ประธาน สนช.ยกคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญป้อง สนช.ปมถือหุ้น ย้ำ สนช.แก้ไข พ.ร.ก.ต่างด้าวไม่ได้ ให้ความเห็นชอบแค่ยกสถานะทางกฎหมายให้สมบูรณ์ ชี้ ม.44 ยังตามไปยกเว้น 4 มาตรา ชี้รัฐจะแก้หมดต้องเปลี่ยนเป็น พ.ร.บ.
วันนี้ (5 ก.ค.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงตรวจสอบการถือครองหุ้นของ 90 สนช.ว่า การถือหุ้นหรือสัมปทาน มีหลักกฎหมายจากคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญว่าความผิดนี้เป็นกรณีที่บุคคลนั้นมีหุ้นอยู่เดิมหรือก่อนรับตำแหน่ง หรือขายไปก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ จะไม่ถือว่าเป็นความผิดตามคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าระหว่างมีตำแหน่งบุคคลนั้นไปได้หุ้นหรือซื้อหุ้นมาก็จะเป็นความผิด ดังนั้น กกต.จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนโดยเร็ว
เมื่อถามว่า การพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ในวันที่ 6 ก.ค.จะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาของ พ.ร.ก.ได้ สนช.มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบเท่านั้น ถ้าจะแก้ไขรัฐบาลต้องแก้ไขเองซึ่งทำได้โดยเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไข แต่ขณะนี้รัฐบาลเลือกใช้วิธีการตาม ม.44 แก้ไขปัญหาในบางมาตรา ดังนั้น สนช.จึงมีหน้าที่ให้ความเห็นชอบ พ.ร.ก.เพื่อให้มีสถานะทางกฎหมายสมบูรณ์ขึ้น และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดย ม.44 ก็จะตามไปยกเว้น 4 มาตราใน พ.ร.ก.ที่ให้ชะลอการบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค. 2561 ทั้งนี้ หากรัฐบาลต้องการปรับเปลี่ยนเนื้อหาใน พ.ร.ก.ทั้งฉบับ รัฐบาลจะต้องเสนอเป็น พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.ก.เพื่อให้ได้ พ.ร.บ.ฉบับใหม่