นายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษ ยันต้องทำให้คนไทยมีสุขตามสภาพ เชื่อไม่ได้ทำให้แย่ลง รับห่วงเยาวชน อยากแก้น้ำท่วมแต่ติดอยู่ที่คนไม่ยอมให้ระบายน้ำในที่ตัวเอง ถามจะให้ทำท่อระบายน้ำลอยฟ้าเลยหรือไม่ ชี้ควรขยายเมืองออกแก้รถติด ค้ามนุษย์ต้องไม่เกิดอีก ส่วนสื่อวิพากษ์สุจริตตรงไหน ต้องปฏิรูป ระบุให้เกียรติทุกคน ขอยอมรับกระบวนการยุติธรรม เลิกมีพวกต้านได้แล้ว
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีมอบถ้วยรางวัล Thailand Management Excellence Award 2017 ให้แก่สถานประกอบการดีเด่น ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยมีปัญหาหลายด้านเราจำเป็นต้องพัฒนาให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง เราจึงจำเป็นต้องปฏิรูปทุกด้าน วันนี้ได้เห็นเด็กๆ มาร่วมร้องเพลง “ความฝันอันสูงสุด” และเพลง “เดินตามรอยพ่อ” เปิดงาน รู้สึกประทับใจที่ได้เห็นถึงความพร้อมเพรียง ความตั้งใจ ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ขอให้นำทั้ง 2 เพลงซึมซับในจิตใจด้วยว่ามีความหมาย และจุดมุ่งหมายคืออะไร ที่ผ่านมาเราไม่เคยได้ทบทวน หรือนำมาใช้ ทุกคนมัวมุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวมากที่สุด จากนี้ไปขอให้รู้จักว่าจะทำอะไรเพื่อประเทศบ้างนอกจากทำเพื่อตัวเอง หากทุกคนไม่ช่วยเหลือพึ่งพาอาศัยกัน ทุกอย่างก็ไปไม่ได้ วันข้างหน้าก็จะเกิดการล่มสลาย เราอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ให้แก่ประชาชนทุกฝ่าย แม้แต่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลและทุกฝ่ายก็พยายามแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคง ซึ่งหลายอย่างพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น การแก้ไขปัญหา และพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะรัฐบาลใดต้องนำทุกอย่างมาประมวลว่าควรทำอะไรแค่ไหนอย่างไร และควรจะเปลี่ยนไปในด้านใด การที่รัฐบาลปัจจุบันออกกฎหมายต่างๆ มาเพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศดำรงอยู่ได้ รวมทั้งต้องเตรียมมาตรการลดความเสี่ยงในอนาคต เพื่อให้ทุกอย่างไม่พัลวันเหมือนที่ผ่านมา เรียกว่าการสร้างภูมิคุ้มกัน เราต้องคิดถึงทุกคนทั้งประเทศ ถึงจะเรียกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน
“เหมือนรัฐบาลนี้ ผมก็คิดว่าคนไทยทั้ง 68 ล้านคน เป็นครอบครัวเดียวกับผม ผมต้องทำให้คนในครอบครัวของผมมีความสุข กินอิ่มนอนหลับ ตามสถานะและสภาพ ได้รับการช่วยเหลือ และพัฒนาที่ตรงจุด ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐบาลทำคนเดียวไม่ได้ และไม่มีรัฐบาลไหนในโลกที่ทำได้ถ้าทุกคนไม่ช่วยกัน สิ่งแรกคือการทำความเข้าใจในเรื่องการปรับปรุงแก้ไข อาจจะได้บ้างเสียบ้าง แต่ต้องได้มากกว่าเสีย ดีกว่าจะได้วันนี้แล้ววันข้างหน้าล่มสลายไปทั้งหมด วันนี้ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นคือความไม่สงบสุข ครอบครัวไม่อบอุ่น เราจึงต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ ต้องคิดว่ากำไรที่จะมอบคืนสู่สังคมคืออะไร อย่าลืมว่าสิ่งที่ทุกคนทำ และอยู่ได้ทุกวันนี้คือผืนแผ่นดินไทยที่ถมทับมาด้วยซากศพของบรรพบุรุษ ท่านอย่าถามว่าแผ่นดินประเทศชาติให้อะไรกับท่าน ต้องถามว่าท่านให้อะไรกลับคืนแผ่นดินไปบ้างหรือยังในช่วงที่ประเทศชาติยังมีปัญหาอยู่ เรามีปัญหาสารพัดไปหมด ตั้งแต่ผมเข้ามาปัญหาเยอะไปหมด ผมไม่ได้บ่นแต่ผมพูดให้ฟังทุกครั้ง ไปงานไหนผมก็พูดถึงปัญหาต่างๆ หลายคนบอกว่ามึงจะบ่นทำไมวะ ก็ออกไปสิ กลับบ้านไปนอน ถ้าผมคิดอย่างนั้นผมคนไม่เข้ามาวันนี้หรอก และผมเชื่อว่าวันนี้ผมไม่ได้ทำให้พวกท่านแย่ลง ทุกประเทศก็เข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทย มีมาพบปะพูดคุย และร่วมมือกับผม มีการทำสัญญา ลงนามเอ็มโอยู ลงทุนทั้งหมด อยู่ที่เราจะมีเสถียรภาพหรือไม่ การเป็นประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตย วันนี้โลกแยกว่าอันนี้คือเศรษฐกิจ กับการเมือง เป็นคนละเรื่อง ผมเคยถามผู้นำต่างประเทศว่ามาทำไม ในเมื่อผมอยู่ในสถานะเช่นนี้ เขาก็บอกว่าเป็นคนละเรื่องกัน ท่านทำในส่วนของประชาธิปไตยก็เป็นเรื่องของท่าน มีโรดแมป มีรัฐธรรมนูญ ก็ว่าไป เขาเคารพกฎหมายไทย เพียงแต่เราจำเป็นต้องสร้างเศรษฐกิจร่วมกันให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเยาวชนไทย เพราะกว่าตนจะทำงานมาถึงทุกวันนี้ได้ ก็ต้องผ่าฟันอุปสรรคมามาก กว่าจะโตขึ้นมาได้ ไม่คิดว่าจะมาเป็นนายกฯ และไม่เคยคิดว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คิดแค่ว่าต้องทำงานให้ดี วันข้างหน้าเขาก็จะเรียกเอง ไม่ต้องไปวิ่งเต้น แต่บังเอิญว่าต้องมาอยู่ตรงนี้ ซึ่งเป็นความจำเป็น โดยจะทำให้ดีขึ้น แก้เปัญหาที่หมักหมมมานาน แก้กฎหมายที่ไม่ทันสมัย โดยกว่า แสนฉบับ แต่ทุกคนก็จะไปทะเลาะกันแค่เรื่องรัฐธรรมนูญทั้งที่มีแค่ 300 กว่ามาตรา จึงต้องปฏิรูปกฎหมาย ฉบับใดที่ใหม่ทันสมัยก็ต้องโละทิ้งให้หมด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตอนนี้อยากแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดอยู่ที่คน ที่ไม่ยอมให้มีการผันน้ำหรือระบายน้ำในพื้นที่ตัวเอง ขณะที่ทุกคนต้องการให้แก้ไขปัญหาน้ำท่วม หรือจะให้ต่อท่อระบายน้ำลอยฟ้าจึงจะแก้ปัญหาได้ ถามว่าจะให้ทำท่อระบายน้ำลอยฟ้าเลยหรือไม่ ส่วนการแก้ไขปัญหาด้านการจราจรในกรุงเทพฯ หากสร้างรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก ก็จะมองจากข้างบนลงมาเห็นเหมือนเป็นใยแมงมุม สงสัยต้องให้ภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมนมาถ่ายในบ้านเราแล้ว ดังนั้น เราจึงควรขยายเมืองออกไปข้างนอก เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในต่างประเทศ ที่ไม่ติดปัญหาที่คน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กระทรวงแรงงานต้องเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาด้านการค้ามนุษย์ การค้ามนุษย์จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย อย่าให้มีโดยเด็ดขาด ตอนนี้เราถูกปรับไม่อยู่ในระดับเทียร์ 2 มา 2 ปีแล้ว ยังอยู่ในระดับเดิมอีก จะถูกใบแดงทันทีอย่างอัตโนมัติ หากปีหน้ายังอยู่ที่เดิมทุกคนก็จะโดนทั้งหมด คือถูกเขาล็อกปลด ดังนั้นทุกคนจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือรัฐบาล โดยต้องดูแลทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ให้เป็นไปตามพันธสากล
“การทำงานจะต้องดูกำลังซื้อ เพราะคนซื้อนั้นมีอยู่เท่าเดิม เหมือนอย่างทีวีดิจิตอลที่เจ๊งไปกี่ช่องแล้ว พอกำไรมีน้อย โฆษณาก็น้อยลง รัฐบาลก็พยายามช่วยเหลือ ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อที่บอกว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสุจริตนั้น ถามว่าสุจริตตรงไหน ติทุกเรื่องบางเรื่องแก้ปัญหาแล้วก็ยังถูกกว่าด่า ดังนั้นทุกอย่างจึงต้องมีการปฏิรูป” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงเด็กรุ่นหลังไม่รู้จักนิทานอีสป คำเทียบคำเปรียบเปรย บางครั้งการพูดคาดลูกคาบดอกก็ไปตีความกันผิด บางครั้งตนก็พูดคาบลูกคาบดอก แรงบ้าง เบาบ้าง ก็เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ในวันนี้
“วันนี้ผมให้เกียรติทุกคน ผมไม่เคยไปอะไรกับใคร ผมให้เกียรติ แต่ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องไปดูกันเอง ขอให้ยอมรับในการกระบวนการยุติธรรม เข้ามาต่อสู้กันเท่านั้นเอง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มนุษย์เรา คนเราดูถูกกันไม่ได้ ก็ให้ความเป็นธรรมกับเขา และเขาเองก็ต้องรักษากติกา แค่นี้เองหน้าที่ของผม และไม่ใช่เรื่องที่ผมมาทำให้มันเกิด มันเกิดมาก่อนหน้าผมอยู่แล้ว วันนี้ไม่มีพวกมาต่อต้านหรือไม่ ไม่มี เลิกมีได้แล้ว เรื่องสีสัน พอ วันนี้มีสีเดียวคือสีธงชาติ จะสีอะไรก็ไม่รู้ แต่เป็นสีธงชาตินั่นแหละ จะไปเกลียดสีแดงได้อย่างไร สีแดงมันคือเลือด จะใครมีเลือดสีอื่นบ้างเล่า ทุกคนก็มีเลือดสีแดงทั้งนั้น ยกเว้นมีแต่คนไปทำสีเสียใช่หรือไม่” นายกฯ กล่าว
