ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ยัน สตง. ปราบโกงเชิงรุก ไล่ข้าราชการถ้ากลัวตรวจสอบก็ลาออกไป ยันไม่ได้มองใครสีอะไร เผย เคยเตือนท้องถิ่นแล้วแอบพาคนมาให้กำลังใจใครทำไม่ได้ ด้านประธานคณะกรรมการสมานฉันทน์แรงงานไทย ชี้ ปรองดองความหวังลางเลือนแล้ว ยังมองไม่ออกยุทธศาสตร์ชาติพาสังคมไปไหน
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่อนุสรณ์สถาน 14 ต.ค. สี่แยกคอกวัว คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน จัดรายการโต๊ะกลมสาธารณะ “บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร” โดย นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวตอนหนึ่งว่า สตง. ทำงานในการป้องปรามการทุจริต มีการตรวจเชิงรุก แต่เกิดปัญหาคือ เจ้าหน้าที่รัฐมองว่า สตง. ติเรื่องนั้นเรื่องนี้ เป็นเหตุผลว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าตัดสินใจในแต่ละโครงการ ตนขอบอกว่า ถ้ากลัวการตรวจสอบก็ขอให้ลาออกไป ถ้าไม่มีการตรวจสอบจะเชื่อได้อย่างไรว่ามีความโปร่งใส เราไม่ได้มองว่าใครสีไหนสีอะไร ก่อนหน้านี้ เรามีข้อมูลว่าท้องถิ่นมีการนำงบพาคนดูงาน เราก็ต้องทักท้วงติง เพราะใช้จ่ายเงินแผ่นดินที่เป็นของคนทั้งประเทศ ดังนั้น จะมาทำโครงการอย่างหนึ่งแล้วแอบแฝงพาคนมาให้กำลังใจใครนั้นทำไม่ได้ นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ ก็มีการอ้างว่าจะพาลูกเสือชาวบ้านมาแสดงความจงรักภักดีในจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ มีการพักค้างคืน เช่าเวที ถามมาว่าเบิกได้หรือไม่ ตนก็บอกว่าเบิกไม่ได้ การแสดงความจงรักภักดีทำที่ไหนก็ได้ สุดท้ายก็ไม่ได้จัดและไม่แฮปปี้กับเรา นอกจากนั้น เราก็ท้วงติงว่ามีการเอาเงินราชการไปถวายพระ เวลา สตง. ตายอาจจะไม่มีพระสวด เรื่องนี้เป็นปัญหาของประชานิยมที่เกิดขึ้น
ด้าน นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานคณะกรรมการสมานฉันทน์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวว่า วันนี้การปรองดองเป็นเรื่องความหวังที่ลางเลือนไปแล้ว อาจจะไม่เห็นด้วยซ้ำไป ตนคิดว่า เราอย่าไปกลัวความขัดแย้ง รากเหง้าความขัดแย้งเกิดจากความแตกต่างความเหลื่อมล้ำ การจัดสรรผลประโยชน์ไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้น สิทธิเสรีภาพของประชาชนน้อยลง รัฐบาลพูดถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตนยังมองไม่ออกว่าจะพาสังคมเดินไปทางไหน เพราะเป็นการดำเนินการจากระดับบนลงล่าง ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง