xs
xsm
sm
md
lg

ปล่อยข่าวดักทาง"บิ๊กป้อม" “ลูกหม้อ” ชักธงรบชิง “เลขาฯสมช.”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


ป้อมพระสุเมรุ

คำประกาศของ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวกับพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับปลัดกระทรวงที่ว่า “ยืนยันว่ายังไม่มีการข้ามห้วยอะไรทั้งสิ้น นโยบายผมไม่ได้ให้มีการข้ามห้วยเป็นหลัก ถ้าจะมีการข้ามห้วย ก็ต้องมีเหตุผลและความจำเป็น ความเหมาะสมอย่างยิ่งยวด”

“นายกฯตู่” บอกด้วยว่า “หลักการของผมคือ ทุกคนจะต้องโตภายในแท่งของหน่วยงานตัวเองไปก่อน เว้นแต่มีปัญหาก็ค่อยแก้ไขกัน ต้องยึดหลักการตรงนี้ ถ้ามัวแต่ไปคิดว่าจะสามารถข้ามห้วยได้ อีกหน่อยก็ไม่มีคนอยากทำงาน คิดแต่จะข้ามห้วยกันไปหมด คนในห้วยก็ไม่ต้องไปไหนกัน จมน้ำตายกันอยู่ตรงนั้นหรือ ต้องนึกถึงตรงนี้บ้าง”

หลักใหญ่ใจความก็คือ “ไม่มีข้ามห้วย-โตตามแท่ง” ซึ่งในมุมของ “บิ๊กข้าราชการ” ก็มีทั้งคนชอบ และคนที่ไม่ชอบใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง แทนคนเกษียณในช่วงเดือนก.ย.นี้ คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อมีเก้าอี้ปลัดกระทรวง รวมทั้งเก้าอี้ระดับ ซี 11 ว่างลงถึง 14 ตำแหน่ง

ทำเอาเหล่า “นักวิ่ง” กระชุ่มกระชวย จนมีข่าวว่าเบียดบี้กันฝุ่นตลบ

แต่เมื่อ“นายกฯตู่” ลั่นวาจา “ไม่มีข้ามห้วย - โตตามแท่ง” ก็กระทบชิ่งถึงหลายๆ คน ที่ถึงทางตันในแท่งของตัวเอง กะว่าจะได้ไปลืมตาอ้าปากที่ห้วยอื่น 

โดยเฉพาะที่ กระทรวงมหาดไทย ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวสะพัดว่า “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ในกระแสข่าวคู่ขนานว่า “บิ๊กมหาดไทย” ที่มีอาวุโสใกล้เคียงกันกับ “ฉัตรชัย” อย่าง จรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และ อภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) จะได้รับการโปรโมต เป็น “ปลัดกระทรวง” เช่นเดียวกัน แต่ต้อง “ข้ามห้วย” ไปเป็นโตที่บ้านอื่น

รายแรก จรินทร์ จักกะพาก จะได้ไปเป็นปลัดกระทรวงแรงงาน และรายหลัง ตามข่าวว่าจะได้เก้าอี้ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถึงขนาดระบุว่า มีการสอบสัมภาษณ์กันบนตึกไทยคู่ฟ้าไปแล้วด้วย ว่ากันไปนู่น แต่เกมมาพลิกเมื่อ “บิ๊กตู่” ประกาศชัด “ไม่มีข้ามห้วย” ทำให้บางคนต้องฝันสลาย

ไม่เพียงแต่ “2 สิงห์ดำ” จะอกหักเท่านั้น ยังกระทบชิ่งแคนนอนไปถึงตำแหน่งหัวของหน่วยงานอื่นๆ ด้วย เข้าทำนอง “หมูเขาจะหาม ดันเอาคานมาสอด”

ที่จับตากันเป็นพิเศษก็เก้าอี้ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เก้าอี้ใหญ่ระดับซี 11 ที่ปีนี้ “บิ๊กแอ๊ว” พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาฯสมช. คนปัจจุบันหมดรอบ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งข้าราชการบำนาญ ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป
 
เก้าอี้ เลขาฯสมช. ถือเป็นหัวใจหลักงานด้านการข่าว-ความมั่นคง มาทุกยุคทุกสมัย แต่หลังๆ มากลับถูก “ฝ่ายการเมือง” ลดเกรด กลายเป็นแหล่งพักใจของ “เหล่าผู้อกหัก” ที่มาจากหน่วยงานอื่น จน“ลูกหม้อ-คนใน” แทบไม่ได้ผุดได้เกิด

ช่วงที่ ถวิล เปลี่ยนศรี ถูก “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ดีดออกจากตำแหน่งเลขาฯ สมช.นั้น ก็มีคิวแทรกจากคนนอก ทั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ต่อด้วย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ก่อนกรรมตามสนอง เป็นเหตุให้ “หนูปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนดีดร่วงจากตำแหน่งนายกฯในภายหลัง แล้วต้องคืนตำแหน่งให้ “เลขาฯถวิล” ที่สามารถส่งไม้ต่อให้ อนุสิษฐ์ คุณากร ขึ้นกุมบังเหียนสมช. ในขวบปีแรก ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจ

แต่การขึ้นตำแหน่งของ นายอนสิษฐ์ในวันนั้น ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด โดยมีชื่อของ พล.อ.สุวัช บุตรวงษ์ ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ประสานงานประเทศเพื่อนบ้านกองทัพบก มาเป็นคู่เทียบ จากแรงผลักดันของ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในตอนนั้น

กลายเป็นสัญญาณเตือนว่า “รัฐบาล คสช.” ที่กู่ก้องคืนความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการหนักหนา ก็คิดไม่ซื่อกับสมช. ถัดมาปีเดียว “เลขาฯอนุสิษฐ์” เกษียณอายุราชการ ก็หมายมั่นจะส่งไม้ต่อให้คนในอย่าง กนกทิพย์ รชตะนันทน์ รองเลขาธิการสมช. อาวุโสลำดับที่ 1 แต่ก็เจอเสียบโดย “บิ๊กแอ๊ว- พล.อ.ทวีป” นี่แหละ ที่ถูกส่งข้ามห้วยมาจาก ผู้บัญชาการทหารพัฒนา เพื่อแก้ปัญหาเก้าอี้ไม่พอให้เหล่าบิ๊กทหาร ทะยานมานั่งเก้าอี้เลขาฯสมช. หน้าตาเฉย

ผลพวงการชำเรา สมช.ครั้งนั้น ก็ส่งผลให้ “กนกทิพย์” ยื่นใบลาออกจากราชการ จนต้องดึงเรื่องกันไว้วุ่นวายไปหมด จนพล.อ.ประยุทธ์ ต้องเยียวยาโดยการใช้อำนาจ มาตรา 44 ให้ “กนกทิพย์” พ้นจากตําแหน่งรองเลขาฯสมช. แล้วเปิดตำแหน่งใหม่ อย่าง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคง ประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาโดยเฉพาะ

ความคุกรุ่นภายใน สมช. ถึงได้เบาบางลงตลอดช่วง 2 ปีที่มี พล.อ.ทวีป เป็นเบอร์ 1 ซึ่ง พล.อ.ทวีปเองก็ค่อนข้างให้เกียรติคนใน ไม่ได้ไปก้าวก่ายแต่อย่างใด ภารกิจส่วนใหญ่ก็ปล่อยให้รองเลขาฯสมช.ทั้ง 3 คน ที่เป็นคนในจัดการไป ส่วนตัวเองเหมือนเป็นผู้มาขอพักอาศัย มีตำแหน่งต่อท้ายเท่านั้น

แล้วก็ถึงคราวที่ พล.อ.ทวีป จะเกษียณอายุราชการ ก็เริ่มมีการชิงไหวชิงพริบกันอีกครั้ง โดยที่ ปกรณ์ ศรีจันทร์งาม - วีระ อุไรรัตน์ 2 รองเลขาฯสมช. ต้องเกษียณอายุราชการไปพร้อมกับ พล.อ.ทวีป จึงเหลือเพียง สมเกียรติ ศรีประเสริฐ รองเลขาธิการ สมช. เป็นคนใน ที่สามารถขึ้นเบอร์ 1 สมช.ได้เพียงคนเดียว
 
เป็น "สมเกียรติ" มีฐานะเป็นน้องรัก-เด็กปั้นของ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่มีสถานะเป็นกุนซือข้างกาย "บิ๊กป้อม" ด้วย

แต่ก็มีกระแสข่าวอีกว่า "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ กำกับดูแล สมช. เตรียมดันคนใกล้ชิด อย่าง พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผอ.นโยบายและแผน กระทรวงกลาโหม มาแลนด์ดิ้งที่ สมช.อีก เพื่อหลีกทางให้น้องเลิฟลุงป้อมอย่าง พล.อ.ณัฐ อินเจริญ หัวหน้าคณะนายทหาร ฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม ขึ้นเป็น รองปลัดกระทรวงกลาโหม

แต่ดูท่างานนี้ “คนใน-ลูกหม้อ สมช.” จะไม่ยอมแฮะ เมื่อจู่ๆมี "ข่าวตั้งใจหลุด" ว่า พล.อ.ทวีป ชงชื่อ "สมเกียรติ” ให้ "บิ๊กป้อม" พิจารณาเป็นเลขาฯสมช. ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองอิดออดว่า อาจจะแต่งตั้งรายชื่อที่เลขาฯสมช.คนเก่าเสนอหรือไม่ ก็ได้

ถึงนาทีนี้ยังไม่รู้ว่า ที่สุดแล้ว พล.อ.ประวิตร จะใช้ลูกดื้อ ดันเด็กในคาถาข้ามฟากจากกองทัพมาเหมือนที่เคยดัน พล.อ.ทวีป หรือไม่ แต่อย่างน้อยๆข่าวที่ปรากฏชื่อ “สมเกียรติ” ออกมาก่อนนั้น ก็เป็นการกดดัน พล.อ.ประวิตร กลายๆ เพราะในเมื่อมีชื่อ "ลูกหม้อ สมช." แล้ว ถ้ายังดื้อไปเอา "คนจากกลาโหม" มาเสียบ เพื่อแก้ปัญหาเก้าอี้นายพลทหารไม่พออีก มันก็ไม่ค่อยสวย 

หมากนี้ถือว่าลึกล้ำพอตัว เป็นเดิมพันที่ “คนใน-ลูกหม้อ สมช.” ต้องเกหมดหน้าตัก เพื่อรักษาที่มั่นไม่ให้เป็นแค่ “สมาคมคนอกหัก” อย่างที่บรรดาผู้มีอำนาจคิดกันอยู่ .
กำลังโหลดความคิดเห็น