xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ปลูกต้นไม้ที่อยุธยา หวังให้ครบ 10 ล้านต้น สั่ง ทส.ดูต่อ ไม่ใช่ปล่อยตายแล้วของบใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรีบินไปอยุธยา เปิดงานประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดินที่บางบาล หวังปลูกให้ครบ 77 จังหวัด 10 ล้านต้น ชูสัญลักษณ์ไอเลิฟยู จ่อฟื้นฟูป่า 40% จัดให้คนอยู่ร่วมกัน สั่ง ทส.เช็กปลูกแล้วทำยังไงต่อ ไม่ใช่ปล่อยตายแล้วของบใหม่

วันนี้ (7 ส.ค.) ที่สนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 เขตพญาไท เมื่อเวลา 08.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยในเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรษาครบรอบ ๖๕ พรรษา และร่วมกันสืบสานพระราชดำริใน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วม เป็นการเริ่มต้นโครงการเพื่อปลูกให้ครบ 10 ล้านต้นทั้ง 77 จังหวัด คาดเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ 5 หมื่นไร่ โดยกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมต้นกล้าแจกจ่าย โดยมีข้าราชการและประชาชนเข้าร่วมกว่า 2,000 คน

ทั้งนี้ เมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงได้เดินตรวจเยี่ยมที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้า ก่อนที่จะทักทายกับหน่วยงานภาครัฐและประชาชน พร้อมยกมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยู จากนั้นนายกฯ ได้เป็นประธานมอบกล้าไม้ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด เช่น ผู้ว่าฯ สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง นนทบุรี ปทุมธานี และ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงผู้แทนท้องถิ่น

จากนั้น นายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นการทำงานเพื่อศึกษาแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ประเทศไทยโชคดีที่มีรัชกาลที่ ๙ และรัชกาลที่ ๑๐ ที่ได้ทรงให้นำแนวทางในรัชกาลที่ ๙ มาทำในทุกๆ ด้าน โดยมีพระราชกระแสรับสั่งเสมอมาว่าทุกอย่างรัชกาลที่ ๙ ทรงทำไว้หมดแล้ว ขอให้พวกเราช่วยกันต่อเติมและปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม ดังนั้นรัฐบาลจึงนำสิ่งที่ได้พระราชดำริมาดำเนินการ ทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน การรักษาการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ โดยต้องไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายอาจมีการปล่อยปละละเลยทำให้การพัฒนาเดินหน้าไม่ได้ เราต้องการปลูกป่าเพิ่มขึ้นจาก 36% เป็น 40% โดยต้องนำพื้นที่บุกรุกมาดำเนินการพร้อมกับดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยส่วนราชการต้องหาวิธีการในการจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ได้ไม่ใช่จะบอกแค่ว่ารัฐบาลรัฐบาลหรือ คสช.สั่งเพียงอย่างเดียว

“เราได้ยินคำว่าปลูกป่าในใจคนเสมอมา และไม่รู้ว่าพวกตัดไม้ทำลายป่ามีคำนี้ในใจหรือไม่ เพราะคนที่ติดคุกคือคนรับจ้างตัดไม้ หรือทุกคนที่เกี่ยวข้องมีแต่คำว่าตัดไม้ในใจคน คนเหล่านี้ต้องกำจัดด้วยกฎหมาย เพื่อฟื้นฟูป่าให้ได้ 40% และต้องจัดให้คนอยู่ร่วมกับป่าให้ได้ ทั้งนี้ คสช.ได้มีคณะกรรมการบริหารจัดการที่ดินแห่งชาติขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรป่าด้วย โดยผู้ครอบครองจะไม่ได้เป็นเจ้าของแต่จะส่งเสริมให้เป็นที่ดินทำกิน ทั้งนี้ การปลูกป่าในใจคนจะต้องรักและหวงแหนไม่ใช่ปลูกทิ้ง ขอให้กระทรวงทรัพย์ไปตรวจสอบการปลูกป่าว่าที่ผ่านมานั้นมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ได้มีการติดตามหรือไม่ใช่ปลูกแล้วตาย แล้วมาของบประมาณกันใหม่ ทั้งนี้การทำงานจะต้องมีความรับผิดชอบ มีผลสัมฤทธิ์ เพราะถ้าอ้างแผนการปลูกป่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา วันนี้ประเทศไทยคงมีป่าเต็มไปหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า อยากจะแนะนำเรื่องการปลูกป่าว่า 1. ต้องปลูกป่าในใจ 2. ควรปลูกป่าในบ้าน 3. ควรปลูกป่าในชุมชน 4. ปลูกป่าเพื่อให้เชื่อมโยงกับป่าไม้ใหญ่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารแก่มนุษย์และสัตว์ เมื่อคนได้ประโยชน์จากป่าก็จะช่วยกันปกปักรักษา และอยากให้มีศูนย์เพาะพันธุ์ไม้ในชุมชน โดยอาจจะเก็บเมล็ดพันธุ์ในท้องถิ่นเพื่อนำเอาต้นไม้เหล่านี้ไปปลูกในชุมชนหมู่บ้านให้เป็นร่มเงาและสามารถใช้ประโยชน์ได้ และอยากแนะนำให้ปลูกต้นไม้ที่เป็นอาหารสัตว์ การดำเนินการของ คสช.นับว่าคืบหน้าไปพอสมควรเช่นการหยุดยั้งการบุกรุกการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของนายทุนต้องยึดคืนพื้นที่จากผู้มีอิทธิพลเพื่อนำมาให้คนจนและใช้ปลูกป่า ถ้าเรามีทรัพยากรป่าไม้น้ำก็จะไม่ท่วมสามารถชะลอน้ำได้และสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหน้าแล้ง ที่ผ่านมาคนไม่ค่อยให้ความสนใจ วันนี้เมื่อมีการตัดต้นไม้เมื่อน้ำมาจึงส่งผลให้เกิดน้ำท่วมโดยเราไม่ได้เรียนรู้ว่าจะอยู่กับธรรมชาติอย่างไร ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขว่าจะป้องกันปัญหาอุทกภัยอย่างไรโดยจะต้องดูภาพรวมทั้งหมดทั้งป่า ทางระบายน้ำ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับจากการปฏิบัติราชการถึงกรุงเทพมหานคร ในเวลา 11.45 น.



กำลังโหลดความคิดเห็น