xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ลั่นยึดทรัพย์ “ปู” รอศาลตัดสิน ถ้าไม่ผิดก็ยึดไม่ได้ ขู่งัด กม.ฟันพวกพูดเท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (แฟ้มภาพ)
นายกรัฐมนตรี ขออย่าละเมิดศาล ปลุกระดมต้องระวัง พูดไม่จริงทำป่วนเจอ ม.116 ขู่งัด พ.ร.บ.คอมพ์ ฟันคนเขียนเท็จตามเว็บ ชี้ยึดทรัพย์แค่ขั้นตอนเตรียมข้อมูลเพื่ออนาคต พอศาลตัดสินแล้วค่อยดำเนินการ เผยปรามแล้วอะไรยังไม่ใช่เวลาก็ไม่ต้องพูด ยันถ้าไม่ผิดก็ยึดไม่ได้ จวกคนมองแต่ปลายเหตุ ถ้าไม่มีจิตสำนึกใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด จี้พวกบี้เลือกตั้งทำให้สงบก่อน ย้ำทหารอยู่ภายใต้รัฐบาล

วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพิจารณาคดีสำคัญหลายคดีในช่วงเดือนสิงหาคมว่า ทุกคดีมีความสำคัญ มีตั้งหลายคดีทำไมต้องสำคัญแค่คดีเดียว ซึ่งตนเองยังไม่ได้บอกว่าใครผิดหรือถูกเป็นเรื่องของศาล ขออย่าไปละเมิดศาลก็เท่านั้นเอง การเคลื่อนไหวข้างนอกบางทีมันก็ผิดกฎหมาย การปลุกระดมต้องระวัง ถ้าพูดอะไรที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง ทำให้กระทบต่อความสงบเรียบร้อย กฎหมายมีบัญญัติไว้ตามมาตรา 116 นอกจากนี้ยังมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พวกที่เขียนอยู่ในเว็บต่างๆ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงระวังจะโดนทั้งหมด

“สิ่งที่อยากประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน คือ เรื่องการบังคับ หรือการยึดทรัพย์ต่างๆ นั้น ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันตอนนี้ เพราะเป็นเพียงขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ เขาต้องเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อที่อนาคตหากมีการตัดสินอะไรขึ้นมาก็จะมีการถามกันว่าไม่ได้เตรียมอะไรกันไว้เลยหรือ เจ้าหน้าที่ก็จะโดนอีก วันนี้เขาจึงต้องมีการเตรียมการ มีการตรวจสอบกัน ช่วงที่ผ่านมาบุคคลที่เข้ามาอยู่ในกระบวนการการเมืองก็จะต้องมีการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน ต้องมีการตรวจสอบเมื่อออกจากตำแหน่งแล้วตามขั้นตอน เพียงแต่พอมีข่าวหลุดออกมาในสังคมก็กลายเป็นว่าเขาผิด ความจริงวันนี้เขายังไม่ผิด จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสิน และเมื่อศาลตัดสินแล้วถึงจะมีการดำเนินการต่างๆ ได้ ไม่ใช่ว่าจะไปตั้งใจยึดทรัพย์ก่อน เป็นเพียงขั้นตอนการทำงานของข้าราชการที่เขาต้องทำงานแบบนี้ ผมได้บอกให้กรมบังคับคดีดำเนินการชี้แจงต่างๆ แล้ว ว่าไม่ใช่เรื่องของการไปยึดทรัพย์อะไร กระทรวงการคลังที่เขาพูดออกมาเพราะเขาได้ทำข้อมูลไปแล้ว เขาก็ไม่อยากให้พวกสื่อไปซักเขามาก ผมก็ได้บอกเขาว่าอะไรที่ยังไม่ใช่เวลาก็ยังไม่ต้องพูด มันจะกลายเป็นว่าเราไปรังแกเขา จึงอยากฝากไปถึงพ่อ แม่ พี่ น้องข้างนอกด้วย ให้เข้าในระบบข้าราชการว่าต้องมีการเตรียมการเอาไว้ ทั้งหมดสุดแต่ว่าผลทางคดีจะว่าอย่างไร ถ้าไม่ผิดก็จบ ไปยึดทรัพย์อะไรใครไม่ได้ ก็แค่นั้น แต่ถ้าผิดขึ้นมาก็ต้องดำเนินการต่อให้ได้ ต้องเตรียมความพร้อมไว้เท่านั้นเอง วันนี้ยังไม่ได้ยืนยันว่าใครผิด ใครถูก เพราะเป็นหน้าที่ของศาล ผมไม่ใช่ศาล” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้คนส่วนใหญ่สนใจที่ปลายเหตุ หรือปลายทางในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ปัญหาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะหมดไปได้อย่างไร หากจิตใจ หรือจิตสำนึกยังไม่มี ประเทศก็จะเป็นอยู่แบบนี้ ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด เคลื่อนไหวกันไปมา แล้วก็เรียกร้องว่าต้องการไปเลือกตั้ง ในข้อเท็จจริงพวกคุณจะต้องทำให้สถานการณ์สงบก่อน

“ผมเองก็ยังไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง เป็นเรื่องของพวกคุณทั้งนั้นที่ทำกันมา ในส่วนของการปรองดองที่เขียนไว้ 10 ข้อ ก็มีเขียนชัดเจนว่าทหารมีหน้าที่ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนทหารก็ต้องอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของรัฐบาล ผมก็เคยเป็นข้าราชการในรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ใช่หรือ เว้นแต่มีเรื่องราวเกิดขึ้นสถานการณ์ไม่สงบ มันก็จำเป็นแค่นั้นเอง ถ้ามันไม่เกิดเรื่องเหล่านี้ ไม่มีเรื่องคดีความ ไม่ทำให้บ้านเมืองแตกแยก ไม่ทำให้ประชาชนต้องนำอาวุธมายิงมาฆ่ากันจนทำงานไม่ได้ ผมก็ไม่เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่แล้ว การที่จะนำทหารมาปราบปรามก็ต้องไปดูว่ากลุ่มไหนทำอะไร ไม่ใช่มัวแต่คิดว่าวันนี้ทำไมไม่ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ มันคนละอย่างต้องไปดูที่พฤติกรรม ถ้าพฤติกรรมที่ไปยิงใส่สถานที่ราชการ ศาล ทหารจำเป็นต้องทำหรือไม่ แต่ถ้าไปตีกันข้างนอก ห้ามปราบเดี๋ยวก็หยุด อย่ามัวไปเปรียบเทียบว่าวันนี้เขาเดินขบวนกันอย่างนี้ ยืนยันว่าวันนี้ผมไม่ได้เข้าข้างใคร แต่เราต้องมีหลักการที่มั่นคง ถ้าไม่ทำร้ายประชาชน ไม่ทำให้ประชาชนเสียชีวิต ไม่ทำให้สถานที่ราชการเสียหาย ไม่ยิงใส่วัดพระแก้ว คลังน้ำมัน ถามว่าแล้วใครยิง ก็ต้องไปสอบสวนกันมา ความเป็นจริงแล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากทำ เพราะเป็นประชาชนทั้งสองฝ่าย แต่ต้องไปหาวิธีว่าคนที่ลงมือกระทำต้องทำอย่างไร กฎหมายผิดตรงไหนก็ไปว่ากันมา” นายกฯ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น