“ประยุทธ์” บอกวันที่ 24 ส.ค.นอนหลับสบาย ระบุอย่าไปให้ความสนใจวันที่ 25 ส.ค.เพราะเป็นเรื่องบุคคลและศาล ย้อนถามคนไทยทั้งประเทศจะยอมให้เกิดสถานการณ์ขึ้นอีกหรือ ถามหาสื่อออกตัวไม่ขอมาทำข่าวลงพื้นที่ ปากบอกไม่โกรธแต่รับนิสัยไม่ได้ ชี้ที่ทำอยู่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือไม่ ก่อนอารมณ์ดีเข้าไปแจมเป็นช่างภาพเล่นกับสื่อ
วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร ถึงการเตรียมรับมือการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 25 ส.ค. โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคืนวันที่ 24 ส.ค.จะนอนหลับหรือไม่ โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้อนถามว่า “มีอะไรหรือ เป็นวันอะไร วันศุกร์หรือ วันศุกร์ก็ดีใจสิ วันศุกร์แล้วผมจะได้พักผ่อน จะไปสนใจว่าเป็นวันอะไร ก็เป็นเรื่องของคดี หรือเป็นเรื่องของใครก็เป็นเรื่องของคนคนนั้น เรื่องของศาล คนที่จะนอนไม่หลับคงมีไม่กี่คนละมั้ง สำหรับผมหลับสบายทุกวันนั่นแหละ งานผมเยอะอยู่แล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่เขาก็เตรียมของเขาตามหน้าที่ ไม่ได้ไปกดดันใคร อีกฝ่ายก็อย่าไปยุแยงตะแคงรั่วว่าจะโน่นจะนี่ อีกฝ่ายก็ต้องเตรียม ไม่รู้จะไปขู่กันทำไม เจ้าหน้าที่เขาก็ต้องเตรียมการของเขาไว้ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เสียเวลาเปล่า เสียงบประมาณ ขอร้องกัน วานนี้ (21 ส.ค.) ผมได้ถามชาวอีสานว่าเขาจะไปหรือไม่ เขาตอบว่าไม่ไป แล้วมันจะมีอะไรเกิดขึ้นมา”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแง่การรักษาความปลอดภัยจะมีมาตรการอะไรออกมาหรือไม่ หากเกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “แล้วจะมีได้หรือไม่ ประเทศไทย คนไทยจะยอมให้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ สมมติว่าศาลตัดสินออกมาแล้ว ไม่ว่าคดีจะออกมาอย่างไร ซึ่งผมไม่รู้เพราะผมไม่เคยรู้ล่วงหน้า และไม่อยากจะรู้ด้วย แต่ถามว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมา แล้วคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้หรือไม่ ถ้าคนไทยทั้งประเทศยอมรับได้ ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีกผมก็ยอมพวกท่านแล้ว คนไทยเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ คนไทยทุกคนรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ เป็นตัวกลางที่จะทำให้ประเทศสงบเดินหน้าประเทศไปข้างหน้าให้ได้”
“แล้วสื่อไหนที่บอกว่าจะไม่มาทำข่าวผม ใครไม่มา ไหนมาหรือเปล่า ไม่อยู่แล้วก็ดี แล้วเมื่อวานเขามาทำหรือเปล่า ผมไม่ได้โกรธเขา แต่ผมรับนิสัยเขาไม่ได้ เขาบอกว่าสื่อต้องทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ ขอถามว่าแล้วสิ่งที่ผมทำอยู่ทำเพื่อสาธารณะหรือเปล่า ผมไม่ได้ให้พวกท่านมาโฆษณาให้ว่ามีคนรักนายกฯ อย่างนั้นอย่างนี้ หรือนายกฯ เป็นคนเก่ง ผมไม่ต้องการคำหวานแบบนี้ ผมแค่ต้องการให้มาทำข่าวว่าเขาทำงานอะไรกันบ้าง ประชาชนจะได้เข้าใจ และเข้ามาหาช่องทางเหล่านี้ที่หน่วยราชการได้ทำไว้ได้ ถ้าสื่อไม่พูดหรือไม่นำเสนอเรื่องเหล่านี้ แล้วประโยชน์สาธารณะจะเกิดได้หรือไม่ การที่พวท่านมาถามกรณีของวันที่ 24-25 ส.ค. ในเป็นประโยชน์สาธารณะอย่างนั้นหรือ เรื่องนี้ไม่ใช่ประโยชน์สาธารณะเป็นเรื่องของบุคคล ไม่เช่นนั้นทุกคดีความก็คงตัดสินกันไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกนั้นนายกฯ ได้หันไปถามสื่อท้องถิ่นว่าเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองพูดหรือไม่ พร้อมชื่นชมหลังจากได้รับคำตอบว่าเข้าใจ โดยกล่าวว่า “ดีมาก เยี่ยม น่ารักจริงๆ ไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกันไหม” ก่อนยกมือไหว้พร้อมบอกว่า “ลาแล้วครับ เดี๋ยวไปทำบุญก่อน” พร้อมอวยพรให้สื่อเดินทางกลับอย่างปลอดภัย เดี๋ยววันนี้จะสวดมนต์ให้ อย่างไรก็ตาม เมื่อนายกฯ เดินออกจากโพเดียมแถลงข่าวเพื่อเดินทางกลับแต่นึกขึ้นได้จึงย้อนกลับมาที่กลุ่มสื่อมวลชน พร้อมสาธิตการถวายคำนับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมฉายาลักษณ์จะต้องน้อมไปทั้งลำตัว ไม่ใช่แค่ผงกศีรษะลง เพราะเป็นเพียงแค่การทำความเคารพคนเท่านั้น
หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้ามาถ่ายรูปกับกลุ่มสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี โดยหยอกล้อว่า “ใครไม่ถ่ายเดี๋ยวน่าดู” ก่อนจะร่วมถ่ายรูปในหลายอิริยาบถ พร้อมระบุว่า “ไม่รักฉันก็อย่าเกลียดฉัน” ก่อนหันไปสั่ง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าให้คอยดูด้วยว่ามีสื่อคนใดเอาภาพของตัวเองไปล้อเล่น ก่อนที่จะทดลองเป็นช่างภาพโทรทัศน์ โดยระบุว่าอยากรู้ว่ามันยากและลำบากแค่ไหน พร้อมสวมวิญญาณนักข่าวทดลองตั้งคำถามกลับสื่อมวลชนใน 2 ประเด็น คือ “ขอทราบเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และการปฏิรูปประเทศว่าควรมีและต้องร่วมมือกันหรือไม่ ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง วันนี้ต้องร่วมมือกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ จะทำเฉพาะต้นน้ำไม่ได้ เดี๋ยวปลายก็เล่นกันสบาย”