xs
xsm
sm
md
lg

“ธีระชัย” ยี้ตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ เปิดช่องนักการเมืองโกง - “รสนา” สำทับเลวร้ายอาจทำให้รัฐวิสาหกิจล้มละลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และนางสาวรสนา โตสิตระกูล
“ธีระชัย” เชื่อตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ จะรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็น “หลุมดำ” ให้นักการเมืองแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวไม่ต่างองค์กร 1MDB ของมาเลเซีย และองค์กรเทมาเส็กของสิงค์โปร์ ด้าน “รสนา” เตือนพึงระวัง ! ทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจอาจทำให้กลุ่มทุนอ้วนพี แต่รัฐวิสาหกิจอาจถึงขั้นสูญสิ้น ล้มละลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thirachai Phuvanatnaranubala” ว่าด้วยการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ หัวข้อ “เป้าหมายบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติไม่เพียงฐานะผู้ถือหุ้น” ตามข้อความดังนี้..

“พ่อมดการเงิน และคนในวงการตลาดเงินตลาดทุน ย่อมจะมองออกได้ว่า เป้าหมายบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ คือองค์กรอำนาจเบ็ดเสร็จ absolute power แบบเดียวกับองค์กร 1MDB ของมาเลเซีย และองค์กรเทมาเสกของสิงค์โปร์

ถามว่าการมีอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือน 1MDB และ เทมาเสก มีข้อเสียอย่างไร มันเป็น “หลุมดำ” .... ที่นักการเมืองในรัฐบาล สามารถใช้หาประโยชน์ส่วนตัวได้น่ะซิครับ

กรณี 1MDB ... ข่าวใน นสพ.วอลล์สตรีทเจอร์นัล ระบุว่า มีเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ไหลไปเข้าบัญชีของนายก นายราจิบ ราซัค และมีข่าวว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องต่างไม่ยอมเป็นพยาน เพราะกลัวไม่ปลอดภัย

กรณีเทมาเส็ก ... ที่มาซื้อหุ้นบริษัทโทรศัพท์มือถือไปจากกลุ่มคุณทักษิณ ก็ถูกวิจารณ์ว่าอาจจะเลี่ยงกฎหมายไทย ด้วยการจัดตั้งบริษัทหนึ่ง ให้ถือหุ้นแทนในฐานะนอมินี เพื่อมิให้สัดส่วนการถือหุ้นต่างชาติขึ้นไปเกินเพดานตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีคนสิงค์โปร์วงใน ที่แจ้งข้อมูลให้ผมทราบพฤติกรรมที่น่าสงสัย เกี่ยวกับเทมาเส็ก ในกรณีอื่นอีกด้วย

ผมจึงไม่ศรัทธาโครงสร้างที่รวบอำนาจแบบ 1MDB และ เทมาเส็ก เพราะลำพังให้รัฐวิสาหกิจของไทยแต่ละแห่ง ดำเนินการให้มีประสิทธิภาพเต็มที่ ก็พอแล้ว ... ไม่จำเป็นต้องไปทุรนทุราย คิดวิธีหากำไรเพิ่มด้วยการรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ

ทั้งนี้ ถ้าใครจะบอกว่าผมมองว่าบรรษัทฯ จะรวบอำนาจเบ็ดเสร็จนั้น เป็นการมองในแง่ร้ายเกินไป หรือเปล่า???

ผมขอตอบว่า ไม่เกินไปแน่นอน เพราะลำพังอำนาจในฐานะผู้ถือหุ้นนั้น บ่อมิไก๊ครับ ... มีอำนาจอยู่วันเดียวเท่านั้น คือวันประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้น ถ้าจะร่างกฎหมายตั้งบรรษัท เพียงเพื่อให้ใช้อำนาจเฉพาะในฐานะผู้ถือหุ้นก็เสียเวลาทำมาหากินเปล่าๆ

... ร่างกฎหมายทั้งที มันก็ต้องมีระเบียบวาระซ่อนเร้นเป็นธรรมดา แต่ซ่อนได้มิดชิด !!! ต้องระดับพ่อมดทางการเงิน หรือคนในวงการตลาดเงินตลาดทุน จึงจะมองออกน่ะครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางสาวรสนา โตสิตระกูล หนึ่งในแกนนำ คปพ. ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “รสนา โตสิตระกูล” ในเรื่องเดียวกันนี้ว่า “ตั้งบรรษัทวิสาหกิจ (ซูเปอร์โฮลดิ้ง) มากำกับรัฐวิสาหกิจ ระวังรัฐวิสาหกิจตายเหมือนเสือในโคลงโลกนิติ”

โคลงโลกนิติบทที่ 300

“เบิกทรัพย์วันละบาท ซื้อมังสา
นายหนึ่งเลี้ยงพยัคฆา ไป่อ้วน
สองสามสี่นายมา กำกับ กันแฮ
บังทรัพย์สี่ส่วนถ้วน บาทสิ้น เสือตาย ฯ”

คำแปล : มีเจ้าพนักงานหนึ่งคนเลี้ยงเสือ ใช้เงินวันละ 1 บาท ปรากฏว่า เสือไม่อ้วน จึงส่งคนที่ 2 ไปกำกับบริหารจัดการให้มีประสิทธภาพแต่ปรากฏเสือผอมกว่าเดิม พอส่งคนที่ 3 เสือยิ่งผอมหนัก พอส่งคนที่ 4 ลงไปกำกับ เสือตายเลย เพราะทั้ง 4 คนคอร์รัปชันเงินค่าอาหารเสือคนละหนึ่งส่วนหนึ่งสลึง จึงครบสี่ส่วนถ้วน บาทสิ้นเสือตาย

โคลงโลกนิติบทนี้แต่งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 โดย สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร (พระองค์เจ้ามั่ง พระโอรสในรัชกาลที่ 2) แสดงว่าคนโบราณรู้เรื่องราวการฉ้อราษฎร์บังหลวง (บังทรัพย์)ดี และรู้ว่ายิ่งตั้งคนไป “กำกับ” มากเท่าไหร่ อาจเพิ่มการโกงแบบบูรณาการ (หรือบูรณาโกง) มากขึ้นก็เป็นได้

ถ้านำมาเปรียบกับกรณีปัจจุบันที่จะมีการตั้งบรรษัท (ซูเปอร์โฮลดิ้ง) มากำกับควบคุมรัฐวิสาหกิจเพื่อให้มีประสิทธิภาพโปร่งใส มีธรรมาภิบาล แต่ก็ต้องพึงระวัง ! เพราะอาจจะทำให้บรรษัทรัฐวิสาหกิจอ้วนพีจากการผูกขาด แต่ทรัพย์สินที่ได้กำไร อาจจะไม่ได้เอากลับมาเป็นงบประมาณแผ่นดิน แต่ไปสร้างความร่ำรวยให้กลุ่มทุนมากกว่า ใช่หรือไม่

อุปมาว่าในรัฐวิสาหกิจมีการคอร์รัปชัน เหมือนคนเลี้ยงเสือ แม้จะโกงเงินค่าอาหาร (บังทรัพย์) ไป 1 ใน 4 ก็ยังเหลือเงินส่งเข้าหลวงอยู่ จึงควรแก้ไขบอร์ดและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ แทนที่จะทำให้ซับซ้อนเช่นตั้งคณะกรรมการมากำกับตรวจสอบชุดแล้วชุดเล่า อาจจะเข้าตำราที่ซีอีโอโบราณเขียนเตือนไว้

ร่าง กม.ซูเปอร์บอร์ด ซูเปอร์โฮลดิ้ง ที่จะตั้งบรรษัทมาดูแลเลี้ยงเสือ 11 ตัว (รัฐวิสาหกิจ 11 แห่ง) ในร่างกฎหมายนี้จะตั้งคณะกรรมการนโยบาย (คนร.) แล้วให้ คนร. มาตั้งกรรมการบรรษัท และให้คณะกรรมการบรรษัทมากำกับบริหารทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจ ระวังเข้าตำรา ตอนเป็นรัฐวิสาหกิจยังพอเหลือเงินซื้ออาหารเสือ 3 ส่วน คือ 75 สต. แต่พอตั้งกรรมการมากำกับ 2, 3, 4, โกงเงินหมดจนเสือตายเลย

งานนี้ทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจอาจทำให้กลุ่มทุนอ้วนพี แต่รัฐวิสาหกิจอาจถึงขั้นสูญสิ้น ล้มละลาย ประชาชน และประเทศ คือ ผู้รับผลความล้มละลายนั้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น