มท.แจ้ง อปท.เปลี่ยนระบบจัดซื้อจัดจ้าง “นมโรงเรียน” มาใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ตามกฎกระทรวงจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ พร้อมให้อำนาจต่อเนื่อง “ปศุสัตว์จังหวัด” มีหน้าที่รับรายงานปัญหา-ข้อร้องเรียน ตั้งทีมสอบข้อเท็จจริงปัญหานมโรงเรียนระดับพื้นที่ ก่อนสรุปให้ “มิลค์บอร์ด” รับทราบโดยเร็ว
วันนี้ (24 ต.ค.) มีรายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ลงนามในประกาศกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ภาคเรียนที่ 2/2560 โดยให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน) ให้เข้ามาดำเนินการครอบคลุม 4 ด้าน ประกอบด้วย 1.การกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มโคนม โดยให้ขึ้นทะเบียนรับรองเป็นฟาร์มที่ได้มาตรฐานเกณฑ์การประเมิน เช่น โรงเรือน คุณภาพนม มีสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มเพื่อผลิตน้ำนมดิบซึ่ง 13,903 ฟาร์มที่ผ่านเกณฑ์แล้ว จำนวน 4,065 ฟาร์ม คิดเป็น 29.24% และมีเป้าหมายการดำเนินงานครบถ้วน 100% ภายในภาคเรียนที่ 2/2560 ที่จะเปิดเทิมในวันที่ 1 พ.ย.นี้
2. คุณภาพน้ำนมดิบ ทั้งปริมาณของแข็งรวม ที่ยกระดับมาตรฐานให้เป็น 12.25% ในภาคเรียน 2/2560 มีการตรวจติดตามคุณภาพและมาตรฐานน้ำนมดิบ โดยเก็บตัวอย่างจากศูนย์รวมรวบน้ำนมทุกศูนย์ฯ เดือนละ 1 ครั้ง พร้อมทั้งมีการให้ความรู้ความเข้าใจกับเกษตรกร และเพิ่มประสิทธิภาพทั้งระบบ เช่น ปรับปรุงอาหารโดยนำอาหารสำเร็จมาใช้ ส่วนการยกระดับมาตรฐานปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวมีเป้าหมายลดจำนวนปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาว เหลือ 500,000 เซลล์/ซีซี ในภาคเรียนที่ 2/2560 โดยให้ความรู้แก่เกษตรกร และตรวจติดตามคุณภาพโดยเก็บตัวอย่างจากศูนย์รวบรวมน้ำนมทุกศูนย์ฯ เดือนละ 1 ครั้ง อย่างต่อเนื่อง
3. การขนส่งนมโรงเรียน เบื้องต้นพบว่า รถขนส่งนมโรงเรียน รวม 922 คัน แยกเป็นรถห้องเย็นขนส่งนมพาสเจอร์ไรส์ จำนวน 675 คัน และรถบรรทุกนม UHT จำนวน 247 คัน และ 4. การจัดเก็บผลิตภัณฑ์นมที่โรงเรียน ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจัดเก็บนมที่โรงเรียน ทั้งนมพาสเจอไรซ์ และ UHT โดยให้โรงเรียนถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการตรวจรับ โดยสุ่มตรวจคุณภาพ พร้อมตัดชิมก่อนที่จะให้เด็กนักเรียนดื่ม ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะเป็นผู้สนับสนุนอุปกรณ์ในการรักษาคุณภาพนมพาสเจอร์ไรส์ เช่น ถังแช่/ตู้เย็น เทอร์โมมิเตอร์ ฯลฯ
แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า ล่าสุด กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งหลักเกณฑ์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนและกำหนดวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีคัดเลือกและวิธีเฉพาะเจาะจง พ.ศ.2560 กับผู้ประกอบการที่ได้รับมอบอำนาจจาก อ.ส.ค.ในการซื้อขายกับ อปท.ในภาคเรียนที่ 2/2560 และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐ
“ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ มีผู้ว่าฯ เป็นประธาน โดยให้แต่งตั้ง ปศุสัตว์จังหวัด และปศุสัตว์อำเภอ เป็นเลขานุการ ตามประกาศของกระทรวงเกษตรฯ โดยปศุสัตว์จังหวัด มีหน้าที่รับรายงานปัญหาและข้อร้องเรียนโดยตรงจากบอร์ดนมโรงเรียนระดับพื้นที่ ก่อนนำเข้าที่ประชุมในระดับจังหวัด ซึ่งปศุสัตว์จังหวัดจะนั่งเป็นประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้วแต่กรณี ก่อนสรุปให้ฝ่ายบริหารรับทราบโดยเร็ว”