xs
xsm
sm
md
lg

1 ช่อง 1 รมต.! รัฐขอทีวีทำสกู๊ปเกาะติด ครม.สัญจร - ปธ.สภาการ นสพ.ซัดเผด็จการเบ็ดเสร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล (แฟ้มภาพ)
จุลสาร ราชดำเนิน เผย อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เรียก บก.สื่อ ถกเตรียมประชุม ครม. สัญจรนครราชสีมา 21 - 22 ส.ค. อ้างช่อง 11 กำลังไม่พอ ขอความร่วมมือเกาะติดรัฐมนตรี 20 กระทรวง จัดตารางแต่ละช่องทำสกู๊ปใครไปไหน โชว์แก้ปมสำเร็จอย่างไร อ้างไม่อยากให้นายกฯ เป็นวันแมนโชว์ ยันปล่อยทำข่าวอิสระ แต่ขอสร้างสรรค์ ด้าน ปธ.สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ซัดเผด็จการเบ็ดเสร็จ ปั้น รมต. โลกลืมให้มีผลงาน เชื่อบางช่องยอม แต่ก็เป็นช่วงเวลาพิสูจน์ของจริง

วันนี้ (17 ส.ค.) เครือข่ายสังคมออนไลน์ จุลสาร ราชดำเนิน ได้เปิดเผยเนื้อหาการประชุมระหว่าง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กับบรรณาธิการสื่อมวลชน ถึงการเตรียมการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ณ จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 21 - 22 สิงหาคมนี้ โดยระบุว่า วันที่ 15 สิงหาคม ได้มีหนังสือจากกรมประชาสัมพันธ์ส่งถึงบรรณาธิการสื่อมวลชนทุกแขนง เชิญประชุมเตรียมการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ณ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้การรายงานข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชน ในวันพุธที่ 16 สิงหาคม ณ ห้องประชุม 1 อาคารหอประชุม กรมประชาสัมพันธ์

ขณะที่การประชุมวานนี้ (16 ส.ค.) พลโท สรรเสริญ ได้ชี้แจงพร้อมขอความร่วมมือตัวแทนสื่อมวลชนที่เข้าประชุม โดยอ้างว่า ทรัพยากรของกรมประชาสัมพันธ์ มีแค่สถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง สถานีโทรทัศน์ในพื้นที่ ทั้ง ​จ.อุบลราชธานี ขอนแก่น​ รวมทั้ง จึงอยากให้ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นแกนกลาง นำกำลังคนจากภูมิภาคอื่นๆ ที่มีทักษะ มีความสามารถเรื่องนี้มาช่วยงาน จะฝากชีวิตไว้กับกรมประชาฯ อย่างเดียวไม่ได้ เพราะเขาลงพื้นที่พรืดทั้ง 20 กระทรวง ถ้าไม่กำหนดความเร่งด่วนทุกคนจะตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปหมด นายกฯ ก็จะกลายเป็นวันแมนโชว์ รัฐมนตรีทำอะไรแก้ไขปัญหาอะไรในพื้นที่ จะไม่เกิดข้อมูลข่าวสาร จึงอยากฝากรัฐมนตรี ทั้ง 20 กระทรวง รวมทั้ง นายกฯ กับสื่อมวลชนทุกช่องที่มา ทั้งนี้ จะมีตารางว่าแต่ละกระทรวงลงพื้นที่ ที่ไหน ไปติดตามเรื่องอะไร ปัญหาที่เขาติดตามก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ดำเนินการไปถึงไหน เพื่อให้แต่ละช่อง เลือกเป้าหมายของตัวเองว่าถนัดอะไร สนใจอะไร ต้องการเกาะกับรัฐมนตรีคนไหน ในพื้นที่ตรงไหน ก็เลือกตามที่ประสงค์เดี๋ยวเราจะแชร์กันให้ลงตัว

พลโท สรรเสริญ กล่าวว่า เสร็จแล้ว NBT จะจัดทำรายการพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 21 ส.ค. ช่วงบ่าย หรืออาจจะเป็นวันอื่นสุดแล้วแต่​ซึ่งจะไปตกลงกันในรายละเอียด แล้วจะมีรายงานพิเศษจากในพื้นที่ ที่บ้านโนนไท สมมติ จ.ขอนแก่น มีรัฐมนตรีคนนี้ไปติดตามงาน ปัญหาเดิมคืออะไรที่ผ่านมาแก้ปัญหายังไง วันนี้ไปติดตามงาน เพื่อเพิ่มเติมประเด็นอะไรหรือติดปัญหาตรงไหน แก้ไขปัญหาแล้วคาดว่าสำเร็จเมื่อไหร่ ประชาชนมีข้อสังเกตเพิ่มเติม อะไร ทั้งหลายเหล่านี้ อยากให้ท่านได้ติดตามข้อมูลว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร แล้วรายงานพิเศษกลับมายัง ช่อง NBT

“สรุปแล้วว่าผมจะขอให้ท่านเป็นกำลังของผม โดยที่่่ท่านไม่ต้องเขิน ท่านสามารถใช้ไมโครโฟนของท่านได้เลย จะเป็นตราสัญลักษณ์ ของ ช่อง 7 5 9 ไทยพีบีเอส โมโน ทีเอ็นเอ็น 24 นิวส์ทีวี ไทยรัฐทีวี อมรินทร์ หรืออะไรก็ได้ ท่านรายงานเข้ามาเลย โดยเราจะกำหนดเป็นคิว แต่ผมไม่สามารถกำหนด ให้ท่าน รมต. แต่ละคนลงพื้นที่ในเวลาใกล้เคียงกันได้ ดังนั้นการรายงานข้อมูลเข้ามาไม่จำเป็นต้องสด เป็นได้ทั้งสด และแห้ง ท่านทำเบ็ดเสร็จเข้ามาเลย NBT จะเป็นผู้จัดลำดับความต่อเนื่องพื้นที่ไหน เข้ามา ไล่จาก อีสานเหนือ อีสานกลาง อีสานใต้ หรือ ไล่ ตามประเด็นยุทธศาสตร์ แล้วแต่กำหนด​เป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ​ที่ท่านนายกฯ ชอบพูด เพื่อเปิดศักราชใหม่ของความเป็นสื่อแม้วันนี้ แม้เชิงธุรกิจเราจะเป็นคู่แข่งขันกันก็ตามแต่ ในเชิงการทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ว่าประเทศไทย ณ เวลานี้มีปัญหาอะไร รัฐบาลพยายามแก้ไขแต่ละเรื่องอย่างไร ถึงไหนแล้ว ติดปัญหาตรงไหน แต่ละคนลงไปติดตามงานได้ผลแค่ไหน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบผมอยากให้เป็นอย่างนั้น” พลโท สรรเสริญ กล่าว

พลโท สรรเสริญ ระบุว่า เมื่อวานซาวน์เสียงดูคร่าวๆ พบว่าบางช่องที่ได้คุยกันบอกว่าไม่เป็นปัญหา อะไรก็ตามที่ทำให้คนไทยรู้สึกว่า มีความหวังที่จะแก้ปัญหาในพื้นที่ ไล่ไปแต่ละภูมิภาค วันนี้ไปอีสาน ไม่นานจะจะไปเหนือ ไปใต้ ไปอีอีซี ไปจังหวัดชายแดนใต้ ​ทุกคนพร้อม

“ก่อนจะไปถึงแบ่งว่าใครทำอะไร ตรงไหนอย่างไร ผมเอาแบบทหารแล้วกัน ใครที่คิดว่า ยินดีให้ความกรุณากับกรมประชาสัมพันธ์ ให้การสนับสนุนพี่น้องประชาชน ให้สามารถรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร หลากหลายพื้นที่ ตามตามทัศนคติ มุมมองของท่าน โดยที่ผมไม่ไปกำหนดว่าท่านต้องรายงานอย่างนั้น อย่างนี้ ​ท่านใช้ครีเอทของท่านได้เต็มที่ แต่อยากให้ เป็นไปในเชิงสร้างเสริม ประชาชนได้ประโยชน์จากการฟังข้อมูลจริงๆ ไม่ใช่สร้างปมประเด็นปัญหาขึ้นมาใหม่ ​แล้วหาจุดลงตัวไม่ได้เป็นประเด็นทะเลาะเบาะแว้ง เราไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ด้วยวิธีการแบบนี้ ติดขัดไหม ไม่มีนะ ถ้าไม่ติดขัดก็ถือว่าที่ประชุมเห็นด้วยกกับแนวทาง ที่เราจะสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าในอีสาน ที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ อาทิตย์ จันทร์​ อังคาร ที่ ประชุม ครม. สัญจรนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่บ้าง” ​พลโท สรรเสริญ ระบุ

ขณะที่ เครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก Chakkrish Permpool ของ นายจักรกฤษ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ระบุว่า นี่ต้องเรียกว่าเผด็จการเบ็ดเสร็จ แม้จะใช้ถ้อยคำว่าเป็นการขอความร่วมมือก็ตาม เป็นการแทรกแซงการทำงานของสื่อที่ควรเป็นอิสระ รวมทั้งไทยพีบีเอส ที่ก่อเกิดมาจากเลือดเนื้อและการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสื่อที่เป็นอิสระจากอำนาจรัฐด้วยเหตุผล

“...รัฐบาลอยากให้เกิดภาพคณะรัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่และติดตามงานช่วยเหลือประชาชน แต่จะอาศัยโทรทัศน์ในส่วนของรัฐอย่างเดียวคงไม่พอ จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ช่วยติดตามภารกิจของรัฐมนตรีด้วย โดยจะนำมาออกอากาศผ่านทางช่องโทรทัศน์เอ็นบีทีระหว่างวันที่ 21 - 22 ส.ค. โดยสามารถใช้ไมค์ประจำสื่อตัวเองได้ และทางเอ็นบีทีจะกำหนดเป็นคิวออกอากาศไว้ให้ ในลักษณะสดหลอก ถือเป็นการทำงานร่วมกับแบบบูรณาการ...”

นายจักรกฤษ ระบุว่า แปลว่า กอง บก. จะไม่สามารถวางแผนการทำงานข่าว ถ่ายภาพ ตามปกติได้ จะเลือกมุมกล้อง เนื้อหาหรือบุคคลที่พวกเขาคิดว่าขายได้ มีคนดูก็ไม่ได้ เขาอาจจำเป็นต้องตามรัฐมนตรีสักคน ที่ไม่เคยอยู่ในความสนใจของผู้คนมาก่อน เพราะไม่น่าสนใจ หรือไม่เคยมีผลงาน แต่จะมาสร้างผลงานกันภายใน 2 วันนี้ ก็ต้องทำข่าวกันไป ถ่ายภาพกันไป เพื่อจะได้ไปออกทีวีรัฐที่ไม่มีคนดู

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ การไปติดตามทำข่าวรัฐมนตรีที่ไม่เคยเป็นข่าวมาก่อน เพื่อให้เห็นว่าในห้วงระยะเวลา 3 ปีนี้รัฐมนตรีมีผลงานทุกคน ทำงานทุกคน แต่อยู่ที่เนื้อหาสาระ ประเด็น คุณค่าข่าว ความสำคัญของบุคคลที่จะเป็นข่าว เพราะแม้จะมีพื้นที่ในการนำเสนอผลงาน มีความถี่ มีความต่อเนื่อง มีผูกขาด เบียดบังเวลาของเอกชน เช่น รายการบังคับดูของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทางทีวี คสช.ไม่มีใครกล้าสำรวจเรตติ้ง รู้แต่ว่าช่วงเวลานั้น ประเทศไทยประหยัดค่าไฟไปจำนวนไม่น้อย คงมีทีวีหลายช่อง ที่จำยอมปฏิบัติตามพล.ท.สรรเสริญ ด้วยเหตุผลความอยู่รอด ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ หรือเหตุผลอย่างไรก็แล้วแต่ แต่นี่ก็จะเป็นโอกาสในการพิสูจน์ ของจริง คนจริง ความเป็นหินลองทองแหลมคมของสถานีโทรทัศน์ที่มีความเป็นอิสระ และกล้าท้าทายอำนาจรัฐ ในเมื่ออำนาจนั้นไม่มีความชอบธรรม

ด้าน เครือข่ายสังคมออนไลน์ Mana Treelayapewat ของนายมานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์การตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ท่าทางบางคนจะไม่เข้าใจการทำหน้าที่ระหว่าง “นักประชาสัมพันธ์ของรัฐ” กับ “นักข่าว”







กำลังโหลดความคิดเห็น