xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ โวคนสมัครทีมยุทธศาสตร์เยอะแต่ไม่อยากแจงบัญชีทรัพย์ให้คนด่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี เผยกำลังแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ บอกคนสมัครเยอะแต่อยากอยู่ข้างหลัง ไม่อยากเปิดเผยทรัพย์ให้คนด่า แม้ทำถูกกฎหมาย นี่ไม่ได้โม้ แจงปฏิรูปเอาปัญหามาดูวิธีแก้ ไม่ใช่สั่งเช้าแล้วได้เย็น อ้างต้องฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ชูถ้าทำสำเร็จไทยจะมีรายได้เพิ่ม อย่าคิดแบบเด็กๆ เอาตังค์ไปซื้อขนม

วันนี้ (23 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติว่า ขั้นตอนก็กำลังแต่งตั้ง ต้องเอาชื่อมาดูในเรื่องของคน ไม่ได้บอกว่ามีคนน้อยเพราะเขาไม่รักตน คนมาสมัครเยอะ แต่พอจะให้มาขึ้นชื่อเขาก็ไม่อยากมีชื่อ เขาอยากอยู่ข้างหลัง เขาอยากช่วยทุกอย่าง วันนี้ที่ตนทำงานได้คนมาช่วยเยอะมากเป็นร้อยๆ คน แต่เขาไม่อยากออกหน้า บางคนเขาจะออกมาเป็นกรรมการ เขาต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เขาบอกว่ามันวุ่นวาย เพราะประกอบการถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่เขาไม่อยากเอาออกมาเผยแพร่ให้คนด่าว่า บางทีจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ บางทีเขาก็เสียหาย และเขาก็ยืนยันว่าเขาทำถูกกฎหมายทุกประการ แต่ขออยู่ข้างหลัง นั่นคือความหมายของตน อย่าไปตีความว่า เพราะตนเป็นรัฐบาลอย่างนี้เลยไม่มีคนอยากจะช่วย หรือคนมาช่วยน้อย แสดงว่า คสช.เริ่มถอยหลัง ไม่มีถอยหลังมีแต่เดินหน้า มีคนเยอะแยะไป มีรายชื่อเป็นร้อย แต่เวลาจะคัดมันจะเหลือน้อย เพราะว่าเขาอยากอยู่เบื้องหลัง มี ดร.หลายคน เข้าใจรึยัง นี่ไม่ได้โม้นะ เดี๋ยวหาว่าโม้อีก

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการปฏิรูป เรื่องยุทธศาสตร์ ถ้าว่างอยากให้ไปดู แต่ขึ้นไปดูไม่ได้ เอกสารเต็มโต๊ะเลย ซึ่งทั้งหมดต้องมีเอกสาร มีหลักการ และเหตุผล ต้องมีวิธีการทำงาน ต้องเอาปัญหามาดูว่ามีกี่ปัญหา ปัญหาหลัก ปัญหารอง มีปัญหาเป็นร้อยเป็นพัน แล้วแต่ละอันมีวิธีปฏิบัติอย่างไร และจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายอย่างไรทั้งเกษตร อุตสาหกรรม เอสเอ็มอี และคนอีกกี่ประเภท นั่นเขาเรียกว่าปฏิรูป เสร็จแล้วจึงไปหากฎหมาย ว่าจะทำได้ไหม จะต้องแก้กฎหมายอีกหรือไม่ ต้องเข้าใจว่าการปฏิรูปมันเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่สั่งเช้าแล้วได้เย็นเหมือนกินข้าวเช้าแล้วอิ่ม จึงต้องมีคณะทำงาน ที่ผ่านมาเขารู้ปัญหาหมดแล้วเป็นร้อยเป็นพันปัญหา และสรุปปัญหาเป็นกิจกรรม เป็นประเด็น 11 วาระ 31 กิจกรรม จากเดิมเป็นร้อย และมีอีก 188 เรื่องที่ต้องทำ ใน 188 เรื่องมีกฎหมายอีกเป็นพันฉบับ เขาปฏิรูปกันแบบนี้ พอเสร็จแล้วจะเป็นแผนแม่บทออกมา ทั้งหมดนี้จะต้องตอบโจทย์ว่าประเทศไทยจะต้องเป็นไปตามวิสัยทัศน์มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนใน 20 ปี และจะตีกรอบด้วยแผนสภาพัฒน์ฯ ผู้ปฏิบัติคือรัฐบาลและประชาชน ต้องเข้าใจให้สอดคล้องกันหน่อย ถ้าไม่มีคณะนี้มันก็จะมาที่รัฐบาลอย่างเดียว รัฐบาลทำแบบนี้ รัฐบาลไหนจะทำแบบไหนตนไม่รู้ รัฐบาลนี้ทำเพราะต้องฟังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด หาปัญหามาให้เจอ

นายกฯ กล่าวว่า คณะทำงานเป็นเพียงคณะที่ติดตาม ถ้าไปมองว่าใช้รายได้มาก ค่าจ้างค่าประชุมเยอะ แต่ถ้าเขาทำสำเร็จ ประเทศไทยจะมีรายได้เพิ่มขึ้น จาก 20 ล้านล้าน เป็น 200 ล้านล้าน คิดอย่างนี้สิ อย่าไปคิดต้นทุนว่าไอ้นี่ทำเพื่อไอ้นี่ ทำรถไฟคนขึ้นน้อยขาดทุน แบบนี้เรียกว่าคิดแบบเด็กๆ เอาตังค์ไปซื้อขนม อย่างการซื้อของ ตนเห็นว่า 1. เอาเงินที่เรามีส่วนตัวซื้อให้เขา ให้คนที่มีรายได้น้อยมีความสุข 2. ของที่ตนซื้อคนประกอบการก็มีแรงผลิต เพราะมีคนซื้อ
กำลังโหลดความคิดเห็น