xs
xsm
sm
md
lg

กอร.พระราชพิธี แจงคิวริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ ตั้งจุดคัดกรอง 29 จุด พร้อมดูแล ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กอร.พระราชพิธี เผยคิวริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ วันจริง ตั้งจุดคัดกรองเพิ่ม 29 จุด ติดกล้องซีซีทีวีทั่วกรุงกว่า 5 หมื่นตัว-จอแอลอีดี ถ่ายทอดสด 62 แห่ง บริการอาหาร-รถสุขา พร้อมชุดแพทย์ประจำและเคลื่อนที่ ดูแลประชาชน เตือนเตรียมตัวมาอย่างดี

วันนี้ (13 ต.ค.) เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธี) จัดแถลงข่าวเรื่องการจัดซ้อมริ้วขบวนพระราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พล.ต.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร นายณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์

พล.ต.สันติพงษ์กล่าวถึงการซ้อมริ้วขบวนในพระราชพิธี ว่ากองทัพภาคที่ 1 ได้วางแผน 3 ขั้นตอน คือ 1. คัดเลือกคน โดยเลือกกำลังพลที่มีบุคลิกภาพที่ดี มีความสูงตั้งแต่ 160-165 เซนติเมตร เพื่อให้ภาพการเดินริ้วขบวนเป็นไปอย่างสวยงามสมพระเกียรติ 2. จัดอบรมกำลังพลในเรื่องของการแต่งกาย และกำลังพลทุกคนจะได้รับเครื่องแต่งกายใหม่ พร้อมเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวัง มาให้ความรู้ เพื่อให้เกิดความถูกต้องสวยงามและเป็นไปตามพระราชประเพณีทุกประการ 3. การซักซ้อมแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนคือ 1. การซักซ้อมแยกกัน จะมีข้าราชการ ราชนิกูล รวมจำนวน 7,000 คน จึงจัดชุดครูจากกองทัพภาคที่ 1 ไปฝึกให้กับที่ตั้งหน่วยนั้นๆ โดยขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามระบบเดียวกัน 2. การซักซ้อมแบบรวมกัน ได้กำหนดเอาไว้ 5 ครั้ง

พล.ต.สันติพงษ์กล่าวถึงรายละเอียดของริ้วขบวนที่จะเข้าร่วมประกอบพิธีในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ริ้วขบวนที่ 1 เวลา 08.00 น. จะเริ่มตั้งขบวนอัญเชิญพระบรมโกศ โดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังพระมหาพิชัยราชรถ โดยเริ่มจากที่ประตูเทวาภิรมย์ไปตามถนนมหาราชจนถึงถนนท้ายวัง

พล.ต.สันติพงษ์กล่าวว่า ริ้วขบวนที่ 2 เริ่มปฏิบัติ 09.09 น. เป็นการอัญเชิญพระบรมโกศโดยพระมหาพิชัยราชรถ ไปยังพระเมรุมาศ ณ ท้องสนามหลวง โดยเริ่มต้นจากหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนไปตามถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน และเข้าสู่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และริ้วขบวนที่ 3 ปฏิบัติในเวลา 11.10 น. เป็นการเวียนรอบพระเมรุมาศ จำนวน 3 รอบ

พล.ต.สันติพงษ์กล่าวว่า สำหรับในวันที่ 27 ตุลาคมจะเป็นการปฏิบัติของริ้วขบวนที่ 4 เวลา 09.30 น. เป็นการอัญเชิญพระบรมอัฐิ เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง และในวันที่ 29 ตุลาคม ริ้วขบวนที่ 5 เวลา 10.00 น. การอัญเชิญพระบรมโกศ และพระบรมอัฐิ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นไปประดิษฐ์พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ส่วนในวันที่ 29 ตุลาคมจะเป็นการปฏิบัติของริ้วขบวนที่ 6 คือ ขบวนทหารม้าอิสริยยศ เวลา 17.00 น. เป็นการอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังจุด ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร

ด้าน พล.ต.ต.มนตรีกล่าวถึงในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ จะมีเพิ่มจุดคัดกรองทั้งหมด 29 จุด เป็นพื้นที่ชั้นใน 9 จุด ประกอบด้วย 1. แยกสะพานมอญ 2. ท่าช้าง 3. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 4. พระแม่ธรณีบีบมวยผม 5. ถนนกัลยาณไมตรี 6. แยกวัดเชตุพน 7. ท่าเตียน 8. ท่าพระจันทร์ 9. ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า สำหรับจุดคัดกรองอื่นที่เพิ่มเติมมา อาทิ ถนนเจ้าฟ้า ถนนพระอาทิตย์ ถนนกรุงเกษม ถนนดินสอ

พล.ต.ต.มนตรีกล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางมาถึงก่อนเวลาที่เจ้าหน้าที่จะเปิดให้เข้าภายในพื้นที่มณฑลท้องสนามหลวง จะต้องอยู่นอกจุดคัดกรอง จนกว่าจะถึงเช้า วันที่ 25 ต.ค. เวลา 05.00 น.จะเริ่มเปิดให้ประชาชนเดินทางเข้ามาภายใน

ขณะที่นายเกรียงไกรกล่าวถึงการดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนมาร่วมพิธีว่า ทาง กทม.ได้จัดสถานที่ประกอบอาหารไว้ให้กับประชาชนจำนวน 22 แห่ง พร้อมทำการแจกจ่ายบริเวณโดยรอบๆ เต็นท์ที่พักคอย กำหนดไว้ 119 จุด และตั้งจอแอลอีดี ขนาด 6×12 เมตร บริเวณพระเมรุมาศจำลอง 1 แห่ง และ บริเวณซุ้มดอกวางดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่ 26 ซุ้ม ขนาด 4×6 เมตร รวมการติดตั้ง จอแอลอีดีในบริเวณอื่นๆ ด้วยทั้งหมด 62 แห่ง

นายเกรียงไกรกล่าวว่า นอกจากนี้ กทม.เตรียมรถสุขาไว้ทั้งหมด 70 คัน ห้องสุขาเคลื่อนที่ 150 ตู้ พร้อมทั้งประสานประชาชนบริเวณโดยรอบรอบ เพื่อให้เปิดห้องน้ำให้กับประชาชนได้เข้าใช้ พร้อมติดกล้องวงจรปิด เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย พื้นที่กรุงเทพ 53,114 ตัว ครอบคลุมทั้ง 50 เขตของกรุงเทพฯ โดยรอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวง จำนวน 1,147 ตัว

ส่วน นายณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในพื้นที่รอบมณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง มีการจัดหน่วยแพทย์ ทั้งหมด 21 จุด พร้อมหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน พร้อมที่จะส่งต่อได้ และมีทีมเดินเท้าดูแลประชาชนในพื้นที่ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เปิดเส้นทางฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังตั้งหน่วยแพทย์ 113 จุด บริเวณเมรุมาศจำลอง และซุ้มดอกไม้จันทน์ สำหรับประชาชนที่อยู่ห่างไกลหน่วย ติดต่อหมายเลข 11669

“ขอให้ประชานเตรียมตัวมาอย่างดี พักผ่อนเพียงพอ ใส่รองเท้าที่ใส่สบายเนื่องจากต้องเดินในระยะไกล ดื่มน้ำเยอะๆ พร้อมเขียนที่อยู่ ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ใส่กระเป๋าเด็กและคนชรา ป้องกันการพลัดหลง รวมถึงระบุโรคประจำตัว” นายณรงค์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น