ข่าวปนคน คนปนข่าว : แค่ละครกู้เรตติ้ง “รัฐบาลทหาร” แต่ “ดีเอสไอ” ดันเล่นไม่เนียน ยื้อคดี “ยอดชายนายโอ๊คอ๊าค” ทั้งที่ “เส้นทางการเงิน” ไม่ต้องสอบ คำพิพากษาศาลฎีกาฯมีให้ลอก

ข่าวปนคน คนปนข่าว



** แค่ละครกู้เรตติ้ง “รัฐบาลทหาร” แต่ “ดีเอสไอ” ดันเล่นไม่เนียน ยื้อคดี “ยอดชายนายโอ๊คอ๊าค” ทั้งที่ “เส้นทางการเงิน” ไม่ต้องสอบ คำพิพากษาศาลฎีกาฯมีให้ลอก

ยักแย่ยักยันตามสูตร .. หลังมีกระแสข่าวหนาหูว่า คณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในคดีฟอกเงินจากการอนุมัติเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มกฤษดาธานนท์ เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาใน “คดีฟอกเงิน” กับ “โอ๊คอ๊าค” พานทองแท้ ชินวัตร และพวก .. ร้อนถึง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ ต้องออกมาแก้ข่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อสรุปนะจ๊ะ ไม่เท่านั้นยังแย้มๆ ว่า เรื่องนี้อีกยาว ต้องรอผลการตรวจสอบ “เส้นทางการเงิน” เพิ่มเติมให้ชัดเจนก่อน .. เอ่อ.. คดีนี้มันตั้งแท่นมาตั้งแต่รัฐประหารปี 2549 นู่น จนป่านนี้ระดับบิ๊กๆ ชักแถวเข้าตารางไปตั้งหลายคนแล้ว.. จะขาดไปก็แต่ ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะจำเลยที่ 1 ที่หลบหนีคดี ศาลฎีกาฯ จึงให้ออกหมายจับ ติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยให้จำหน่ายคดีเฉพาะส่วนของนายทักษิณไว้เป็นการชั่วคราว .. ส่วนคดีรับของโจรของ “ยอดชายนายโอ๊คอ๊าค” ก็หมดอายุความไปเรียบร้อยโรงเรียนดีเอสไอ .. คำพิพากษาของศาลฎีกาฯที่สั่งจำคุก “อดีตผู้บริหารกรุงไทย” ก็ระบุชัดว่า มีทั้งแคชเชียร์เช็ค 26 ล้านบาท จากคนในตระกูลกฤษดาธานนท์ สั่งจ่ายและนำเข้าบัญชี “พานทองแท้” ก่อนยกเลิกรายการวันเดียวกัน .. รวมทั้งเช็คจำนวน 10 ล้านบาท เข้าบัญชีของ “พานทองแท้” เช่นกัน อันนี้ไม่ได้ยกเลิก .. ชัดแจ๋วขนาดนี้ “ดีเอสไอ” ยังมีหน้ามาบอกกำลังไล่เส้นทางการเงิน เรียกว่ายกไปทั้งดุ้นไปแจ้งข้อกล่าวหาวันนี้พรุ่งนี้ได้เลยด้วยซ้ำ

อารามยึกยักของ “ดีเอสไอ” ก็เลยทำให้สงกะสัยไปว่า เอาเข้าจริง “รัฐบาล คสช.” ไม่ได้มี “ธง” ให้เล่นงาน “ลูกโอ๊ค” อย่างที่ “เพจดัง - สื่อแดง” รวมทั้งลิ้วล้อเบอร์ใหญ่ทั้ง “ชัยเกษม นิติสิริ - คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” โร่ออกมากางปีกปกป้องหรอก .. แค่ “ขุนทหาร” แค่ขุดคดี “กรุงไทยของายโอ๊ค” ขึ้นมาเป็น “ละครฉากหนึ่ง” เพื่อหวังสร้างกระแสข่าวใช้ “คดีสำคัญ” ที่มี “ว่าที่ผู้ต้องหา” เป็นคนสำคัญใน “ระบอบทักษิณ” .. เป็นความพยายาม “เรียกแต้ม” ให้กับ “รัฐบาลทหาร” ที่ระยะหลังโซซัดโซเซกับหลายประเด็นที่เกิดขึ้น จนคะแนนนิยมตกฮวบ เข้าสู่ “ยุคเสื่อม” อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตั้งแต่ขึ้นขวบปีที่ 3 ของรัฐบาล คสช. เป็นต้นมา .. หยิบจับอะไรก็มีแต่ “ก้อนหิน” ไร้ “ดอกไม้” เหมือสมัยที่ “ลุงตู่” ยังฟีเวอร์อยู่ .. ปรามาสกันไว้อย่างนี้ แต่ถ้า คสช. เอาจริง ไม่มีละคร ก็ขอร่วมสวดชยันโต อำนวยพรให้รัฐบาล คสช.มีชัยชนะในครั้งนี้ .. หากเป็นแค่ “ป่าหี่ - แก้เกี้ยว” อย่างที่ “ขุนทหาร” ถนัด สังคมไทยที่ฉลาดพอ ก็คงต้องเผาพริกเผาเกลือสาบส่ง “รัฐบาล คสช.” ไปที่ชอบๆ

** “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” เอาไงแน่!! ปม “สำนวนอ่อน” ยังไม่เคลียร์ รีบตำแหน่ง “ผกก.สน.พญาไท” แถม “เดอะโจ๊ก” เปลี่ยนใจทิ้ง บช.น. ไปคุมตำรวจท่องเที่ยว

การปราบปราม “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ที่ “รัฐบาล คสช.” ประกาศขึงขังเอาจริง .. ประกาศถึงขั้นเป็น “วาระแห่งชาติ” สั่งการทุกหน่วยงานลุยให้สิ้นซาก .. มีทั้งไล่ยึดทรัพย์ขายทอดตลาดเป็นหมื่นๆ ล้านบาท จัดหนักเสิร์ฟคดี “อั้งยี่” ให้กับกลุ่มจำเลยที่มีแกนหลักคือ “ครอบครัวโรจน์รุ่งรังสี” แห่งอาณาจักรโอเอทรานสปอร์ตฯ .. แต่ดันปล่อยให้สำนวนของ “ตำรวจ - อัยการ” หลวมโพรก จนศาลยกฟ้อง หน้าแหกกันทั้งรัฐบาล .. “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว้ากใส่ว่า “ทำไมมีปัญหากันอีก (วะ)” พร้อมสั่งการให้รีบยื่นอุทธรณ์โดยด่วน .. ร้อนกันถึงกรมปทุมวัน ที่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ต้องเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องโดยด่วน และมอบหมายให้ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ร่วมทำหน้าที่ “พี่เลี้ยง” ในการทำสำนวนคดีให้กับ “บิ๊กจุก” พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนปราบปราม “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” .. ท่ามกลางกระแสข่าวมีน้ำเลี้ยงมากถึง 360 ล้านบาทในล้มคดี ไหลตั้งแต่ต้นน้ำ หลางน้ำ ปลายน้ำ ที่ “บิ๊กจุก” ต้องออกมาบอกว่าไม่มี๊ ไม่มี 50 ล้านอะไรไม่รู้เรื่อง .. ที่พิลึกพิลั่นก็ “ผู้กำกับ สน.พญาไท” ที่เป็นเป้าว่า บกพร่องในกระบวนการเขียนสำนวนคดี ก็ถูกย้ายไปแค่ 3 วัน ยังถึง 4 คืน ก็สั่งย้ายกลับมาทีเดิม ทั้งที่ปม “สำนวนอ่อน” ยังไม่ได้เคลียร์ให้สิ้นสงสัยด้วยซ้ำ และทั้งที่คำสั่งย้ายก่อนหน้าเป็นคำสั่งตรงมาจาก “ตึกไทยคู่ฟ้า” .. สำทับด้วยข่าว “พล.ต.ต.สายแข็งโป๊ก” ที่มีบารมีมากกว่า “พล.ต.อ.” ไปไล่ทุบบริษัทเอกชน แล้วมาล้มมวยต้นคนดู

ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เม้ากันว่าเป็น “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปฟ. หรือ 191 ในฐานะอดีต ผบก.ตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธความเกี่ยวข้องที่ถูกกล่าวหา .. เป็น “บิ๊กโจ๊ก” ที่เมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งได้รับตำแหน่ง ว่าที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) .. แต่ผ่านมาสัปดาห์เดียว ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานการประชุม ได้มีการจัดทัพในส่วนของ กองบัญชาตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นใหม่ เพื่อหวังแก้ปัญหา ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องการขูดรีด โกง เอาเปรียบ ธุรกิจนำเที่ยวต่างๆ ตามนโยบายรัฐบาล และคงเป็นเจ้าภาพกวาดล้าง “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” นี่แหละ .. โดยที่ประชุม ก.ตร. เลือก พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 (ผบช.ภ.9) ให้เป็น ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) คนแรก .. ถือว่าเซอร์ไพร์สพอสมควร เพราะเดิมเก้าอี้นี้ มี พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาราชการแทน ผบช.ทท. จับจองอยู่ .. แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่านั้น ก็คือ มีการขยับ “บิ๊กโจ๊ก” จาก ว่าที่รอง ผบช.น. ให้เป็น ว่าที่ รองผู้บัญชาตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) เข้าคิวขึ้น ผบช.ทท. ในอนาคตอันใกล้นี้ .. ก้าวย่างของ “เดอะโจ๊ก” ถือว่าเป็นช้อตสำคัญที่มีผลต่อมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญในอนาคต แต่ไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหนแน่.

** คำร้องหรือคำสั่ง!! ป.ป.ช. รับลูก “สุเทพ” ดีด “วิชา มหาคุณ” พ้นอนุฯไต่สวน “โรงพักฉาว” อ้างมีอคติจากปมความเห็นต่างกันสมัยที่ “รองฯสุเทพ” อุ้ม “พัชรวาท” ไม่ชี้มูลความผิดคดี 7 ตุลาฯ

หน้ามืดหรือไงไม่ทราบ .. “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ร่อนหนังสือถึง “บิ๊กกุ้ย” พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ขอให้ถอด วิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ออกจากคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ที่ทำหน้าที่ไต่สวนคดีของตัวเอง .. ขอเปลี่ยนตัวไม่ว่า ในเนื้อความหนังสือยังฟาดโชะไปด้วยว่า “อาจารย์วิชา” แสดงออกเหมือนไม่ใส่ใจต่อคำชี้แจงของตัวเองในเวลาที่ไต่สวน .. แล้วยังกล่าวหาว่า “อาจารย์วิชา” มี “อคติ” ไม่พอใจตัวเองมาแต่เก่าก่อน .. จากกรณีที่ “สุเทพ” ในสมัยเรืองอำนาจเป็นประธาน ก.ตร. ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ชี้มูลความผิด “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ซึ่งไม่สอดคล้องกับมติ ป.ป.ช. ที่ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ในคดีสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ 7 ตุลาฯ 51 .. โดยล่าสุดก็มีรายงานข่าวจาก ป.ป.ช. ระบุว่า ได้มีมติถอด “อาจารย์วิชา” ออกจากอนุกรรมการไต่สวนเรื่องทุจริตโรงพักตามข้อเสนอของ “สุเทพ” อย่างไม่อิดออดแล้วด้วย .. จนดูเหมือนหนังสือของ “สุเทพ” ที่มีถึงประธาน ป.ป.ช. ไม่ใช่คำร้อง แต่เป็น “คำสั่ง” ให้ถอด “อาจารย์วิชา” ออกมากกว่า โดยอ้างชื่อ “พี่ป๊อด” ผู้มีพระคุณของ “น้องกุ้ย” ประธาน ป.ป.ช. .. เป็น “สุเทพ” ที่มีพฤติการณ์อุ้มชูหนุนส่ง “พัชรวาท” มาตลอดตั้งแต่สมัยที่เป็นรัฐบาล ซึ่งก็มี “ป๋าป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล .. เชื่อมโยงไม่ยากว่า “เครือข่ายวงษ์สุวรรณ” คุมองค์กรปราบโกง ป.ป.ช. อย่างเบ็ดเสร็จ .. สะท้อนจากกรณีของ “สุเทพ” ครั้งนี้ พ่วงกับการล้มมวยในคดี 7 ตุลาฯ ที่อุทธรณ์แต่ “บิ๊กเบื๊อก” พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว หน่อเดียว .. ยิ่งไปกว่านั้น สุรศักดิ์ คีรีวิเชียร อดีตผู้พิพากษาที่มาเป็น ป.ป.ช.แล้วมาเป็น “ลูกคู่” กับประธาน ป.ป.ช.ในการแถลงเรื่องไม่อุทธรณ์ 3 จำเลยที่เหลือในคดี 7 ตุลาฯ รวมไปถึง “พัชรวาท” ด้วยนั้น .. ที่แท้ก็เป็น “อดีตตำรวจเก่า” ที่ข้ามฟากมาเป็น “ผู้พิพากษา” ตอนปี 2535 .. และประธานอนุกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนเรื่องโรงพักที่ “สุเทพ” ดิ้นอยู่นี่ก็ “สุรศักดิ์” นี่เอง.

ช.ชฎา