“ประวิตร” ยันกองทัพไม่ช่วยปม ผอ.สปก.ศปร.ถูกกล่าวหาอุ้มนักธุรกิจสิงคโปร์ ชี้เรื่องส่วนตัว ด้านโฆษกกลาโหม ระบุหากผิดจริงไม่ละเว้น แต่ต้องให้ความเป็นธรรม จ่อตั้งกรรมการสอบ ด้าน ผบ.ตร.เผยกำลังออกหมายจับคนอุ้ม รับคนมีสีเอี่ยวบางส่วน ยังไม่ตัด พล.ต.ต้องสงสัย
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.จรูญ อำภา ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติงานศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง (ผอ.สปก.ศปร.) กองบัญชาการกองทัพไทยถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มรีดไถนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าผิดก็ต้องจับกุม เพราะทหารจะทำความผิดและทำทุจริตไม่ได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าทางกองทัพไม่มีการให้ความช่วยเหลือ หากผิดให้ดำเนินการเต็มที่ตามกฎหมาย โดยการดำเนินการทางคดีอาญาจะมีความผิดร้ายแรงกว่าวินัยทหาร เพราะจะไปอุ้มใครนั้นไม่สามารถทำได้
ขณะที่ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า หากกำลังพลกระทำผิดจริง กระทรวงกลาโหมจะไม่ละเว้น แต่เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ถ้าเป็นทหารแล้วทำความผิดจริงจะมีทั้งความผิดทางอาญาและทางวินัย ส่วนทางวินัยจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว หากมีความผิดก็จะต้องพักราชการ ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนก่อน
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างออกหมายจับ โดยมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ตนมองว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องบางส่วน เรื่องเหล่านี้อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ว่าจะตำรวจ ทหาร และประชาชน หากเกิดคดีขึ้นก็ต้องดูที่พยาน หลักฐาน เพราะคดีนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ส่วน พล.ต.ที่มีชื่อนั้น จากการสอบสวนยังไม่ได้ตัดผู้ต้องสงสัยรายใดทิ้ง แม้แต่ พล.ต.ด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวตนยังไม่ได้หารือกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพราะอะไรที่มีพยานหลักฐานชัดเจนก็ต้องดำเนินการตามนั้น