ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ไหนว่าเสียหายหนัก!! แฉ “กรมการค้าต่างประเทศ” เกียร์ว่าง ไม่เดินหน้าประมูลข้าวสต๊อกรัฐ หลัง “ศาลปกครอง” ปลดล็อก เหตุ “ผู้บริหารกรม” หวั่นซ้ำรอย “แก๊งจีทูเจ๊”
โก โซ บิ๊ก ไปกันใหญ่แล้ว .. สำหรับความผิดปกติของ “เส้นทางข้าว” ที่ประมูลจากสต๊อกรัฐ ในความดูแลของ กรมการค้าต่าประเทศ .. หลังจากก่อนหน้านี้ “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. ให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบติดตาม และกำกับดูแลการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ซึ่งได้รับมอบหมายจาก“นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ลงไปตรวจสอบโรงงานในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร .. แล้ว โป๊ะเชะ แจ๊กพอตแตก เจอความไม่ชอบมาพากลของขบวนการนำ “ข้าวเสีย - ข้าวเน่า - ข้าวอาหารสัตว์” ในสต๊อกรัฐ มาเวียนขายเป็น “ข้าวคนกิน” จึงสั่งอายัดไปเพียงตรวจอสบให้ละเอียด .. โรงงานที่ว่าชื่อ “บริษัท วีออร์แกนนิก จำกัด” ที่ชนะประมูลข้าวเสียจำนวน 6.1 หมื่นตัน มูลค่า 313 ล้านบาท แจ้งว่าจะเอาไปทำปุ๋ย .. แต่กลับเปลี่ยนกรรมวิธีการผลิต นำข้าวไปคลุกกับสารชีวภาพต่างๆ โดยไม่ได้ทำการบดข้าวตามที่ทำสัญญากับภาครัฐไว้
ไม่เท่านั้น “บ.วีออร์แกนนิกฯ” ก็เพิ่งมาเจอแฉดอกสองจาก “เดอะแจ๊ค” วัชระ เพชรทอง อดีตผู้แทนฯฝีปากกล้า ที่เกาะติดเรื่องนี้มาต่อเนื่อง ระบุว่า “บ.วีออร์แกนนิกฯ” มีทุนจดทะเบียนแค่ 1 ล้านบาท แต่ดัน “ทุนหนา” หาเงินมาจ่ายกรมการค้าต่างประเทศ เบ็ดเสร็จ 6 งวด รวม 313 ล้านบาท อย่างไม่มีปัญหา .. ที่น่าสนใจก็ขั้นตอนจ่ายเงินไม่ได้มาจาก “บ.วีออร์แกนนิกฯ” โดยตรง แต่กลับมาในนามบริษัทอื่นที่บอกว่าจ่ายแทน “บ.วีออร์แกนนิกฯ” .. ก็เท่ากับว่า “วีออร์แกนนิกฯ” มี “มือที่มองไม่เห็น” อยู่เบื้องหลัง และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ “เส้นทางข้าว” จากที่แจ้งว่าจะไปผลิตเป็นปุ๋ย ดันไปโผล่ที่ ท่าข้าวรัตนภัณฑ์ ต.ท่ามะเขือ อ.คลองคลุง จ.กำแพงเพชร และ ท่าข้าวเขาเขียว อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี .. เป็นขบวนการเวียนเข้าสู่ระบบการค้าข้าวปกติ หรือพูดง่ายคือ นำมาขายให้คนกินนั่นเอง .. ที่ “เดอะแจ๊ค” ระบุว่า ซื้อมา กก. ละ 5 บาท เวียนไปขายที่ จ.ทางภาคเหนือได้ กก. ละ 15 บาท 2 - 3 เท่าตัว ก็เท่ากับว่า “กำไรมหาศาล”
ไม่เพียงเท่านั้น มันยังมีความไม่ชอบพากลแปลกๆ เกิดขึ้นทั้งกรณีของ “ผู้รับผิดชอบ” การประมูลข้าวสต๊อกรัฐอย่าง กรมการค้าต่างประเทศ ที่มี ดวงพร รอดพยาธิ์ เป็นอธิบดี ที่ไปร้องโอดครวญต่อ ศาลปกครองสูงสุด ว่า ถูก ศาลปกครองกลาง “ติดเบรก” กระบวนการระบายข้าวจนเสียหายนู่นนี่ .. ทั้งค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้าวที่ยังอยู่ในสต๊อกตกเดือนละ 163 ล้านบาท .. อีกทั้งยังมีความเสียหายเกิดขึ้นหากไม่มีการเร่งทำสัญญาขาย-ระบายข้าวที่เหลืออยู่กว่า 2.56 ล้านตัน ให้หมดภายในเดือน ก.ค.60 .. ตลอดจนอาจมีผลกระทบในแง่จิตวิทยาต่อตลาดข้าว และส่งผลให้ข้าวฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะออกมีราคาตกอีก .. จนศาลท่านทรงเมตตา ปลดล็อคให้เดินหน้าต่อไปได้ ตั้งแต่เมื่อ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา .. ทว่า เดือนกว่าที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศ กลับ “เกียร์ว่าง” ไปต่อไม่เป็น .. ไม่เหมือนกับที่อ้างไว่ในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองแต่อย่างใด .. เรื่องของเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก เหล่า “ผู้บริหารกรมฯ” ต่างรู้ดีว่างานนี้ “ไม่ธรรมดา” ถ้าทะลึ่งไปตามใจ “ระดับบิ๊ก” จนเกินพอดี ก็อาจมีชะตากรรมไม่ต่าง “แก๊งจีทูเจ๊” ที่โดนคุกกันไปร่วมครึ่งศควรรษ แถมยังได้แค่บ่นว่า “กูพูดไม่ได้” อีกต่างหาก .. เรื่องของเรื่องก็ “หมูในอวย” อย่าง “บ.ทีพีเค เอทานอล” ที่ถูกดีดออกจากฐานะ “ผู้ชนะ” และ “ผู้มีสิทธิ์ร่วมประมูล” แล้วเป็นผู้ร้องต่อศาลปกครองกลาง ดันกลายเป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” .. แม้จะผิดหวังไปบ้างกับการที่ ศาลปกครองสูงสุด สั่งให้ กรมการค้าต่างประเทศ ประมูลข้าวต่อได้ .. หมูอย่าง “บ.ทีพีเค เอทานอล” เดินหน้าฆ่ามัน ลากไส้ขบวนการโคตรโกงเป็นขดๆ จนเดือดร้อนทั้งคนในกระทรวงพาณิชย์ .. ป่ายไปถึงกระทรวงอุตสาหกรรม แถมท้ายด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ .. ยังดีที่ไม่เอาเรื่องขนาดปีนบันไดไปชกกับ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี “นายกฯตู่” เป็นประธาน และ “บิ๊กนมชง” พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รมว.เกษตรฯเป็นรองประธาน ไม่งั้นสนุกแน่!!
** หนักกว่า “เจ๊ ด.”!? โคตรโกงระบายข้าว “รมต. ยุคนี้” ไถซึ่งหน้าเรียก “พันล้าน” ก่อนลดฮวบเหลือ “ห้าร้อย” เงิบหนัก “เอกชน” ไม่จ่าย สั่งดีดพ้นเส้นทางระบายข้าวสต๊อกรัฐ
ที่พีคกว่านั้น ยังมีข่าวร่ำลือใน “วงการค้าข้าว” ว่า “เอกชนรายหนึ่ง” ชนะการประมูลข้าวอุตสาหกรรม ล็อต 1/2560 ได้รับเชิญจาก “รัฐมนตรีในรัฐบาลนี้” เจรจาต้าอวยขอกันซึ่งๆ หน้า “พันล้านบาท” .. แต่บริษัทเอกชนรายดังกล่าวที่ไม่ได้อยู่ในวงจรค้าข้าวมาตั้งแต่ ไม่คุ้นกับระบบ “ตบทรัพย์” เช่นนี้ จึงปฏิเสธไปอย่างมีอารยธรรม .. ด้วยเห็นว่าตัวเองเข้ามาประมูล-เสนอราคาอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังชนะการประมูลแล้ว ทำไมต้องจ่าย “แปะเจี๊ยะ” ด้วยไม่เข้าใจ .. ลือกันไปอีกว่า “รัฐมนตรีคนเดิม” ยังไม่ลดละความพยายามขอ “ต่อราคา” ลดลงมาครึ่งหนึ่งหรือ “ครึ่งพันล้านบาท” แต่ก็ถูกปฏิเสธเหมือนเดิม .. ปรากฏว่าจู่ๆ ก็มี “ใบสั่ง” ให้มีตัดสิทธิ์ “บริษัทจอมดื้อ” รายนั้นออกจากการประมูลข้าวล็อตที่ 1 แถมกีดกันไม่ให้เข้าร่วมประมูลข้าวสต๊อกรัฐในล็อตที่เหลือด้วย .. ว่าแต่ “รมต.จอมไถ” รายนี้เป็นใครหว่า??
** มิสเตอร์เป่าแห่งสนามบินน้ำ!! ไหนๆ ป.ป.ช. ก็ไม่กล้าแตะ “เรือเหี่ยวอนุพงษ์” แล้ว เอาเวลาว่างมาสอบ “โรงพักฉาว” ให้สิ้นสงสัยหลังตั้ง “9 อรหันต์” ไต่สวนเต็มคณะดีกว่า
นอกเหนือการทำงานของ “รัฐบาลทหาร” ที่ชาวบ้านร้านตลาดสิ้นหวังแล้ว การทำงานของ “องค์กรอิสระ” ยุคนี้ก็ง่อยเปลี้ยเสียขายิ่งเสียกว่า สมัย “ระบอบทักษิณ” เรืองอำนาจเสียอีก .. อย่างการตรวจสอบ “เรือเหี่ยว เสียวทั้งลำ” ที่คืนชีพมาหลอก “ระดับบน คสช.” มันค้างคาใจคนดูมานาน .. แต่ “มือปราบโกง” อย่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในยุคสายตรงวงษ์สุวรรณ “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ก็ออกตัวเอี๊ยดว่า คดีนี้ตีตกไปตั้งแต่ปีมะโว้ ประมาณว่าไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน .. ก็ประเด็นที่ “ศรีจ๋า” ไปยื่นให้ สตง.ตรวจสอบ มันเป็นเรื่องความคุ้มค่า บ่ใช่เรื่องการทุจริตที่มีการกล่าวหา “เดอะเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ขณะคร่อมเก้าอี้รองนายกฯ .. ที่ “ท่าน ป.ป.ช.” ต้องเหลาให้แหลม มันเป็นเรื่องที่ใช้งบละลายน้ำ มีอย่างที่ไหน 350 ล้านบาทแต่ใช้งานไม่ได้จริง จนเป็น 1 ในความล้มเหลวในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ จนคนนินทาไปทั่วคุ้งแควว่า ต้องมี “ค่าคอมฯ” แน่ๆ .. ถ้าสอบให้เคลียร์คัต จน “พี่รอง คสช.” บริสุทธิ์เหมือนที่เท้าสะเอวพูดไว้ ก็ยิ่งเป็นการดีอีกต่างหาก แต่จู่ๆมาตัดจบล้มมวยตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ก็ห้ามคนที่เม้ามอยลำบาก .. ก็ในเมื่อการจัดซื้ออยู่ในยุคของตัวเองเป็น “ผู้นำกองทัพ” ถ้าแบะท่ายินดีรับการตรวจสอบ ถือเป็นเรื่องที่ภาคภูมิของ “นักรบจากทิศบูรพา” เชียวนะ ... เอาเข้าจริงๆ ไม่เห็นมีอะไรน่ากังวลใจเล้ยยย เพราะหน่วยงานที่ “ศรีจ๋า” ไปร้องคือ “สตง.” ที่ยุคนี้นิยมรับประกัน “ISO 9200” โครงการต่างๆ ให้รัฐบาล คสช. อยู่แล้ว .. หรือยิ่งถึงมือ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ชุดใหม่ ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่งจะทำคลอดมา เมื่อไม่นานมานี้มีท็อปบูตอย่าง พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ นำทัพ .. โอ้ย! ตาย กินอิ่มนอนหลับไร้พะวง เผลอๆ จะไม่ถึงมือ ป.ป.ช. ด้วยซ้ำ เพราะ สตง. ฟอกให้เสียขาวจั๊วะซะก่อน หรือต่อให้ สตง. โยนไปให้ ป.ป.ช. รับงานตรวจสอบต่อ ก็ยังไม่มีอะไรให้ต้องเสียวสันหลัง ยุคนี้อุ่นใจไร้กังวลเพราะมีคนชื่อ “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ระดับ “ศิษย์เอกวงษ์สุวรรณ” นั่งเป็นประธาน .. ไม่ต้องคล้องพระรอด พึ่งเครื่องรางใดๆ ดูตัวอย่าง “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องรัก “บิ๊กป้อม” เอาละกัน ใครทำอะไรได้ที่ไหน แล้วนี่เป็นถึง “น้องรอง” โอ้ย ไปเดินเลียบคลองหลอดให้สมอุราเถิด
ปม “เรือเหี่ยว” มาไม่ถึง ป.ป.ช. ก็ดี “ทีมงานบิ๊กกุ้ย” จะได้มีเวลาเต็มที่จัดเต็มไต่สวนในกรณีทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ (ทดแทน) 396 แห่งทั่วประเทศที่มี “เฮียเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกกล่าวหา .. หลังก่อนหน้านี้รับคำสั่ง เอ้ย!! คำร้องของ “เดอะเทือก” ดีด วิชา มหาคุณ อดีต ป.ป.ช. คนดัง มือปราบเหลือบจำนำข้าว ออกจากอนุกรรมการฯ ไปเรียบร้อยโรงเรียนกำนัน .. พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปแบบการไต่สวนจากอนุกรรมการไต่สวนมาเป็น “องค์คณะ 9 ป.ป.ช.” ไต่สวนเอง .. ถือเป็นการยกระดับความสำคัญของคดีอย่างเป็นทางการ เพราะคดีใดก็ตามที่มี 9 อรหันต์นั่งแท่นในชั้นไต่สวนล้วนเป็นคดีระดับ “บิ๊ก” .. เทียบได้กับคดีจำนำข้าวของ “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เลยทีเดียวเชียว .. ก็ขออย่างเดียว เมื่อมาเป็น “องค์คณะไต่สวน” แล้ว การทำหน้าที่จะเป็นไปแบบเข้มข้น สมกับเป็น “คดีใหญ่” ที่เขาลือกันแซดทั่วหมู่บ้านว่า โกงกันสนั่นหั่นแหลกเหลือเกิน ตำรวจ - ครอบครัวเดือดร้อนกันทั้งแผ่นดิน .. แต่คดีกลับค่อยๆ กระดึ๊บๆ ทีละนิดๆ เหมือนหนอนบนยอดใบชาเขียว หวังว่าการปรับรูปแบบการไต่สวนครั้งนี้เพื่อความรวดเร็ว ไม่ใช่การเปลี่ยนเวอร์ชั่นเพื่อกลอุบายบางอย่างเพื่อหนทาง “ล้มคดี” อย่างที่หลายคนจับตา จนค่อนแขะว่าเป็น “มิสเตอร์เป่า” แห่งสนามบินน้ำ.
ช.ชฎา