ผบ.ทบ.ลงพื้นที่สกลฯ พร้อมทุ่มกำลัง-เครื่องมือหากไม่ดีขึ้น เชื่อปชช.ไม่คล้อยตามปมโจมตีรัฐ

“บิ๊กเจี๊ยบ” ลงพื้นที่สกลนคร ประเมินสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมทุ่มกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ หากไม่ดีขึ้นเร่งระบายน้ำออกนอกพื้นที่ เล็งหามาตราการดูแล จ.นครพนม เชื่อประชาชนมีวิจารณญาณ หลังถูกนำเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาล

วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 อาคาร 2 พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมว่า ตนจะลงพื้นที่เพื่อรับทราบสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสกลนคร และจังหวัดนครพนม นอกจากนี้ยังนำความห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปฝากพี่น้องประชาชน รวมทั้งรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการช่วยประชาชนพร้อมเร่งรัดการระบายน้ำออกนอกพื้นที่ให้ได้โดยเร็ว

ผบ.ทบ.กล่าวว่า หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นจะเพิ่มเติมกำลังพลและเครื่องมือลงพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้สภาพโดยรวมปริมาณฝนที่ตกลงไม่มากนัก แต่ที่เหลือคือการเร่งรัดการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากหากเราระบายน้ำออกจากจังหวัดสกลนครก็จะพบในพื้นที่จังหวัดนครพนม จึงต้องไปเตรียมการการรองรับซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5 อำเภอที่ประสบอุทกภัยอยู่แล้ว ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการทุกภาคส่วนไปร่วมดำเนินการในกรอบที่สามารถทำได้ โดยเฉพาะการขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคซึ่งหลายส่วนก็ได้เข้าไปดำเนินการได้แล้ว

พล.อ.เฉลิมชัยยังกล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานภาครัฐแจ้งเตือนประชาชนช้าเกินไปนั้นคิดว่า การแจ้งเตือนมีมาโดยตลอด แต่การแจ้งเตือนเฉพาะจุดทำได้ยากเนื่องจากปัญหาเรื่องอุทกภัยและภัยธรรมชาติที่บางทีป้องกันไม่ได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราจะแก้ไขกันอย่างไร ขณะนี้เราได้เห็นพลังมวลชนในทุกภาคส่วนลงไปช่วยกันผู้บังคับบัญชาในระดับรัฐบาลและผู้ใหญ่ หลายท่านได้ช่วยกันเร่งรัด ในส่วนของกองทัพบกที่รับผิดชอบหลักในเรื่องการดูแลช่วยเหลือประชาชนนั้นพร้อมที่จะนำสรรพกำลังเครื่องมือไปเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังต้องเตรียมการเรื่องการฟื้นฟูภายหลังจากน้ำลด

ส่วนกรณีที่ฝ่ายการเมืองใช้ประเด็นดังกล่าวปลุกกระแสโจมตีรัฐบาลนั้นถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล เชื่อว่าประชาชนรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ขณะนี้ต้องเร่งรัดว่าทำอย่างไรถึงจะช่วยกันแก้ไขปัญหา และช่วยบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนมากกว่าเรื่องอื่น