ศาลปกครองสูงสุด สั่งระงับสร้างสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาครในที่ดินราชพัสดุบางส่วน หลังชาวมหาชัยร้องเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมศิลปากรที่อนุญาตให้สร้าง ชี้กระทบป้อมวิเชียรโชฎกที่กรมศิลป์ชี้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
วันนี้ (11 ต.ค.) ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น ให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งของอธิบดีกรมศิลปากร ที่อนุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุด ทำการก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาครในที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ส.ค.37 (บางส่วน) ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะพิพากษา
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนายวรวุฒิ บุญเพ็ญ ประธานสภาวัฒนธรรม และนายชาญชัย รุ่งโรจน์สาคร ตัวแทนประชาคม จ.สมุทรสาคร ยื่นฟ้อง อธิบดีกรมศิลปากร คณะกรรมการวิชาการเพื่อการอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมศิลปากร และมติคณะกรรมการวิชาการฯ ที่อนุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุดก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาครในที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าว และให้กรมศิลปากรพัฒนาพื้นที่โดยรอบป้อมวิเชียรโชฎกที่ได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้ตามภารกิจ หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามกฎหมาย
ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนฯ ดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าว (บางส่วน) มีแนวฐานรากกำแพงโบราณก่ออิฐสอปูนอยู่ใต้พื้นดินเชื่อมต่อกับแนวกำแพงป้อมวิเชียรโชฎกที่กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2532 ซึ่งมาตรา 10 พ.ร.บ.โบราณสถานฯ พ.ศ. 2504 ห้ามมิให้ผู้ใดซ่อมแซม แก้ไข เปลี่ยนแปลง รื้อถอน ต่อเติม ทำลาย เคลื่อนย้ายโบราณสถานหรือส่วนต่างๆ ของโบราณสถาน หรือขุดค้นสิ่งใดๆ หรือปลูกสร้างอาคารภายในบริเวณโบราณสถาน เว้นแต่จะกระทำตามคำสั่งของอธิบดีฯหรือได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีฯ และถ้าหนังสืออนุญาตนั้นกำหนดเงื่อนไขไว้ประการใดก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้นด้วย
กรณีนี้แม้อธิบดีกรมศิลปากร จะมีอำนาจดุลพินิจพิจารณาอนุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุด ก่อสร้างอาคารและกำหนดเงื่อนไขการก่อสร้างอาคารในที่ดินซึ่งมีโบราณสถานได้ก็ตาม แต่การอนุญาตและกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวจะต้องเป็นไปโดยสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ให้อำนาจนั้นด้วย แต่เมื่อพิจารณาเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว เห็นได้ว่า เงื่อนไขการก่อสร้างอาคารในคดีพิพาทยังไม่พอรับฟังได้ว่าเป็นการดำเนินการสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ดังกล่าวและภารกิจของกรมศิลปากรตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. 2554 แต่อย่างใด การที่อธิบดีกรมศิลปากร ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้สำนักงานอัยการสูงสุด ก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดสมุทรสาครในที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ส.ค.37 (บางส่วน) ตามหนังสือ ที่ วธ 0406/3889 ลงวันที่ 18 กันยายน 2558 จึงมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายเห็นสมควรที่ศาลจะมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งอนุญาตการก่อสร้างฯ ของอธิบดีกรมศิลปากรไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา