นายกรัฐมนตรีไปสุพรรณฯ เข้าวัดป่าเลไลยก์ ขอพรเจ้าอาวาส ด้านพระธรรมพุทธิมงคลแนะหายใจคลายเครียด สร้างรัฐนิยมสวดมนต์ ขจัดไวรัสสมอง เชิญไปดูสลักพระบนหน้าผา ขอจับมือ บอกมือต้องว่าง อย่ายึดถือ จะทำของใหม่ต้องวางของเก่า ป้องกัน แก้ไข สร้างสรรค์ อนุรักษ์ หาเหตุพบเหตุ ดับเหตุให้ได้จะมีชัย
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางมายังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร โดยมีว่าที่ร้อยตรี สุพีพัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้เข้ากราบสักการะหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ จากนั้นได้ห่มผ้าองค์หลวงพ่อโต ก่อนกราบขอพรจากพระธรรมพุทธิมงคล ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาดวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ในพระวิหารหลวงวัดป่าเลไลยก์ โดยพระธรรมพุทธิมงคลได้มอบรูปเหมือนหลวงพ่อโตหน้าตัก 3 นิ้ว และหนังสือสวดมนต์ให้แก่นายกรัฐมนตรี พร้อมมอบเหรียญหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ ทำจากสตางค์เก่าให้แก่คณะรัฐมนตรีและคณะผู้ติดตาม
ขณะที่ พระธรรมพุทธิมงคล ได้สนทนาธรรมพร้อมกล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเรื่องที่ 1 หายใจคลายเครียด เวลามีเรื่องอะไรเครียดให้หายใจเข้าทางจมูกลึกๆ และหายใจออกทางปากนับไป 10 ครั้ง โบราณท่านว่าไว้ว่ามีอะไรเครียดให้นับ 1 ถึง 10 นั่นคือการนับลมหายใจ เรื่องที่ 2 เรื่องการสวดมนต์ ตรรกะง่ายๆ เราจะรักใครเคารพใคร เชิดชูบูชาใคร เราต้องเห็นความดีของเขา คนไทยรักในหลวง เพราะสัมพันธ์ความดีในหลวงทุกวัน มุสลิม รักอัลเลาะห์ สุดชีวิตจิตใจ สรรเสริญอัลเลาะห์วันละ 5 ครั้ง เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้ชาวพุทธของเรารักพระพุทธเจ้ามากๆ ก็ขอให้สวดมนต์เจริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสงฆคุณ อย่างน้อยก่อนนอนวันละครั้ง และถ้าเป็นไปได้อยากให้สร้างรัฐนิยม นายกรัฐมนตรีมีประชารัฐอยู่แล้วก็ให้เอารัฐนิยมมาบวกให้ทุกหน่วยงานก่อนเข้าทำงานขอเวลา 10 นาที สวดมนต์เจริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสงฆคุณ ตามแบบหนังสือที่อาตมามอบให้ และทุกคนที่มาที่นี่ปกติจะต้องสวดมนต์ ทั้งนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มาก็สวดมนต์ไปแล้ว เหลือแต่นายกรัฐมนตรี เวลามีจำกัดเลยไม่ได้สวด อย่างไรก็ตาม หนังสือที่มอบให้ขอให้ไปอ่านในรถ
“หนังสือเล่มนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เครียดอ่านแล้วจะคลาย สบายอ่านแล้วจะเครียด” มาถึงตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ค่อยสบาย พระธรรมพุทธิมงคลกล่าวว่า เมื่อไม่สบายก็ต้องอ่าน พร้อมมอบรูปเหมือนหลวงพ่อโต แล้วระบุว่าเป็นสิ่งที่หาค่าไม่ได้ ขอให้นำไปกราบบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัว
พระธรรมพุทธิมงคลกล่าวว่า ที่บริเวณหน้าผา อ.อู่ทอง เป็นเหมืองหินร้างยาว 800 เมตร จ.สุพรรณบุรี ได้สร้างพุทธมณฑลไว้ ได้แกะพระไว้ที่หน้าผาให้เป็นมรดกโลก หากมีเวลาอยากให้ไปช่วยดู
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จะนำคำสั่งสอนของหลวงพ่อไปปฏิบัติ ก่อนมาก็พูดคุยกันในรถกับคณะรัฐมนตรี คล้ายกับที่หลวงพ่อได้บอก มีเวลาว่างก็ให้สวดมนต์ 10 นาที รวมทั้งให้มีสมาธิสูดลมหายใจ 10 ครั้ง โดยวิธีกลั้นใจ และหายใจออกทางปาก สำหรับตนก็ได้ปฏิบัติมาบ้างแล้ว โดยมีตัวเลข 4 ครั้ง คือ สูดลมหายใจเข้าแล้วนับ 1 ถึง 4 พร้อมทั้งกลั้นไว้โดยนับ 1 ถึง 7 พอ 8 ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก ถ้าทำได้เช่นนี้ก็จะมีสติกลับคืนมา ตนนำหลักการนี้มาจากต่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีอินเดียบอกให้ทำเช่นนี้ ซึ่งตรงกับศาสนาพุทธของเรา สูดหายใจเข้า กลั้นลมหายใจก่อนผ่อนลมหายใจออก เลือดจะได้สูบฉีดขึ้นสมอง สมองจะได้ไม่ตาย รวมทั้งให้พิสูจน์ด้วยว่าเราถนัดหายใจจมูกข้างใด กลางคืนก่อนนอนก็จะสวดมนต์ทุกคืน
พระธรรมพุทธิมงคลกล่าวว่า การสวดมนต์ก่อนนอนเป็นสิ่งที่ดี ถือเป็นการขจัดไวรัสสมอง เพราะสมองคนเราบันทึกเรื่องราวไว้จำนวนมาก ถ้าไวรัสลงเมื่อไหร่ สมองก็ใช้ไม่ได้ จำเป็นต้องสวดมนต์ให้ใจเป็นสมาธิ สมาธิเท่านั้นจะขจัดไวรัสสมองได้ นายกรัฐมนตรีมีเรื่องอยู่เต็มหัวให้เอาออกเสียบ้าง
จากนั้นพระธรรมพุทธิมงคลได้ขอจับมือนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวว่ามือคนเราต้องว่าง แบมือออกมามือต้องว่างจึงจะสามารถหยิบทุกอย่างได้ จงทำให้เหมือนมือ อย่ายึดถือไม่ยอมวาง ท่านกำอะไรไว้ถ้าจะหยิบของใหม่โดยไม่วางของเก่าก็หยิบไม่ได้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแย้งทันทีว่า ของเก่าไม่เสร็จจะทำอย่างไร พอจะเริ่มของใหม่ปัญหาเก่าก็กลับมาอีก ปัญหาเดิมไม่ยอมจบ มันแย่ตรงนี้ หลวงพ่อให้นับ 1 ถึง 10 ก็พยายามจะทำให้ได้ แต่พอนับได้แค่ 3 ก็โมโหแล้วไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ก็จะอดทนต่อไป รัฐบาลนี้ก็โอเคไม่ต้องห่วง ยึด 3 สถาบันเป็นหลัก วันนี้ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลง คนเรายังไม่ชินกับการเปลี่ยนแปลง แต่ตนก็จะทำทุกอย่างๆ เต็มที่
พระธรรมพุทธิมงคลกล่าวสอนว่า พระพุทธเจ้าต้องทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง ถ้าจิตว่างทุกอย่างจะพร้อม มือคนเราพร้อมที่จะหยิบอะไรได้ทันทีให้ทำแบบอัตโนมัติ ถ้าพยายามทุกอย่างก็จะสำเร็จ และขอให้ยึดหลักสัมมาวายามะ มีอยู่ 4 องค์ที่ผู้บริหารต้องทำ คือ ป้องกัน แก้ไข สร้างสรรค์ อนุรักษ์ เป็นหลักของความเพียรชอบ ในหลักอริยมรรคมีองค์ 8 ทั้งนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะออกจากพระวิหาร พระธรรมพุทธิมงคล ได้เรียกกลับมาพร้อมกำชับว่า “ขอให้ต่อสู้กับทุกข์ ต้องนึกสนุกเห็นทุกข์แจ้งใจ หาเหตุพบเหตุ ดับเหตุให้ได้ จึงจะมีชัยชนะทุกข์ทั้งปวง”
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ติดตามการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองที่วัดป่าเลไลยก์ และได้ตีระฆังศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ จำนวน 5 ครั้ง ตามความเชื่อของชาวสุพรรณบุรี ว่าจะสร้างชื่อเสียงให้ก้องกังวานตามเสียงระฆัง รวมทั้งขอพรใดๆ ก็จะได้ตามที่ขอ