ปปง.เปิดให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการซื้อคอนโดฯ “บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด” กว่า 700 ยูนิต มูลค่า 2.8 พันล้านบาท ทรัพย์สินเครือข่าย “เสี่ยเปี๋ยง” จำเลยคดีทุจริตจีทูจีข้าว ที่ถูกยึด/อายัดทรัพย์ ยื่นคำร้องภายใน 30 วัน เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน เผยส่วนใหญ่ทำสัญญาจองห้องชุด ชำระเงินมัดจำ จ่ายค่างวดแล้ว จากราคาคอนโดฯ มูลค่าระหว่าง 3-15 ล้านบาท
วันนี้ (2 ส.ค.) มีรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ออกประกาศโดยพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. เรื่องให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน มีใจความว่า ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมในคราวการประชุมครั้งที่ 6/2560 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 และครั้งที่ 13/2560 เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2560 มีมติให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ตามระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2559 เพื่อพิจารณาดำเนินการตามมาตรา 49 วรรคสาม ประกอบมาตรา 49 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ให้สอดคล้องกับคำสั่งศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.220/2559
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 แห่งระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิ ของผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2559 จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้ทำสัญญาจองห้องชุดกับบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และได้ชำระเงินมัดจำ กับเงินค่างวดแก่บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงาน ปปง. ภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ ตามแบบคำร้องเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.amlo.go.th
มีรายงานว่า สำหรับบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท สิราลัย จำกัด) มีความสัมพันธ์กับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อค้าข้าวผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และจำเลยในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ ถูกเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ลงนามในคำสั่งอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม จำนวน 706 รายการ รวมมูลค่า 2,810,781,400 บาท
สำหรับทรัพย์สินซึ่งเป็นของบริษัท กีธาฯ ที่ถูกอายัดไว้ มีอยู่ 2 ส่วนหลัก คือ 1. ที่ดิน 2 แปลง ได้แก่ โฉนดที่ดินเลขที่ 3718 ต.บางโคล่ อ.บางคอแหลม จ.กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 ไร่ 88 เศษ 4 ส่วน 10 ตารางวา และโฉนดที่ดินเลขที่ 3720 บริเวณเดียวกันอีกจำนวน 3 งาน 11 เศษ 4 ส่วน 10 ตารางวา รวมมูลค่า 455 ล้านบาท 2. ห้องชุดคอนโดฯ จำนวน 704 รายการ แบ่งเป็น โครงการคอนโดฯ (My Story ลาดพร้าว 71) จำนวน 2 ห้อง ได้แก่ อาคาร C ห้องเลขที่ 392/54 และอาคาร D ห้องเลขที่ 394/106 รวมมูลค่า 5,380,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 702 ห้อง เป็นของโครงการคอนโดฯ THAN Living (รัชดา-ประชาอุทิศ) รวมมูลค่า 2,350,401,400 บาท
มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้น บริษัท กรีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ได้ออกคำชี้แจงต่อลูกค้าในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ผ่านเว็บไซต์ http://www.siralai.com/ ต่อกรณีการถูก ปปง.มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด บริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) ปัจจุบัน บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด มีทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครอง เป็นมูลค่ากว่า 6,962.68 บาท
ทั้งนี้ พบว่าบริษัทฯ มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการ THAN Living รัชดา-ประชาอุทิศ มูลค่า 1,869.42 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 95% ความคืบหน้าการขาย-จอง 488 ยูนิต 2. โครงการ My Story ลาดพร้าว 71 มูลค่า 838.89 ล้านบาท ก่อสร้างเสร็จแล้ว 100% ความคืบหน้าการขาย-จอง-โอน 544 ยูนิต 3. โครงการ THAN Living สาทร-เจริษราษฎร์ มูลค่า 605.07 ล้านบาท ความคืบหน้าการก่อสร้าง 17% ความคืบหน้าการขาย-จอง 384 ยูนิต 4.โครงการ THAN Living พระราม 9-Airport Link มูลค่า 463.48 ล้านบาท ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ความคืบหน้าการขาย-จอง 419 ยูนิต และ 5. โครงการ THAN Living รัชดา-วงศ์สว่าง มูลค่า 398.19 ล้านบาท ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ความคืบหน้าการขาย-จอง 54 ยูนิต
มีรายงานว่า เมื่อปลายปี 2559 ผู้เสียหายกว่า 50 รายจากการซื้อคอนโดมิเนียมโครงการแดน ลิฟวิ่ง (Than Living) ได้เข้าร้องทุกข์ต่อ ปปง. หลังจากบริษัท สิราลัย จำกัด เจ้าของโครงการแดน ลิฟวิ่ง ได้เปิดจองห้องพักหลายโครงการ เช่น สาทร-เจริญราษฎร์, พระราม 9, รัชดา-ประชาอุทิศ ฯลฯ เริ่มเปิดจองเมื่อ พ.ย. 2556 ระบุว่าจะแล้วเสร็จภายใน ก.พ. 2560 แต่ยังไม่ได้ลงมือก่อสร้าง มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3 ล้านบาท จนถึง 15 ล้านบาท
โดยบางรายร้องทุกข์ว่า ได้จองโครงการที่สาทร-เจริญราษฎร์ 1 ห้องพัก และชำระเงินผ่อนดาวน์ เดือนละ 9,300 บาท รวม 33 งวด เป็นเงินกว่า 4 แสนบาท และเมื่อโครงการเสร็จจะต้องกู้เงินธนาคารเพื่อชำระเงินก้อนทั้งหมดให้แก่โครงการในส่วนที่เหลือ แต่เมื่อเดินทางไปดูโครงการดังกล่าวพบว่าขณะนี้สร้างได้เพียง 10 ชั้น จากทั้งหมด 36 ชั้น รวม 500 กว่าห้อง จากการสังเกตก่อสร้างค่อนข้างล่าช้า และเมื่อสอบถามไปยังโครงการได้รับคำตอบบอกจะเลื่อนเปิดไปเป็น ส.ค. 2560 ซึ่งบางคนจ่ายตามกำหนดจนกระทั่งจะครบสัญญาการเปิดโครงการแล้วแต่มาชะงักหยุดสร้างทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก รวมมูลค่าเป็นหลายร้อยล้านบาท
มีรายงานว่า สำหรับทรัพย์สินที่ถูกคณะคณะกรรมการธุรกรรมลงมติให้ยึดและอายัดไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบุคคลผู้ใกล้ชิดนายอภิชาติ มีรวมแล้วจำนวน 1,330 รายการ รวมทรัพย์สิน ที่ถูกอายัดแล้วจำนวน 10,176,141,545.57 บาท
