xs
xsm
sm
md
lg

สปท.ส่งงานให้นายกฯ พรุ่งนี้ 200 เรื่อง “อลงกรณ์” ชี้ต้องปฏิรูปให้คุ้มกับที่สูญประชาธิปไตย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (แฟ้มภาพ)
รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เผย ส่งงานให้นายกฯ พรุ่งนี้รวม 200 เรื่อง ชูทำงานร่วมกับแม่น้ำ 5 สาย พาไทยขีดความสามารถการแข่งขันแซงเกาหลีใต้ ต่างประเทศจัดอันดับดีขึ้น ชี้ต้องปฏิรูปให้คุ้มกับที่สูญเสียประชาธิปไตย พร้อมฝาก 3 เรื่อง ขอสานต่อ สร้างปรองดอง เลิกโกง ดันไทยแลนด์ 4.0

วันนี้ (30 ก.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่หนึ่ง กล่าวว่า สปท. ส่งมอบผลงานการปฏิรูปต่อนายกรัฐมนตรี วันที่ 31 ก.ค. จำนวน 200 เรื่อง ครอบคลุม 37 วาระปฏิรูปใน 11 ด้าน เฉลี่ยเดือนละ 10 เรื่อง ทั้งแผนปฏิรูปข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปและกฎหมายที่จำเป็นต่อการปฏิรูปทำให้ประเทศแข็งแรงขึ้นและดีขึ้นกว่าในอดีตอย่างมีอนาคต ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจที่ดำเนินการมา 1 ปี 9 เดือนอย่างเป็นทางการ

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ในการทำงานร่วมกับแม่น้ำ 5 สาย โดยการนำของนายกรัฐมนตรีและทุกภาคีภาคส่วนทำให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน (National competitiveness) ดีขึ้น 3 ปีต่อเนื่องโดยการวัดผลของสถาบันไอเอ็มดี (IMD) จากอันดับที่ 30 ในปี 2558 ขยับเป็นอันดับที่ 28 ในปี 2559 แซงเกาหลีใต้ที่ตกไปอยู่อันดับที่ 29 และปี 2560 เราขยับเป็นอันดับที่ 27

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ส่วนสำนักบลูมเบิร์กจัดเรตติ้งให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากน้อยที่สุดในโลกติดต่อกัน 3 ปีซ้อน เหนือกว่า สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ สหรัฐฯ จีน ฟินแลนด์ และ ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ 3 ปีติดต่อกัน จากไม่ถึง 1% ในปี 2557 จนใกล้ 4% ในปีนี้ โดยมีทุนสำรองระหว่างประเทศเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์ สูงมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ขณะที่หนี้สาธารณะมี 44% ของจีดีพีเท่านั้น และหนี้ครัวเรือนลดลงครั้งแรกในรอบทศวรรษจากการตรวจสอบ 10 ล้านบัญชีธนาคาร โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะที่การหารายได้เข้าประเทศและการลงทุนใหม่ๆ ดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกครึ่งปีแรกเติบโตมากที่สุดในรอบ 6 ปี และการท่องเที่ยวของไทยสร้างรายได้กว่า 2 ล้านล้าน จากนักท่องเที่ยวกว่า 30 ล้านคน ทำให้ไทยกระโดดเป็นแชมป์ท็อปไฟว์ของโลก ยิ่งกว่านั้น การยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเกือบ 200% และ 51% ของโครงการใหม่เป็นการลงทุนในโมเดลเศรษฐกิจใหม่ และ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (First & new S-curve) สะท้อนว่า การเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศสู่เศรษฐกิจเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ กำลังเกิดขึ้นแล้วเพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ของประเทศของเรา

“เราต้องปฏิรูปประเทศให้เกิดมรรคผลให้คุ้มค่ากับการสูญเสียประชาธิปไตยจากการรัฐประหาร เพื่อแก้ไขปัญหาที่รากเหง้าอันเป็นต้นเหตุแห่งการรัฐประหาร 13 ครั้งที่ผ่านมา และนายกรัฐมนตรีก็ตั้งใจเช่นนี้ เพื่อตัดวงจรอุบาทว์ทางการเมือง และขอให้เป็นการรัฐประหารครั้งสุดท้าย” นายอลงกรณ์ กล่าว

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ในวาระที่ สปท. สิ้นสุดภารกิจจึงขอฝาก 3 เรื่องสำคัญให้ทุกฝ่ายช่วยดำเนินการต่อไป ได้แก่ สานต่อและสนับสนุนการปฏิรูปให้เกิดความต่อเนื่องยั่งยืน เพราะเป็นการปฏิรูปประเทศของเรา เพื่อคนไทยในวันนี้และวันหน้า ช่วยกันสร้างความสามัคคีปรองดอง ยุติความแตกแยกขัดแย้งแบ่งฝ่าย และลดละเลิกการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งเสมือนมะเร็งร้ายที่กัดกินบ้านเมืองอย่างรุนแรงมาโดยตลอด ทำให้ประเทศอ่อนแอ เมื่อกำจัดจุดอ่อนนี้แล้ว การสร้างความมั่งคั่งมั่นคงอย่างยั่งยืนสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการปฏิรูปประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศก็จะบรรลุเป้าหมายง่ายขึ้นเร็วขึ้น และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติของเราในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น