นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับมอบข้าวสารพระราชทานจาก “สมเด็จพระเทพฯ” รวม 30 ตัน ใช้ในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลรัชกาลที่ ๙ พบเป็นข้าวจากศูนย์ข้าวชุมชนทั่วประเทศ
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีรับมอบข้าวสารพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานข้าวสาร จำนวน 30 ตัน เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ซึ่งข้าวสารดังกล่าวเป็นข้าวจากศูนย์ข้าวชุมชนทั่วประเทศ ที่กรมการข้าวได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” ประจำปี 2560 ณ กรมการข้าว เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2560 ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานข้าวสารจำนวนดังกล่าวให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล โดยมี นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายจิระชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายธนิตย์ อเนกวิทย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว นายสุวัฒน์ เรียระมั่นคง รองอธิบดีการข้าว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี
โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงห้องสีงาช้าง ได้เข้าประจำที่ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และรับข้าวสารพระราชทานจากพานหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ส่งมอบข้าวพระราชทานให้ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายรับรองและบริการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ด้าน นางพัชราภรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาจัดสรรข้าวพระราชทานดังกล่าว และข้าวสารที่ประชาชนนำมามอบผ่านสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ ประมาณ 140 ตัน รวมทั้งสิ้นประมาณ 170 ตัน ไปใช้ในงานพระราชพิธีพระบรมศพ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อนำไปปรุงอาหารจัดสรรให้ตามเต็นท์อาหารพระราชทาน กองมหาดเล็ก กองชาวที่ กลุ่มจิตอาสา และซุ้มวางดอกไม้จันทน์ทุกจุด ทั้งในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล และทุกจังหวัด สำหรับประชาชนที่มาถวายสักการะและร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รวมถึงจัดเลี้ยงเจ้าหน้าที่ริ้วขบวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับการพิจารณาจัดสรรข้าวสารพระราชทาน จำนวน 30 ตัน (3,000 กิโลกรัม) รวมถึงข้าวสารที่ประชาชนนำมาบริจาคผ่านสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีดังนี้
1. ช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้มีการวางแผนจัดสรรข้าวสารพระราชทานและข้าวสารที่ประชาชนนำมาบริจาคเพื่อบริการประชาชน ดังนี้ (1) ซุ้มวางดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่ จำนวน 16 ซุ้มๆ ละ 1,200 กิโลกรัม (2) ซุ้มวางดอกไม้จันทน์ขนาดกลาง จำนวน 28 ซุ้มๆ ละ 1,000 กิโลกรัม และ (3) วัดต่างๆ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 64 วัดๆ ละ 300 กิโลกรัม
2. เต็นท์อาหารพระราชทาน กองมหาดเล็ก กองชาวที่ เพื่อจัดเลี้ยงประชาชนในช่วงถวายสักการะและพระราชพิธีถวายพระเพลิง รวมถึงจัดเลี้ยงเจ้าหน้าที่ริ้วขบวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10,000 กิโลกรัม
3. ช่วงถวายสักการะ ตลอดระยะเวลา 3 เดือน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 เพื่อมอบให้จิตอาสาที่จัดเลี้ยง จำนวน 3,600 กิโลกรัม
4. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะประสานกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งมอบข้าวสารให้แก่ทุกจังหวัด รวม 76 จังหวัดๆ ละ 1,000 กิโลกรัม เพื่อนำไปจัดเลี้ยงประชาชนในวันถวายพระเพลิง
