ขีดเส้น 11 ก.ค. ให้ “รองฯวิษณุ” ชงรายชื่อ “แคนดิเดต 4 ปลัดกระทรวง” เสนอ นายกฯ เปิดสเปกต้องผ่านการประเมิน - เข้าใจ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี / แผนพัฒนาฯ ฉบับ 12 / แนวทางการปฏิรูปประเทศตาม รธน./ นโยบายของรัฐบาล ย้ำโยกย้ายใครนั่งปลัดกระทรวงต้องรอบคอบ / เหมาะสม ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการระดับผู้บริหารอื่นๆ ให้แนวทาง “3 อาวุโส” ทั้ง อาวุโสมาก - อาวุโสปฏิบัติงานได้ผลดี - ผู้อาวุโสน้อย แต่มีความคิดสร้างสรรค์ผลงานประจักษ์
วันนี้ (5 ก.ค.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เวียนหนังสือถึงหน่วยงานราชการทั่วประเทศ ถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่อง แนวทางการเสนอแต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูงและการประเมินความเหมาะสมของผู้ได้รับการแต่งตั้ง โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย รวบรวมรายชื่อข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง (เฉพาะตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง) ของทุกหน่วยงานที่จะเสนอแต่งตั้งต่อคณะรัฐมนตรี ให้ครบถ้วนภายในวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 แล้วนำเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาก่อนนำเสนอ ครม. อีกครั้ง
“การแต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง ต้องเป็นไปอย่างเหมาะสมรอบคอบ และถือว่าเป็นการพิจารณาแต่งตั้งในภาพรวมอันจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารราชการแผ่นดินตามนโยบายของรัฐบาล ข่าวที่ว่าจะมีการเสนอ ข้าราชการกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ เข้ามานั่งปลัดกระทรวงฯ จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมก่อน”
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการระดับต่างๆ เพื่อทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2560 ได้มีการกำหนดแนวทางพิจารณาเช่นกัน ทั้งการแต่งตั้ง โยกย้าย ปรับเลื่อนระดับข้าราชการทุกๆ หน่วยงาน โดย ครม. ขอให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจพิจารณาผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม โดยคำนึงถึง 1. ความมีวิสัยทัศน์ในการปฏิบัติงาน 2. ความสามารถในการเชื่อมโยงภารกิจหน้าที่ของหน่วยงานกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ตลอดจนแนวทางการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และนโยบายของรัฐบาลทั้งหมดนี้ จะถือเป็นคุณสมบัติเพื่อเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินข้าราชการ เพื่อให้สรรหาผู้ที่มีความเหมาะสมกับผู้ที่จะได้ดำรงตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแน่งระดับผู้บริหารของหน่วยงาน
“ขณะเดียวกัน เพื่อให้ข้าราชการในภาพรวมของแต่ละหน่วยงานได้มีโอกาสเจริญเติบโตในตำแหน่งหน้าที่ของตนเองได้ตามสมควร ให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นตามหลักอาวุโสด้วย”
มีรายงานว่า สำหรับแนวทางการจัดแบ่งตามอาวุโสนั้น ให้พิจารณาจัดแบ่งข้าราชการทั้งหมดออกเป็น 3 กลุ่ม และกำหนดสัดส่วนของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งของแต่ละกลุ่มให้ชัดเจนเหมาะสม ประกอบด้วย 1. กลุ่มผู้อาวุโสมาก 2. กลุ่มผู้อาวุโส ที่สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ความรับผิดชอบได้ผลดี และ 3. กลุ่มผู้อาวุโสน้อย แต่มีความรู้ความสามารถความคิดสร้างสรรค์ในการปฏิบัติงานได้อย่างสัมฤทธิ์ผลโดดเด่นเป็นประจักษ์
ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2560 นี้ จะมีข้าราชการระดับปลัดฯ จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ ถึง 4 คน ประกอบด้วย หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)
มีรายงานด้วยว่า แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 5/2559 เรื่อง มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ที่ให้มีการประเมินส่วนราชการ และข้าราชการพลเรือนในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารโดยยึดหลักการประเมิน ประกอบด้วย
(1) ประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานประจำหรืองานตามหน้าที่ปกติ ได้แก่ งานตามกฎหมาย กฎ มติคณะรัฐมนตรี นโยบายของรัฐบาล
(2) ประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ นโยบาย หรือภารกิจที่มอบหมายเป็นพิเศษแก่บางหน่วยงานหรือข้าราชการบางตำแหน่งหน้าที่ เช่น ภารกิจในการปฏิรูป การสร้างความปรองดอง การแก้ปัญหาสำคัญเฉพาะเรื่อง
(3) ประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามพื้นที่ หรือการบูรณาการการปฏิบัติงานหลายพื้นที่ หรือหลายหน่วยงานเพื่อผลสัมฤทธิ์ร่วมกัน เช่น งานที่ต้องประสานและร่วมมือระหว่างจังหวัด ระหว่างกรม หรือกระทรวง และงานตามนโยบายประชารัฐ ซึ่งภาครัฐพึงทำงานร่วมกับท้องถิ่น ภาคประชาชนหรือองค์กรสาธารณประโยชน์