ข่าวปนคน คนปนข่าว
** นี่แหละหนา “ข้าราชการไทย”!! เอาหน้า-ดูแลนาย-ถือพวกพ้อง จนทำ “งานสำคัญ” เสียหาย มินำพารับสั่งให้ดูแลประชาชน
ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อย พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร .. ในขณะที่การจัดพระราชพิธีที่พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ได้รับเสียงชื่นชมในความ “สมพระเกียรติ” แบบกระหึ่มโลก .. แตกต่างจากการจัดพิธีวางดอกไม้จันทน์ หน้าพระเมรุมาศจำลอง ในส่วนภูมิภาคของหลายจังหวัด ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง “ความไม่สะดวก” ตามมา .. ทั้งที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งให้หน่วยงานภาครัฐอำนวยความสะดวกประชาชนที่มาร่วมพระราชพิธี ให้ดีที่สุด .. ซึ่งก่อนหน้าวันจริง กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้กำกับดูแลการจัดพระเมรุมาศจำลอง 76 แห่งทั่วประเทศ ก็ออกมาขานรับ โดย “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ระบุเองว่าได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมซักซ้อมการปฏิบัติเพื่อจัดงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยเฉพาะในส่วนของ “พระเมรุมาศจำลอง - ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์” .. ทว่าเมื่อถึงวันจริง ทุกอย่างกลับตาลปัตร ชาวบ้านหลายจังหวัดต่างบ่นระงมในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น .. อย่างที่ จ.ชลบุรี เกิดกระแสในโลกออนไลน์ที่โจมตีการทำงานของทางจังหวัดที่บริหารจัดการล้มเหลว ถึงขั้นเรียกร้องให้ ภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าฯชลบุรี ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ .. มีการแฉว่าถูกให้ต่อคิวยาวเป็น “เขาวงกต” ปล่อยให้ชาวบ้านคอยนานมากกว่า 7 - 8 ชั่วโมงกว่าจะได้วางดอกไม้จันทน์ .. แต่ปรากฎว่ากลับเปิดทางให้ “ข้าราชการ” ด้วยกันได้ “สิทธิพิเศษ” เข้าวางดอกไม้จันทน์ก่อน .. รวมทั้งมีการวิพากษ์การทำงานที่ไม่เหมาะสมของทางจังหวัด ที่จัดงานออกมา “ไม่สมพระเกียรติ” .. สะท้อนวิธีคิด “ข้าราชการไทย” ยังยึดกับความเคยชินเดิมๆ ในการสร้างผลงานเอาหน้า ยึดศักดินาดูแล “นาย” ดูแล “พวก” ด้วยกันเป็นอันดับแรก ไม่ใส่ใจประชาชนเหมือนเคย .. ต่างจากที่ “ในหลวง ร.๑๐” ทรงห่วงใยพสกนิกร รับสั่งให้ดูแลประชาชน
น้องน้ำแผลงฤทธิ์!! “นายกฯตู่” วางโปรแกรมลงพื้นที่น้ำท่วม 2 วันติด โชว์กึ๋น “ผู้นำประเทศ” ท่วมนานนักให้ชาวบ้านทำประมงซะเลย
ไม่พูดพร่ำทำเพลง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางโปรแกรมลงเยี่ยม “พื้นที่รับน้ำ” 2 วันรวด .. เมื่อวานไป อ่างทอง วันนี้หลังประชุม ครม. ก็จะจับเครื่องไปที่ขอนแก่นบ้าง .. โดยก่อนหน้านี้คนในรัฐบาล ทั้ง “บิ๊กไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล และ “บิ๊กนมชง” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ต่างออกมาบิ๊วส์กระแสปูเรื่องไว้ก่อนว่า มวล “น้องน้ำ” เวอร์ชั่น 2560 ไม่ต่างจากเมื่อครั้ง “มหาอุทกภัย” ปี 2554 แต่รับมือสบายมากด้วย “รัฐบาล คสช.” มีระบบบริหารจัดการที่ดีกว่า ว่าเข้าไปนู้น .. พูดแบบ “ยกตนข่ม” ไม่ดูสภาพความเป็นจริงเลยว่า ไม่เพียงแต่ “น้องน้ำ” จะสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้าน จนภาพความเสียหายปี 2554 กลับมาหลอน อีกทั้ง “พื้นที่รับน้ำ” ก็จมอยู่ใต้บาดาลมาหลยาเดือนแล้ว .. คิดแต่ว่ามานั่งจ้อปาวๆ ว่าไม่มีปัญหา สบายบรื้ออ เบี่ยงกระแสไม่ต้องโดนด่าแค่นั้น .. เอาเข้าจริง น้ำท่วมรอบนี้ต้องตำหนิ “รัฐบาล คสช.” เต็มๆ อยู่ในอำนาจมา 3 ปีกว่า ทุกหน่วยงานอยู่ในกรอบตามระเบียบพัก สั่งซ้ายหันขวาหันได้หมด แต่ก็การบริหารจัดการน้ำก็ยังมีปัญหาขึ้นมาอีก .. เอาเข้าจริงน้องน้ำปีนี้แค่สิวๆ ไม่ได้หนักหนาเท่า "มหาอุทกภัย" ปี 54 ด้วยซ้ำ .. แต่กลับทำท่ามะหงุมมะงาหรา เหมือนทำอะไรไม่ถูก .. ที่ว่าแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนน่ะ ทำอะไรไปบ้างหรือยัง หลัง "กลืนน้ำลาย" ล้มเลิก คำสั่ง คสช.ที่เคยดึง กรมทรัพยากรน้ำ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มาอยู่ ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักนายกฯ .. และย้อนกลับไปปัดฝุ่นไอเดียเก่า ในการตั้ง สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ บูรณาการทั้งระบบที่เคยพูดกันมาหลายปีแทน เหมือนเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ .. แล้วในระหว่างลงพื้นที่อ่างทอง นอกจาก “ลุงตู่” จะประกาศไม่กลัวหน้าแหกว่า แม้ปัญหาอุทกภัยปีนี้ปริมาณน้ำจะใกล้เคียงกับปี 2554 แต่การบริหารจัดการน้ำถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี พูดเป็นนัยๆว่า “เอาอยู่แน่นอน” ไม่กลัวซ้ำรอยอาถรรพ์ที่ “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประกาศ “เอาอยู่คร่าาา” เมื่อปี 54 เท่านั้นล่ะ จมบาดาลไปค่อนประเทศ .. เป็นบทเรียนชั้นดีของฝ่ายบริหารว่าอย่าดูเบาเรื่องน้ำท่า ยิ่งข้อมูลจากข้าราชการก็ไม่ควรไปเชื่อมากนัก .. ที่ขำไม่ออก “ท่านผู้นำ” ไปโชว์วิสัยทัศน์ สั่งการให้ “ผู้ว่าฯอ่างทอง” ไปหาอาชีพเสริมให้ชาวบ้านช่วงฤดูกาลน้ำท่วม นำร่องด้วย “อาชีพประมง” แล้วให้กระทรวงเกษตรฯกำหนดเป็นโซนนิ่งไปเลย .. แหม่ ไอเดียบรรเจิดจริงๆ.
** ลักไก่เป็นว่าเล่น!! เดือนเดียว “รัฐบาล คสช.” เล่นทีเผลอสารพัด ตั้งแต่ปลดผังเมืองอีอีซี-เครื่องจับซิ่ง มาถึงตั้ง “ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.” ที่มีชื่อ “ลูกมีชัย” ด้วยกินเงินเดือนร่วมครึ่งแสน แถมยังตั้ง “ประวิต เอราวรรณ์” เป็นรองเลขาฯกกอ. รอเสียบเลขาฯรอบหน้า ทั้งที่เรื่องร้องเรียนค้างเพียบ
แค่เดือนเดียว “รัฐบาล คสช.” เล่น “ลักไก่ - ลักหลับ" เป็นว่าเล่น .. ทั้งมติ ครม.จัดซื้อ “เครื่องจับซิ่ง” ราคาแพงระยับ ที่บัดนี้ก็ยังไม่เคลียร์ แล้วก็ยังใช้ “อำนาจคณะรัฐประหาร” ปลดล็อคผังเมืองเดินหน้า “อีอีซี” แต่โครงการอื่นที่อันตรายกว่าดันได้อานิสงค์ไปด้วย .. ไม่เท่านั้นยังมีเรื่องแต่งตั้งที่ตามมาด้วยเครื่องหมายคำถาม ทั้งการตั้งทีมงานประจำตัว “ที่ปรึกษา-สมาชิก คสช.” ที่แม้จะเป็นการแต่งตั้งเพิ่มในส่วนของ “ผู้นำเหล่าทัพ” ที่เข้ามาทำหน้าที่ คสช.ใหม่ แทนคนเก่าที่เกษียณ .. แต่ก็ทำให้คำถามเรื่อง “ผลประโยชน์ต่างตอบแทน” กลับมากระหึ่มอีกครั้ง ด้วย “ผู้ปฏิบัติงานใน คสช.” ที่ได้รับการแต่งตั้ง 34 ราย แบ่งเป็นทหาร-ตำรวจ 31 พลเรือน 3 นั้น เงินเดือนไม่ใช่น้อยๆ รับกันไปคนละ 47,500 บาท แล้วยังมีเบี้ยเลี้ยง-เบี้ยประชุมอีกหลายสะตังค์ .. รายที่หนีไม่พ้นโดนล่อเป้า (อีกครั้ง) ก็ มยุระ ช่วงโชติ บุตรสาวของ มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในฐานะสมาชิก คสช. ที่ได้เป็น รองเลขาธิการฯ ของ “ปะป๊ามีชัย” เอง .. จนมีเสียงเพรียกหา “จิตสำนึก” ของประธาน กรธ.ผู้รังสรรค์ “รัฐธรรมนูญโลกสวย” ที่ขจัดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทุกรูปแบบ แต่ตัวเองกลับตั้ง “ลูกสาวแท้ๆ” มากินเงินเดือนหลวงเดือนละครึ่งแสนด้วยคุณสมบัติ “ไว้ไจได้ - รักษาความลับ” ได้แบบไม่เรียกว่า “ผลประโยชน์ทับซ้อน” ฮา
นอกจากนั้นยังมีในส่วนของมติ ครม. เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่น่าสนใจไม่น้อย กับการแต่งตั้ง ประวิต เอราวรรณ์ รับตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ตามที่ กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ .. ที่ว่าน่าสนใจก็มีเสียงกระซิบออกจากห้องประชุม ครม.ว่า มีเสียงคัดค้านในที่ประชุม เรื่องคุณสมบัติของ “ดร.ประวิต” แต่คนชงเรื่องอย่าง “หมอธี” นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศีกษาธิการ การันตีว่า “ขวาจั๊วะ” จนได้รับไฟเขียวออกมารอการโปรดเกล้าฯเข้ารับตำแหน่ง .. ยิ่งมาคุ้ยประวัติ “ดร.ประวิต” ผู้นี้แล้วก็ต้องบอกว่า “ไม่ธรรมดา” เคยได้รับการโปรดเกล้าฯเป็น อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เมื่อช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมา .. แต่อยู่ในตำแหน่งแบบ “หม้อข้าวยังไม่ทันดำ” แค่ไม่ถึง 4 เดือนก็ลาออก ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ประกาศทั่วคุ้งทั่วแควว่ามี “ผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาฯ” ทาบทามให้ไปช่วยทำงานในระดับชาติ .. ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเป็น “หมอธี” ที่ยืมตัวจากสังกัดจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มาช่วยปฏิบัติงานด้านการพัฒนาครูที่ส่วนกลาง .. ระหว่างนั้น “ดร.ประวิต” เข้าสมัครและเป็นตัวเต็งเก้าอี้ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) แต่ด้วยการอ้าง “ผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ” ไม่ขาดปาก ทำให้สถานการณ์กลับตาลปัตร คณะกรรมการสรรหาฯไม่กล้าเลือก กลัวเข้าข่าย “หวยล็อค” .. หลังแห้วตำแหน่งที่ว่า ก็ยังได้รับการวางตัวเป็นอนุกรรมการในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) สะท้อนความรู้ความสามารถแบบหาตัวจับยาก .. ทว่าก็มีข้อมูลไหลออกมาจาก “ม.นครพนม” ที่ “ดร.ประวิต” ทิ้งทุ่นไปเมื่อหลายเดือนก่อนว่า มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอดีตอธิการบดีคนนี้ในสมัยรักษาราชการการอธิการบดี ม.นครพนม เมื่อปีกลายอยู่เป็นหางว่าว .. อาทิ ประเด็นการเบิกค่ารถประจำตำแหน่งเกินความจริง การอนุมัติทุนศึกษาต่อต่างประเทศให้กับพวกพ้องที่เข้าข่ายผิดระเบียบราชการ รวมทั้งการไม่อนุมัติลาไปต่างประเทศตามขั้นตอน .. ซึ่งตอนนี้ได้ส่งผลการสอบสวนถึง เลขาธิการ กกอ.ที่กำกับดูแล ม.นครพนม รวมทั้งมีการส่งเรื่องไปยัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วด้วย .. อีกทั้งยังมีเรื่องร้องเรียนสมัยที่ทำหน้าที่คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ ม.มหาสารคาม เกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพครูอีกหลายกรณี .. จนทำให้คนที่ “ม.นครพนม - ม.มหาสารคาม” ต่างระคนสงสัยว่า เหตุใด “ดร.ประวิต” จึงได้รับความเมตตาจาก “ผู้ใหญ่” ให้เป็นใหญ่เป็นโต ทั้งที่มีชนักติดหลังมากมาย .. ที่สำคัญยังมีข่าวด้วยว่า ได้รับการผลัดดันเป็นรองเลขาธิการ กกอ. เพื่อรอเสียบยอดขึ้นเป็น เลขาธิการ กกอ.ในสมัยหน้าด้วย.
ช.ชฎา