ข่าวปนคน คนปนข่าว : โกยกันเถอะโยม!! “เจ้าคุณธงชัย”แหกพรรษา-ปิดเบอร์โทรฯ ส่วนตัว ปลีกวิเวกไร้ร่องรอย รับสัญญาณเข้มล้างบาง“พุทธพาณิชย์” พระอาจารย์ยังอยู่ไม่ได้ เห็นที “ลูกศิษย์”จะอยู่ยาก ฟันธง !!

ข่าวปนคน คนปนข่าว



** โกยกันเถอะโยม!! “เจ้าคุณธงชัย”แหกพรรษา-ปิดเบอร์โทรฯ ส่วนตัว ปลีกวิเวกไร้ร่องรอย รับสัญญาณเข้มล้างบาง“พุทธพาณิชย์” พระอาจารย์ยังอยู่ไม่ได้ เห็นที “ลูกศิษย์”จะอยู่ยาก ฟันธง !!

ไม่ใช่ข่าวมโนกันเล่นๆ ซะแล้ว .. จู่ๆพระพรหมมังคลาจารย์ หรือ“เจ้าคุณธงชัย”ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก็หุนหันทิ้งอานิสงส์ผลบุญเข้าพรรษา “ยอมอาบัติ-แหกพรรษา”ไปตามที่ “ข่าวปนคน คนปนข่าว”จุดพลุไปเมื่อวันก่อน .. จากคำยืนยันของ "กอบสิน เอี่ยมสะอาด" เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิคมวัดไตรมิตรฯ น้องชายของ "เจ้าคุณธงชัย" ที่ทำหน้าที่ดูแลห้องวัตถุมงคล ที่ระบุว่าขณะนี้ “เจ้าคุณธงชัย”เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัด ไม่ได้หลบหนีไปชายแดน-ไม่ได้ขนวัตถุมงคลไปไหนทั้งสิ้น .. เพียงแค่ต้องการ“ปลีกวิเวก”และตั้งใจวางมือการเป็น“เกจิ-เจ้าพิธีศักดิ์สิทธิ์”.. เป็นคำยืนยันภายหลังจากที่“เจ้าคุณธงชัย”ไม่ปรากฏตัวในวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ ครบรอบปีที่ 15 ที่รับกิจนิมนต์ไว้ มีเพียง พระธรรมคุณาภรณ์ เจ้าคณะภาค 8 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ นำพระลูกวัดไปตามหมายนิมนต์เท่านั้น โดยมีการแจ้งว่า“เจ้าคุณมีชื่อ” ติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาทำพิธีได้ ..

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่“เจ้าคุณธงชัย”หายตัวไป “ปลีกวิเวกอย่างไร้ร่องรอย”นั้น เป็นผลมาจาก“กฎเหล็ก”จาก “เจ้าคณะปกครองสงฆ์”ทั้งหนเหนือ-ใต้-กลาง-ตะวันออก ที่แจ้งวัดทั่วประเทศ งดการกระทำที่ทำให้เกิดความเสื่อมศรัทธา อีกทั้งยังพุ่งเป้าไปที่ “วงการพุทธพาณิชย์”เป็นการเฉพาะด้วย .. คล้ายเป็น “สัญญาณเข้มๆ”ในการกู้วิกฤตสงฆ์ แบบนี้“เจ้าคุณธงชัย”เบอร์หนึ่งแห่งยุค เจ้าของเหรียญ-ยันต์สุดเข้มขลัง หลายต่อหลายรุ่น ก็เลยเลือกทิ้งกุฏิ-ปล่อยสำนักร้าง ไปก่อนที่จะมีการปวารณาออกพรรษาในอีกไม่อีกกี่วัน .. ยิ่งไปกว่านั้น ยังถึงขนาดเลือกตัดขาดจากโลกภายนอก “ยกเลิกเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว”เสียด้วย .. อย่างไรก็ดี “น้องชายเจ้าคุณ”ยืนยันว่า หลวงพี่ปลีกวิเวกไปปฏิบัติธรรมที่วัดต่างจังหวัดเท่านั้น มิได้เลาะตะเข็บชายแดนไปธุดงค์ที่ต่างประเทศ ก็ว่ากันไป ..

จากท่าทีของ“เจ้าคุณธงชัย”ที่ยอมจากวงการ ทั้งที่อยู่ในช่วงพีคเช่นนี้ “พระผู้ใหญ่-พระผู้น้อย” ที่เดินสาย“อิทธิฤทธิ์ - ปาฏิหาริย์” ปลุกเสกของขลังเป็นว่าเล่นก็สะดุ้งกันเป็นแถบๆ .. แต่คงไม่ใช่จำกัดแค่ “วงการสงฆ์ดงขมิ้น”ที่เดือดร้อนเท่านั้น ข่าวว่าคิวต่อไป“เซียนสร้างพระ”ที่เดินสายหากินทางนี้ก็“อยู่ยาก”ก็ด้วยพฤติกรรมที่ผ่านมา“พระ - โยม”เกื้อหนุนกันมาตลอด การติดแผ่นป้ายโฆษณา-กลยุทธ์ตลาดต่างๆ เพื่อตีปิ๊บ “วัตถุมงคล”ส่วนใหญ่ก็ไอเดียมาจาก“ฆราวาส” ส่วน “สงฆ์”ก็มีหน้าที่สร้างศรัทธา ให้เกิดความเลื่อมใส แก่ตัวเองเป็นหลัก .. อย่างกรณีของ“เจ้าคุณธงชัย”ที่โด่งดังในช่วง 4-5 ปีมานี้ นอกเหนือจากอานิสงส์ การคว้าแชมป์อิงลิช พรีเมียร์ลีก ของ “จิ้งจอกสยาม”เลสเตอร์ ซิตี้ แล้ว ก็ยังมี“ลูกศิษย์ลูกหา”ที่เป็นคนดังหลายคนช่วยทำแบรนด์“เจ้าคุณธงชัย”ให้ติดตลาดด้วย .. หนึ่งในนั้นก็มี“โหรฟัน ธง”ลักษณ์ เรขานิเทศ ที่มักจะแนะนำให้ลูกศิษย์ หรือแฟนคลับ ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่วัดไตรมิตรฯ รวมทั้งเช่าบูชาเครื่องรางของขลัง พะยี่ห้อ “เจ้าคุณธงชัย”เพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัย รวมทั้งเพื่อให้มีเกณฑ์“ร่ำรวยเป็นเศรษฐี”..ขนาด “พระอาจารย์”ยังต้องโกยอ้าว เห็นที“ศิษย์มีชื่อ”ทั้งหลายคงไม่แคล้วกัน.. ฟันธง !!

** ไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม!! “ทางการดูไบ”ยันชัด“ยิ่งลักษณ์”เผ่นไปลอนดอน ตั้งแต่ 11 ก.ย. วันเดียวกับที่“ประวิตร”บินไปเยือนเกาะอังกฤษพอดี แบบนี้ “มีตติ้ง ดีลชินสุวรรณ”กับ “สองศรีพี่น้องชินวัตร”ยิ่งเข้าเค้า

ไม่ไว้หน้าท่านนายกฯ-ท่านรองนายกฯ มั่งเลย .. คิวของ“บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่ระบุว่า ได้รับการประสานจากทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า “อดีตนายกฯปู”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางเข้า“รัฐนครดูไบ”จริง แต่ก็ได้เดินทางออกไปยังสหราชอาณาจักรแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา .. เป็นคำยืนยันอย่างเป็นทางการ ที่ขยี้ข้อมูลของ“นายกฯลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ “รองฯป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เพิ่งนัดกันรับงานพาร์ตไทม์ เป็น “โฆษกตระกูลชินฯ”และออกมาระบุว่า “นายหญิงปู”โก ทู เวเคชั่น อยู่แค่เมืองดูไบ ตะวันออกกลาง เมื่อวันที่ศาลฎีกาฯ อ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าว เมื่อวันที่ 27 ก.ย.นี่เอง

.. ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่า ในฐานะเบอร์ 1-2 ของรัฐบาล ก็เพื่อลดกระแสกดดันเรื่อง“สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน”ที่ประเทศไทย มีอยู่กับประเทศอังกฤษ แต่ไม่มีกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงขั้นยอมออกตัวแทน“หนูปู” แม้จะถูกจับได้ไล่ทัน ให้โดนนินทาว่าการข่าวของรัฐบาลไม่ได้เรื่องก็ตาม .. ชะอุ้ย!! ถ้าเป็นตามที่ทางการยูเออี ระบุว่า “สาวปู”เดินทางไปเกาะอังกฤษ ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. ก็ยิ่งบังเอิ๊ญ..บังเอิญ ว่าเป็นช่วงเดียวกับที่“ป๋าป้อม”มีภารกิจไปเยือนประเทศอังกฤษ อีกต่างหาก .. แล้วอาจจะเป็นการ“เฉลย”ว่า ทำไม“ลุงป้อม”ถึงทิ้งการประชุมร่วม“ครม.-คสช.”และเลือกเดินทางไปยังมหานครลอนดอน ตั้งแต่กลางดึก วันที่ 11 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทย ล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนที่คณะของ“บิ๊กช้าง”พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม จะบินตามไปสมทบในวันถัดมา .. อาจจะเพราะด้วย “ภารกิจอย่างเป็นทางการ”ในการไปเจรจาความเมืองด้านความร่วมมือทางทหารกับ“บิ๊กยูเค”แน่นเอี้ยดตลอด 2-3 วัน ที่อยู่ลอนดอน เลยต้องเดินทางล่วงหน้าเพื่อ“ภารกิจพิเศษ”อะไรหรือเปล่า .. “น้องปู”เดินทางไปวันที่ 11 ก.ย. ส่วน“พี่ษิณ”ทักษิณ ชินวัตร ก็มีหลักฐานจากอินสตาแกรมลูกสาว ว่า อยู่ที่ลอนดอนในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน .. ซึ่งก็เป็นที่สงกะสัยว่า มีนัดมีตติ้ง “ดีลชินสุวรรณ”กับ “สองศรีพี่น้องชินวัตร”รึป่าวนั่นแหละ ??

** โปรดฟังอีกครั้ง!!“ลุงตู่ - ลุงป้อม”ประสานเสียงปี 2561 แค่ประกาศวันเลือกตั้ง แต่ได้เข้าคูหาเมื่อไร ไม่รู้ เจาะ“ประตูลับ”ใน รธน.60 เปิดทาง“รัฐบาล คสช.” ยื้ออำนาจได้แบบอันลิมิต-ไม่ต้องเลือกตั้ง

ทำเอาฮือฮาไม่น้อย เมื่อ“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะกับ "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในระหว่างเยือน “แดนลุงแซม”ประเทศต้นฉบับประชาธิปไตย ว่าจะจัดเลือกตั้งในปี 2561 .. ทว่าพอมาไล่ฟังแบบคำต่อคำก็ต้อง“เงิบกันเป็นแถว”เมื่อ“ลุงตู่ ไทยแลนด์” คอมเฟิร์มกับ “ลุงทรัมป์ แดนมะกัน”ที่ยังไม่ได้ปริปากถาม แค่ว่า“ปีหน้า 2561 ไทยประกาศวันเลือกตั้งแน่นอน”..แม้จะดูเหมือน “ชัดเจนในความไม่ชัดเจน”แต่ก็ถือเป็นการตกปากรับคำ เกี่ยวกับ“โรดแมปเลือกตั้ง”หนแรกของ“นายกฯตู่”หลังรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเวทีไหน “สื่อไทย”พยายามขุดบ่อล่อเท่าไรก็ไม่ตกหลุม ตอบกว้างๆ ว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญนั่นแหละ .. สอดรับกับ“ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกฯ ก็ย้ำอีกเสียงว่า“น้องตู่”ไม่ได้ไปทำปืนลั่น สัญญิงสัญญา จะเลือกตั้งเมื่อใด แค่บอกว่าจะประกาศวันเลือกตั้งปีหน้า .. ส่วนถามว่าเมื่อไหร่นั้น “ลุงป้อม”ให้ไปนั่งนับ 150 วัน หลัง“กฎหมายลูก”ประกาศใช้เอาเอง .. แค่นี้ “ชาวคณะนักเลือกตั้ง”ก็ดี๊ด๊าขึ้นมาทันที ทั้ง “เสี่ยไก่”จุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็ตะปบทันทีว่า ต้องยึดตามโรดแมป ไม่ควรยืดออกไปเลือกตั้งในปี 62 .. เช่นเดียวกับฝั่งเพื่อไทย “เดอะเอก”พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. โทรโข่งสาย “หญิงหน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค ก็ยกคำ“ลุงตู่” ขึ้นมากดดันทันทีว่า รัฐบาลคสช. ต้องประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ว่าเป็นเมื่อใด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และจะถือเป็นการ“คืนความสุขให้คนไทย”

และหากเป็นไปตามคำยืนยันของ“พี่ใหญ่ป้อม”วัน ว. เวลา น. ที่จะมีการเลือกตั้งก็ขึ้นอยู่กับ“กฎหมายลูก”หรือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จำนวน 4 ฉบับ ต้องมีผลประกาศใช้ อันประกอบด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง, พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. .. เมื่อสำรวจ “สถานะปัจจุบัน”ของกฎหมาย 4 ฉบับ ก็พบว่ามีผลบังคับใช้แล้ว 1 ฉบับ คือ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. อยู่ในระหว่างนำขึ้นทูลเกล้าฯ 1 ฉบับ คือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง .. ส่วน 2 ฉบับที่เหลือ ยังอยู่ในกระบวนการของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มี มีชัย ฤชุพันธุ์ “ไทม์ไลน์”ไว้ว่า จะมีการส่ง“ร่าง พ.ร.ป. ส.ว.”ให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในต้นเดือน พ.ย.60 และส่ง“ร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.”ตามไปในช่วงปลาย เดือนพ.ย. .. โดย สนช. มีเวลาในการพิจารณาแต่ละฉบับ 2 เดือน หรือ 60 วัน หรือในช่วงต้นปี 61 .. หากนับ 150 วัน หลัง 4 กฎหมายลูกมีผลบังคับใช้ตามที่“ป๋าป้อม” ขีดเส้นไว้ ยังไงการเลือกตั้งก็ต้องเกิดขึ้นในช่วงปี 2561 อย่างแน่นอน ..

แต่เมื่อ “ถอดรหัส”จากคำพูดล่าสุดของ“น้องตู่ - พี่ป้อม”ก็จับอาการได้ว่า พยายามเลี่ยง “ข้อผูกมัด”ว่าจะมีการตั้งคูหาเลือกตั้ง ในปีหน้า 2561 อย่างชัดเจน .. เมื่อหันกลับไปดู รัฐธรรมนูญ 2560 แม้จะมีการกำหนดให้กฎหมายลูกฉบับต่างๆ แล้วเสร็จภายใน 240 วัน หรือราว 8 เดือน นับจากรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ ก็จริง .. แต่ก็ยังมี “ประตูลับ”ในการยื้ออำนาจแบบไม่ต้องเลือกตั้ง ที่แฝงไว้ใน“มาตรา 267 วรรค 5”ระบุช่วงหนึ่งว่า “..ถ้า สนช. มีมติไม่เห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ สนช. ให้ร่าง พ.ร.ป.นั้น เป็นอันตกไป..” โดยที่ไม่บอกว่าต้องทำอย่างไรต่อ .. ซึ่ง พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ก็เคยระบุว่า หากกฎหมายลูกฉบับใดฉบับหนึ่งถูกคว่ำ กรธ.ต้องยกร่างใหม่ พูดง่ายๆ ว่า“นับหนึ่งใหม่”วนเวียน “ตีตก-ร่างใหม่-ตีตก-ร่างใหม่”ได้อย่างไม่รู้จบด้วยซ้ำ .. ถามว่าเป็นไปได้หรือที่“สภาฝักถั่ว”อย่าง สนช. จะตีตกอะไรๆ ที่มาจาก กรธ. ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น“องคาพยพ คสช.”เช่นกันได้หรือ ก็ชวนให้ย้อนกลับไปดูเมื่อครั้งที่ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทำการ “ฆ่าตัวตาย”โดยการโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2558 ที่ทำให้“โรดแมปคืนความสุข”ยาวมาถึงป่านนี้ นี่ไง .

ช.ชฎา