“บิ๊กสร้าง” รับหนังสือโรดแมปปฏิรูปตำรวจ ย้ำประชุม กก.ปฏิรูปนัดแรก 12 ก.ค.วางกรอบทำงาน ปัดหนักใจ ชี้ศึกษาได้ไม่ยาก เมินตั้ง ปชช.นั่งอนุ กก. ให้แสดงความเห็นผ่านสื่อแทน จ่อเปิดเว็บไซต์รับฟังทุกความเห็น มั่นใจแบ่งกรอบเวลาตาม “บิ๊กตู่” กำหนด ชี้ คกก.ไม่ใช่ผู้แก้วิ่งเต้น แต่หาวิธีการบริหารบุคคลให้ดี
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่มูลนิธิคลังสมอง วปอ.เพื่อสังคม ถ.วิภาวดีรังสิต นางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ เป็นตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ เดินทางมามอบหนังสือ “โรดแมปปฏิรูปตำรวจ” จำนวน 36 เล่มให้แก่ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิรูปตำรวจ และระบบงานสอบสวน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนตามเสียงเรียกร้องต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เป็นผู้รับหนังสือ
ทั้งนี้ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า การประชุมนัดแรกในวันที่ 12 ก.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ จะเป็นการประชุมเพื่อแนะนำตัวคณะกรรมการฯทั้งหมด รวมถึงพูดถึงกรอบการทำงานและรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการแต่ละคนเพื่อเป็นข้อเสนอแนะ คาดว่าความคิดเห็นคงไม่แตกต่างกันมากนัก อีกทั้งจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ 4 ด้าน โดยให้คณะกรรมการฯที่มีความชำนาญแต่ละด้านไปเป็นประธานคณะอนุกรรมการ ส่วนที่มีการผลักดันให้ภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการด้วยนั้น ตนคิดว่าอย่างน้อยก็จะเป็นการช่วยกันแสดงความคิดเห็น ซึ่งประชาชนจะมาเป็นคณะอนุกรรมการร่วมด้วยหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่จำเป็น เพราะสามารถแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อและโซเชียลมีเดียได้ แต่บางคณะอนุกรรมการอาจจะมีการเชิญประชาชนมาร่วมด้วยในบางส่วน แต่ทุกภาคส่วนสามารถเสนอความคิดเห็นเข้ามาได้ตลอดเวลา
พล.อ.บุญสร้างกล่าวต่อว่า ที่สำคัญเรื่องกรอบเวลาในการทำงานจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 9 เดือน โดยผลสรุปจะต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย ทั้งนี้กรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 9 เดือนได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้วถือเป็นโจทย์เรื่องเวลาในการทำงานของคณะกรรมการฯ จึงไม่ได้คำนึงว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นหรือนานจนเกินไป สำหรับสูตรการทำงานแบ่งช่วงเวลาออกเป็น 2-3-4 เดือนนั้นคงไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนและจะยึดการทำงานตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดลงมา ซึ่งฟังแล้วมีเหตุผล รวมทั้งจังหวะเวลากำลังดี ส่วนกรณีที่มีข้อเสนอแนะให้แยกระบบงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้นเป็นข้อเสนอที่มาจากการเห็นปัญหา แต่จะให้ไปสังกัดกระทรวงใดนั้นต้องรอรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาการซื้อขายตำแหน่งของตำรวจนั้น พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการแก้ไขเป็นอันดับแรก ตนคิดว่าคณะกรรมการฯ คงไม่ใช่ผู้แก้ไขปัญหา แต่คณะกรรมการฯ จะหาวิธีการในการบริหารงานบุคคลให้ดี ถ้าทำได้จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม การประชุมของคณะกรรมการฯ จะแบ่งเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้งในช่วงแรกจนกว่าจะมั่นใจว่าเพียงพอที่จะประชุมสัปดาห์ละครั้งเป็นหลักต่อไปโดยมีการประชุมเพิ่มเติมเมื่อจำเป็น ซึ่งในสัปดาห์นี้จะประชุมวันที่ 12 ก.ค. และวันที่ 14 ก.ค.นี้
“คณะกรรมการฯ จะรับฟังทุกความคิดเห็น รวมทั้งดำเนินการศึกษาด้วยตนเองด้วย โดยเลขานุการคณะกรรมการฯจะสรุปผลการศึกษาที่เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจทั้งหมดให้แก่ที่ประชุมได้รับทราบ ซึ่งที่ผ่านมาแนวความคิดเห็นการปฏิรูปส่วนใหญ่จะมีความคิดเห็นตรงกัน อาจจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นโดยเฉพาะและอาจจะเปิดเว็บไซต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาร่วมแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวผมไม่หนักใจในการทำงานครั้งนี้ แม้จะไม่ใช่ผู้ที่ทราบเรื่องนี้ดีตั้งแต่ต้น แต่เราก็สามารถศึกษาได้ และไม่ใช่เรื่องยากที่จะศึกษา เราสบายใจที่มีคณะกรรมการฯหลายคนมาช่วยกัน เป็นคนที่มีคุณภาพ สนใจเรื่องการปฏิรูปตำรวจและพร้อมให้ข้อคิดเห็น ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นทหารมาปฏิรูปตำรวจนั้น คณะกรรมการฯ มีหลายคนทั้งตำรวจ ทหาร และพลเรือน” พล.อ.บุญสร้างกล่าว