xs
xsm
sm
md
lg

เปิดปม “บิ๊กตู่” ใช้ ม.44 สั่งระงับการทำงานชั่วคราว “นายก-รองนายกเล็ก-ปลัดเทศบาลบางบัวทอง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เปิดปม “บิ๊กตู่” ใช้ ม.44 สั่งระงับการทำงานชั่วคราว “นายกเทศมนตรี - รองนายกเทศมนตรี -
ปลัดเทศบาลเมืองบางบัวทอง” ระหว่างรอผลสอบทุจริต แสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมายจากการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เผย ก่อนหน้านี้ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูล 2 คดี รับเงินผู้รับเหมาสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันน้ำท่วม และเรียกเงินผู้รับเหมาก่อสร้างยกระดับถนน/วางท่อ


วันนี้ (8 ก.ย.) มีรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 39/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 10 ตามที่มี คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกําหนดกรอบอัตรากําลังชั่วคราว ลงวันที่ 15 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 นั้น โดยที่หน่วยงานที่มีอํานาจหน้าที่ตรวจสอบได้เสนอรายงานเพิ่มเติม เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ เนื่องจากถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าใช้ตําแหน่งหน้าที่ ในการแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมายจากการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และมีมูลอันสมควรตรวจสอบตามที่องค์กร ซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตรวจสอบรายงานพฤติการณ์และเสนอเรื่องมา และเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือใช้ตําแหน่งหน้าที่ ในการปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทําความผิด จึงจําเป็นต้องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐและกําหนดมาตรการเพิ่มเติม

อาศัยอํานาจตามความในข้อ 5 ของคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกําหนดกรอบอัตรากําลังชั่วคราว ลงวันที่ 15 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ให้ นายอาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง อําเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในเทศบาลเมืองบางบัวทองเป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน

ข้อ 2. ให้ นายวีระชัย ขันรุ่ง รองนายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง อําเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในเทศบาลเมืองบางบัวทองเป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน

ข้อ 3. ให้ นางกัลยา มงคลสกุลกิจ รองปลัดเทศบาลเมืองบางบัวทอง อําเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี หรือสถานที่ราชการอื่นในจังหวัดตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีกําหนด แต่ต้องมิใช่เทศบาลเมืองบางบัวทอง และให้ผู้ว่าราชการ จังหวัดนนทบุรี หรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็นผู้บังคับบัญชามีอํานาจมอบหมายการปฏิบัติงานตามความเหมาะสม

ในกรณีนี้มิให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินประจําตําแหน่งและสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการชั่วคราว ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ. 2555 อันเนื่องจากการไปช่วยราชการตามคําสั่งนี้

ข้อ 4. ให้นําความในข้อ 5 ถึงข้อ 12 ในคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 35/2560 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 9 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม พุทธศักราช 2560 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ 5. ให้การดําเนินการตรวจสอบหรือสอบข้อเท็จจริงบุคคลตามข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายที่อยู่ระหว่างการดําเนินการยังคงดําเนินการต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ

ข้อ 6. นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจมีคําสั่งหรือมติเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้ตามที่เห็นสมควร ข้อ 7. คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

ป.ป.ช. เคยชี้มูลความผิด รับเงินผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็กป้องกันน้ำท่วม

มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายอาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ นายกเทศมนตรี เทศบาลเมือง (ทม.) บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 2 กรณี กรณีแรก ชี้มูลความผิดนายอาวุธ และ นายวิสิทธิ์ ทองพรหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งวิศวกรโยธา เทศบาลเมืองบางบัวทอง เรียกรับเงินจากผู้รับจ้างเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการสั่งจ่ายเงินค่าจ้างก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ป้องกันน้ำท่วม ริมคลองบ้านกล้วยฝั่งใต้

โดยทำสัญญาจ้าง บริษัท ฤดีประยงค์ จำกัด ก่อสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่งานไม่เสร็จเกินเวลาไป 262 วัน รวมค่าปรับ 4,126,500 บาท คงเหลือค่าจ้างที่จะได้รับ 2,173,500 บาท ต่อมากรรมการผู้จัดการบริษัท สอบถามความคืบหน้าเรื่องการจ่ายเงินค่าจ้าง และ ทม.บางบัวทอง ยอมจ่ายเงิน 2,114,621 บาทให้ แต่นายอาวุธขอเรียกเงินเป็นเศษตามค่าจ้างที่จะได้รับ 114,621 บาท กรรมการผู้จัดการบริษัทฯจึงยอมให้ เมื่อจ่ายเช็คดังกล่าวแล้ว บริษัทจึงได้รับเงินค่าจ้าง

นอกจากนี้ ยังเรียกรับเงินผู้รับจ้าง เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการคืนเงินค่าปรับตามมติ ครม. โดยภายหลังบริษัทส่งมอบงานแล้ว ต่อมา ครม. มีมติออกนโยบายช่วยเหลือผู้รับจ้างกรณีขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ดังนั้น บริษัทจึงมีสิทธิได้รับเงินค่าปรับกรณีก่อสร้างล่าช้ากว่าสัญญาคืนจาก ทม.บางบัวทอง เป็นเงิน 2,362,500 บาท แต่นายอาวุธสั่งเจ้าหน้าที่การเงินไม่ให้จ่ายเช็คคืนค่าปรับกับบริษัทฯ ก่อนจะเรียกเพิ่มอีกรวมเป็นเงิน 100,000 บาท

เห็นว่า นายอาวุธ มีมูลความผิดตามมาตรา 73 แห่ง พ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 ประกอบมาตรา 91 ให้ส่งรายงานการไต่สวนไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน และอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญา ส่วนกรณีนาย วิสิทธิ์ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอว่ากระทำผิด ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

คดีที่สองเรียกเงินผู้รับเหมาเพื่อเป็นค่าตอบแทน ก่อสร้างยกระดับถนน/วางท่อ

กรณีที่สองชี้มูลความผิด นายอาวุธ กรณีเรียกเงินจากผู้รับจ้างเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการสั่งจ่ายเงินค่าจ้างก่อสร้างยกระดับถนน พร้อมวางท่อระบายน้ำและบ่อพัก ถนนเทศบาล 13 การไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายอาวุธทำสัญญาจ้าง หจก.ส.อำนาจพัฒนาก่อสร้าง มาดำเนินการก่อสร้างโครงการวงเงิน 5 ล้านบาท แต่ หจก. ดังกล่าวส่งงานล่าช้าในงวดที่สองเกินไป 22 วัน เสียค่าปรับ 275,000 บาท ต่อมาชาวบ้านเรียกร้องให้หยุดก่อสร้างจึงชะลอการก่อสร้างไว้ก่อน หจก. ดังกล่าวจึงนำเงินไปหมุนโครงการอื่นก่อน แต่เมื่อกลับมาทำต่อไม่มีเงินทุน หุ้นส่วนของหจก. ดังกล่าวจึงยืมเงินนายอาวุธ 5 แสนบาท หลังจากนั้นทำจนเสร็จและส่งมอบงาน แต่งานไม่เรียบร้อยจึงให้แก้ไข

เมื่อแก้ไขจนเสร็จได้ส่งมอบงานอีกครั้งและขอเบิกเงิน แต่ดำเนินการไม่เสร็จตามสัญญา จึงได้เงิน 1,537,500 บาท และสภาเทศบาลเห็นชอบให้ตัดลดเนื้องานจึงเหลือเบิกจ่าย 1,202,869 บาท หุ้นส่วนผู้จัดการฯให้นายอาวุธเบิกค่าจ้างให้ แต่นายอาวุธบอกให้นำเงินสดมาใช้หนี้ที่ยืมไปก่อน จำนวน 5 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน จำนวน 75,000 บาท แต่นายอาวุธปัดเป็นเลขกลมๆ 100,000 บาท รวมถึงค่าตอบแทนพิเศษของ นายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์ พี่ชายนายอาวุธอดีตนายกอบต.บางบัวทอง ที่ต้องได้รับจากนายอำนาจอีก 100,000 บาท หลังจากมอบเงินแล้วจึงได้รับเงินค่าจ้าง 1,177,248 บาท และรองนายกเทศมนตรีรายดังกล่าวขอให้ถอนเรื่องร้องเรียนออก

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า นายอาวุธ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 152 และมาตรา 157 ให้ส่งรายงานการไต่สวนไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน และอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น