประชาชนจะสนับสนุนไหม” .. จนอาจพูดได้ว่าเป็น “ประยุทธ์โพล”ที่ทั้งซาวเสียงผู้สนับสนุน รวมทั้งหาแนวร่วม-ต้อนคนเข้าพรรคล่วงหน้า .. เพราะรู้ดีว่า “ไฟต์บังคับ” ที่แท้จริงคือ “การเลือกตั้ง” ที่อาจจะยื้อได้ แต่เลี่ยงไม่ได้ .. แต่ก็รู้ดีอีกว่า ครั้นจะบึ่งเข้าคูหาในสภาพปัจจุบัน ที่ศรัทธาเสื่อม เรตติ้งต่ำตม ก็ไป
ไม่รอด “ข้อได้เปรียบ” ที่อัดลงไปในรัฐธรรมนูญแน่นหนา ก็เอาไม่อยู่ .. ก็เลยเลยเหนียมแล้วมาถาม “แฟนนานุแฟน” ว่าจะหนุน “พรรค คสช.” ไหม ก็ด้วยรับรู้ได้ว่า คะแนนนิยมดิ่งฮวบ ขืนไม่เช็คทิศทางลมให้ดี ท่าจะไม่รอดสันดอน .. ที่ต้องขีดเส้นใต้ตัวโตๆเป็น "คีย์เวิร์ด" ที่สะท้อนความคิดของ "บิ๊กตู่" ได้เป็นอย่างดีคือ การเน้นเรื่อง “นักการเมืองหน้าใหม่ๆ ที่มีคุณภาพ” หรือ “ถ้า คสช.จะสนับสนุนพรรคการเมืองใด ก็เป็นสิทธิ” .. เหมือนคิดสูรผสม "พรรค คสช.” ไว้ล่วงหน้าว่า เป็นพรรคทหารเพียวก็ไปไม่รอด จะไปผสมพันธุ์กับแค่ “นักเลือกตั้ง - นายทุน” ก็มีประวัติศาสตร์ “พรรค คมช.” ก็ตายหยั่งเขียดมาแล้ว .. คำตอบสุดท้ายที่จะไปรอดก็เป็น "นักการเมืองหน้าใหม่ๆที่มีคุณภาพ” มากกว่า .. แต่ 3 ปีกว่าผ่านมาก็พิสูจน์ได้อีกว่า แต่เลือกใช้คนผ่านการตั้งรัฐมนตรี การปรับ ครม. ก็มีแต่พวกพ้องน้องพี่ "คนนอก"”ที่ยอมมาร่วมงานเป้นแค่ "ตัวประกอบ” ตกสเปค “คุณภาพคับแก้ว” อย่างที่คนคาดหวัง .. เสมือนเป็นการ "โดดเดี่ยวตัวเอง"”ไปเรื่อยๆ .. ปรับ ครม.รอบนี้จึงถือว่า "ชี้เป็นชี้ตาย" โจทย์ใหญ่คือการกระชากความนิยมให้กลับคืนมา หากทำไม่ได้ก็จบ .. เชื่อว่า "บิ๊ก คสช.” น่าจะคิดได้หากคิดแบบเดิม ยึดผลประโยชน์พวกพ้อง ก็เท่ากับ "นับถอยหลัง" .. แต่ก็อีกแหละ คิดได้วันนี้ ก็ช้าไปต๋อย อาจจะอยากปรับ “ตัวปัญหา” ออก แต่จะไปเชื้อเชิญ “พวกโปรไฟล์ดี” มาร่วม ก็คงไม่มีใครเอาด้วย ดูเถอะว่า “แคนดิเดต รมต.” ที่มีข่าวหลุดๆออกมา ก็ไร้ “คนนอก - คนมีฝีมือ” มีแต่ชื่อซ้ำๆหน้าเดิมๆ โดยเฉพาะ “ขุนทหาร” ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊ก เบี้ยว”พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข อดีตเสนาธิการทหารบก ตท.15 เพื่อน “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายลุงตู่ ที่ 3-4 ปีมานี้ได้นั่งเก้าอี้เบิ้มๆทั้งประธานบอร์ด อสมท หรือประธานคณะกรรมการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ที่จนปัญญาราคายางตกต่ำวนลูปไปนี่ไง .. “บิ๊กช้าง” พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม (ตท.16) หรือที่มาแรง “ทีมเพื่อนตู่” ส่งประกวดอย่าง พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ อดีตหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา (ตท.12) ก็เข้าทำนอง “คนที่ไว้ใจ-ตอบแทนบุญคุณ” อีกนั่นแหละ .. สังเกตได้ว่าชื่อ “ว่าที่ รมต.” ที่หลุดๆออกมา ก็วังวนเดิม ไร้แสงสว่าง “ทีมคนดี - คนเก่ง” ขันอาสามาร่วมกู้วิกฤต คสช.บ้าง ด้วยต่างก็รู้ดีว่า เข้ามาก็เปลืองตัว .. ไม่เท่านั้นยังเสี่ยงติดมะเร็งไปด้วยอีกต่างหาก เมื่อรู้ว่าต้องมาสัมผัส “เนื้อร้าย” ทั้งพี่ใหญ่ “ป๋าป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่รอง “ป๋าป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา .. ด้วยกระแสข่าวปรับ ครม.งวดนี้ไม่สะเทือนถึง “พี่ป้อม - พี่ป๊อก” เหมือนรอบที่ผ่านๆมาอีกต่างหาก.
** หลักประกันวันสิ้นอำนาจ!! ส่ง “บิ๊กป๊อด” คุมแก้กฎหมาย ป.ป.ช. ยึดไว้เป็น “เมืองขึ้น คสช.” ทั้งอุ้ม “วัชรพล” สายตรงวงษ์สุวรรณ พร้อมวาง “ค่ายกล” ปิดทางโดน “เช็คบิลย้อนหลัง” เผื่อวันหน้าอำนาจหลุดมือ
การปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 เท่านั้นอาจจะเป็น “โอกาสสุดท้าย” ที่จะชี้วัดอนาคตของ “ลุงตู่และชาวคณะ” .. แต่หากจับ “ภาษากาย” ผ่านการเคลื่อนไหวหลายเรื่องที่ “ค้านสายตา” ก็สะท้อนว่า “บิ๊ก คสช.” เริ่มมีการปูทาง หาทางลง เอาไว้บ้างแล้ว .. ด้วยรู้ว่า อะไรที่ว่าแน่ มันเริ่มไม่แน่เสมอไป อย่างผลจาก “ซูเปอร์โพล” นั่นประไร ครั้งหนึ่งหนุน “รัฐบาล คสช.” อยู่ยาวๆ 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ .. พริบตาเดียว พลิกหน้ามือเป็นหลังเท้า เหลือคนนิยม “รัฐบาล คสช.” แค่ 52 เปอร์เซ็นต์ ที่ว่ากันว่ามี “คะแนนเกรงใจ” จากคนทำโพลบวกให้เป็นพิเศษแล้วด้วยซ้ำ .. มาทรงนี้ แย่ที่สุดอาจยื้อได้ไม่ถึงเลือกตั้ง หรือหากเอาตัวรอดไปได้ ก็อาจจะไม่ได้หวนคืนมาเสวยอำนาจอีกคำรบ .. แม้จะพยายามปั้นฝันผ่าน “พรรคคสช.” แต่ก็ไร้เสียงตอบรับจาก “ทีมคนเก่ง-โปรไฟล์ดี” เสียอีก .. เมื่อ “เหยื่อ” รู้ว่าโดนจี้ด้วย “ปืนไม่มีกระสุน” วันเปิดคูหาเลือกตั้งที่เคยเซตไว้เป็นเส้นทางสืบทอดอำนาจ อาจจะกลายเป็น “วันพิพากษา คสช.” ด้วยซ้ำ สถานการณ์แบบนี้ ก็เลยเริ่มเตรียมการวางแผน เผื่อวันหนึ่งเก้าอี้หลุด จะได้ “ล้มบนฟูก” ไม่ต้องถูกไล่เช็คบิลอย่างที่ “โจกท์ คสช.” ที่วันนี้มีทั่วบ้านทั่วเมือง กัดฟันกรอดขู่กันเอาไว้ ..อย่างการพิจารณาแก้ไข ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือ “ร่างกฎหมาย ป.ป.ช.” ที่เป็นหนึ่งในกฎหมายลูกฉบับสำคัญ ในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) .. ปรากฎว่ารายชื่อกรรมาธิการ ทั้งตัวแทนจาก สนช.-ครม. ล้วนแล้วแต่โยงใยจาก “บ้านใหญ่วงษ์สุวรรณ” .. ไล่เรียงตั้งแต่ “น้องป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย “ป๋าป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ควงคู่หู พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ มาเป็น กมธ.ด้วย .. ทั้งที่ “พัชรวาท - บุญเรือง” มีเรื่องถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบว่า “ร่ำรวยผิดปกติ” อยู่ในฐานะ “ผู้ถูกกล่าวหา” กลับได้มาเป็น กมธ.รื้อกฎหมายของ “ผู้กล่าวหา” .. เหตุที่ต้องจัด “ทีมชุดใหญ่” ก็ด้วยภารกิจยึด ป.ป.ช.ไว้เป็น “เมืองขึ้น” ในการต่อวีซ่าให้ ป.ป.ช.ที่ส่อถูก “รีเซ็ต” ตกกระป๋องตามรัฐธรรมนูญใหม่ .. โดยเฉพาะ “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ที่เคยยอมรับว่าเป็น “สายตรงวงษ์สุวรรณ” อย่างภาคภูมิใจ .. อีกทั้งยังถูกมองว่า มี “วาระซ่อนเร้น” เกี่ยวกับวาง “ค่ายกล” ไว้ในเนื้อหาที่เกี่ยวกับการไต่สวนเอาผิดกับ “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ทั้งทางแพ่ง-อาญา ปิดทางโดน “เช็คบิลย้อนหลัง” เผื่อวันหน้าอำนาจจะหลุดมือ.
ช.ชฎา