รมช.คลัง คาดภาษีแอลกอฮอล์ ยาสูบ เข้า ครม.ต้นเดือนหน้า ชี้เสี่ยงกักตุนจึงไม่นำมาพิจารณาพร้อมภาษีอื่น อ้างเพดานเก็บเบียร์ไวน์ มากกว่าเหล้าดูปริมาณแอลกอฮอล์เป็นหลัก ลั่นบริษัทไหนจะมาวิ่งเต้นไม่ได้ ยันกำหนดตามเกณฑ์กฎหมาย ไม่ยอมให้ใครทำ จะคิดตามเหตุและผล
วันนี้ (22 ส.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 12.40 น. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ถึงความคืบหน้าการจัดทำอัตราภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใหม่ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ว่า ในส่วนของภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และภาษีเกี่ยวกับยาสูบ คาดว่าจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาในช่วงต้นเดือน ก.ย. เพราะภาษีเหล้าและภาษียาสูบมีผลต่อการกักตุนสินค้า จึงไม่ได้นำมาให้ ครม.พิจารณาพร้อมกับภาษีตัวอื่น รวมทั้งต้องหลีกเลี่ยงการกำหนดภาษีล่วงหน้านานเกินไป
นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงความกังวลในการจัดเก็บภาษีระหว่างเบียร์และไวน์ที่มีเพดานภาษี 3,000 บาทต่อลิตร ในขณะที่ภาษีสุรามีเพดานภาษีเพียง 1,000 บาทต่อลิตร ว่ายืนยันว่าจะติดตามราคาและปริมาณแอลกอฮอล์เป็นหลัก ไม่มีอะไรนอกเหนือไปมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เพราะเราต้องยึดตามข้อกฎหมายเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอัตราภาษีที่จะออกมานั้นไม่กระทบผู้บริโภคอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่ามีการวิ่งเต้นและล็อบบี้จากบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ในการกำหนดเพดานภาษีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด นายวิสุทธิ์กล่าวว่า “บริษัทไหนจะเข้ามาวิ่งเต้นให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบอะไรกันไม่ได้ การกำหนดอัตราภาษีจะต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้ โดยเฉพาะปริมาณแอลกอฮอล์ ผมไม่ให้ใครมาวิ่งเต้นหรอก จะวิ่งก็วิ่งไป แต่ผมจะคิดตามเหตุและผล”