xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” งัด ม.44 เพิ่ม 5 ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกระทรวง ขึ้นตรง รมต.พร้อม 5 ตำแหน่งระดับกรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หัวหน้า คสช. ใช้ ม.44 เปิด 5 ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจําส่วนราชการระดับกระทรวง เทียบเท่าหัวหน้าส่วนราชการกระทรวง ขึ้นตรงรัฐมนตรี และ 5 ตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิประจํากรม ขึ้นตรงกับปลัดกระทรวง

วันนี้ (1 ส.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 36/2560 เรื่อง การกําหนดตําแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจําส่วนราชการ โดยมีใจความว่า เพื่อให้การปฏิรูปประเทศและการปฏิบัติราชการตามนโยบายของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยนําศักยภาพของข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกําลังใจให้แก่ข้าราชการที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น แต่ยังไม่มีโอกาสก้าวหน้าในตําแหน่งหน้าที่ภายใต้กฎ ระเบียบ หรือคําสั่งที่มีอยู่ จึงจําเป็นต้องแก้ปัญหาข้อจํากัดดังกล่าวเพื่อประโยชน์ข้างต้น

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้มีตําแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจําส่วนราชการ เพื่อใช้เป็นอัตราหมุนเวียนเฉพาะตัว รวม 10 ตําแหน่ง สําหรับการแต่งตั้ง หรือบรรจุและแต่งตั้งบุคคล ตามที่นายกรัฐมนตรีเห็นสมควรให้ย้าย โอน หรือเลื่อนขึ้นเพื่อแต่งตั้ง หรือบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการตามที่นายกรัฐมนตรีกําหนด ดังนี้

(1) ผู้ทรงคุณวุฒิประจําส่วนราชการระดับกระทรวงหรือกรม จํานวน 5 ตําแหน่ง โดยให้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหาร ระดับสูง เทียบเท่าหัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกระทรวง รับเงินประจําตําแหน่ง 21,000 บาท
(2) ผู้ทรงคุณวุฒิประจําส่วนราชการระดับกรม จํานวน 5 ตําแหน่ง โดยให้เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหาร ระดับสูง เทียบเท่าหัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมรับเงินประจําตําแหน่ง 14,500 บาท

เมื่อนายกรัฐมนตรีเห็นเป็นการจําเป็นและสมควรแต่งตั้งข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตํารวจ หรือข้าราชการฝ่ายทหาร ผู้ใดที่อยู่ในอํานาจของฝ่ายบริหาร มาดํารงตําแหน่งดังกล่าวเป็นการเฉพาะตัวเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการปฏิรูปและการบริหารงานเชิงยุทธศาสตร์ ให้ดําเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และนําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

ให้ผู้ทรงคุณวุฒิประจําส่วนราชการตาม (1) อยู่ในการบังคับบัญชาและการมอบหมายงานของรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ส่วนกรณีตาม (2) ให้อยู่ในการบังคับบัญชาและการมอบหมายงานของปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด

ข้อ 2 ข้าราชการที่จะย้าย โอน หรือเลื่อนขึ้น เพื่อแต่งตั้ง หรือบรรจุและแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตามข้อ 1 ต้องไม่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบโดยรัฐ การดําเนินการทางวินัยหรือการดําเนินคดีอาญา

ข้อ 3 ให้สํานักงาน ก.พ. สํานักงบประมาณ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดําเนินการเกี่ยวกับตําแหน่ง อัตราเงินเดือน และสิทธิประโยชน์ของข้าราชการดังกล่าว และให้สํานักงาน ก.พ.กําหนดวิธีปฏิบัติตามคําสั่งนี้

ข้อ 4 ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีเห็นสมควรให้ข้าราชการพ้นจากตําแหน่งตามข้อ 1 หรือให้ไปดํารงตําแหน่งอื่น ให้ดําเนินการตามกฎหมายและระเบียบราชการที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 5 กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคําสั่งนี้ ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสนอประธาน ก.พ. วินิจฉัย คําวินิจฉัยของประธาน ก.พ. ให้ถือเป็นที่สุด

ข้อ 6 ในกรณีที่เห็นสมควร นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้

ข้อ 7 เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้คําสั่งนี้สิ้นสุดลง แต่ไม่กระทบต่อผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งตามคําสั่งนี้อยู่ก่อนแล้ว

ข้อ 8 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 1 สิงหาคม พุทธศักราช 2560 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
กำลังโหลดความคิดเห็น