ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “รถไฟฟ้าไทย - จีน” ยอมเสียเปรียบทุกประตู ของฝากจากแดนมังกร “บิ๊กบราเธอร์” เทียวไล้เทียวขื่อแผ่นดินใหญ่เป็นว่าเล่น แถมหนีบดีลพิสดารกลับมาตลอด
ยังคงคาใจไทยทั้งชาติ .. ที่จู่ๆ “รัฐบาล คสช.” ทุบโต๊ะเปรี้ยงใช้ ม.44 เคลียร์คัต เร่งเครื่อง “โครงการรถไฟไทย - จีน” ที่ก่อนหน้านี้เคยโฆษณาว่า “พี่จีน” สวมบทผู้ใหญ่ใจดี จะมาร่วมลงขันลงทุนด้วย แต่ “ไม้ไผ่จีน” เหลาไปเหลามา กลายเป็น “บ้องกัญชา” ไปซะงั้น .. เมื่อที่สุดแล้วกลายเป็น “รัฐบาลไทย” เอาเงินภาษีของประชาชนไปลงทุนโครงการนี้เป็นแสนๆ ล้าน แถมยกให้จีนสร้าง ภายใต้สิทธิพิเศษล้นพ้น แบบไม่ต้องเปิดประมูล ไม่ต้องทำตามกฎหมายอีกหลายฉบับ .. โยนทิ้งหลักธรรมาภิบาลที่ “รัฐบาลคนดี” อวดโอ่ไว้อย่างไม่ไยดี กับโครงการที่เซ็นข้อตกลงจะทำก่อน แล้วค่อยมาศึกษาทีหลัง กลับหัวกลับหางได้ประหลาดดีแท้ .. ก็เลยต้องวกกลับมาตั้งคำถามกับรัฐบาล - คนรอบข้าง “นายกฯลุงตู่” รวมทั้ง “ผู้มีอำนาจมากบารมี” ใน คสช. ที่ต้องมนต์สะกด “แก๊งล็อบบี้ยิสต์สายจีน” ที่กระดี๊กระด๊าอยู่หลังฉาก ว่า งานนี้ฟาด “เงินทอน” กระเป๋าตุงกันล่วงหน้ากันไปแล้วหรืออย่างไร?? .. ก็ช่วงนี้อะไรๆ ทั้ง “ยุทโธปกรณ์ - รถไฟ” ก็ต้องพะยี่ห้อตีตราจีนไปหมด
น่าสนใจว่าดีลนี้ขนาด “ขุนพลเศรษฐกิจ” ยังไม่ค่อยจะปลื้ม ก็เคยวางตัว เมคบาลานซ์ ทุนจีน - ทุนญี่ปุ่น ไว้ดิบดี แต่ก็สุดจะต้านทานดีมานด์ - ความต้องการสูงของ “บิ๊กบราเธอร์” ผู้มีอำนาจเหนือ คสช. ที่ขนาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่อาจปฏิเสธได้ มีแต่ต้อง “ประทับตรายาง” ให้ตามคำขอของ “บิ๊กบราเธอร์” ที่คงไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่เทียวไล้เทียวขื่อแผ่นดินมังกรเป็นว่าเล่น ราวกับเป็นต้นสังกัดใหญ่ ที่ต้องโร่ไปรายงานตัวบ่อยๆ .. ไปทีไรก็กลับมากับดีลพิลึกพิลั่น อย่างเรือดำน้ำจากจีน มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ก็งุบงิบเอาเข้า ครม. จนมีไฟเขียวนานสองนาน กว่าจะออกมาแถลงเป็นเรื่องเป็นราว เพราะถูกจับได้ด้วยซ้ำ .. ที่สำคัญต่อรองอะไรไม่ได้สักแดงเดียวด้วยซ้ำ ไม่ได้สนใจ “บาร์เตอร์เทรด - จีทูจี” ที่จะเอาของเราที่ล้นสต๊อกรัฐ ทั้ง “ข้าว - ยาง” ไปแลก งวดนี้ขนรถไฟกลับมาเป็นแสนล้าน ขนาด “เหล็กเส้น - เหล็กข้อ” ก็ยังต้องตีตราของจีน แบบนี้มันจะยุ่งกันทั้งประเทศ นะท่านนะ
** งามไส้!! คนระดับ “ไก่อู” โฆษกรัฐแถลงข่าวพลาด ก้มหน้ารับผิด “เอ็นจีโอ” โวยแค่นี้ไม่พอ ตะเพิดลาออก พ่วง “หมอปิยะสกล” รมว.สาธารณสุข ด้วย
ประเด็นร้อนที่ดูท่าจะไม่จบง่ายๆ .. กับการเปิดเวทีสาธารณะเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติม ร่าง พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ.... หรือ “กฎหมายบัตรทอง - 30 บาทรักษาทุกโรค” ที่มีการล้มกระดานไปหลายเวทีแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวที่เข้าทาง “ฝ่ายเสี้ยม” ที่ขยายความเรื่องการลดสิทธิ์ของประชาชนที่จะได้รับจากโครงการ .. ไม่เท่านั้น “นายพลไก่อู” พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ยัง “สุมไฟ - ใส่ฟืน” ให้เรื่องเลยเถิดไปไกลอีกว่า การแก้ไขกฎหมาย เป็นไปเพื่อปิดช่องเงินเหลือให้ “เอ็นจีโอ” ก่อนจะมา “พลิกลิ้น” ภายหลังว่า ตัวเองแถลงข่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง หลังมีสายด่วนจาก นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข โทรมาตำหนิ .. ทำให้ “นายพลไก่อู” ต้องขออภัยออกอากาศ ที่จับประเด็นพลาด แต่ก็ขออภัยไปที่ รมว.สาธารณสุข คนเดียวที่ได้รับผลกระทบ .. ทีนี้เรื่องมันก็ยิ่งไม่จบ เมื่อ กรรณิการ์ กิจติเวชกุล กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สัดส่วนภาคประชาชน หรือ “เอ็นจีโอ” ที่จ้องขวางการแก้กฎหมายอยู่แล้ว ออกมาซัดว่า คนระดับโฆษกรัฐบาล ไม่น่าจะรายงานผิดพลาด พร้อมจี้ให้ทั้ง “รมว.สาธารณสุข - โฆษกรัฐบาล” ต้องออกมาขอโทษประชาชนอย่างเป็นทางการ ฐาน “โกหก” ทำให้ภาคประชาชนเสียหาย หนักเข้าก็เรียกร้องให้ก้มหัวขอโทษแล้วลาออกจากตำแหน่งไปเลย
** ให้ท้ายกันเข้าไป “แม่ทัพภาค 2” อุ้ม “เสธ.พีท” บุกค้นบ้าน “กลุ่มดาวดิน” เคลียร์ทาง “ลุงตู่” เยือนขอนแก่น ไม่ต้องใช้หมายศาล
ยุคนี้ต้องรู้ว่า ไผเป็นไผ .. จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ - ทหาร 30 - 40 นาย นำโดยนายทหารคนดัง “เสธ.พีท” พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ มณฑลทหารบกที่ 23 บุกไปตรวจค้น “บ้านนักกิจกรรมกลุ่มดาวดิน” นักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยไม่มีหมายตรวจค้นจากศาล ในวันที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปเยือน จ.ขอนแก่น เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เหมือนเมื่อครั้งที่ “นักศึกษาดาวดิน” บุกหน้าเวทีโชว์เสื้อต่อต้านรัฐประหาร พร้อมชู 3 นิ้วใส่หน้า “ลุงตู่” เมื่อปี 2557 จนนายกฯต้องแก้เกี้ยวด้วยคำพูดติดตลก “...นึกว่ามาเต้นกระตั้วแทงเสือ” จนมีข่าวว่า “บิ๊กรัฐบาล” ฉุนผู้บัญชาการในพื้นที่มาแล้ว .. โดยทาง พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 การตรวจค้นบ้านเครือข่ายดาวดินไม่จำเป็นต้องใช้หมายศาลตรวจค้นเสียอีก .. กลายเป็นว่าทหารยุคนี้ทำอะไรไม่เคยผิดซะแล้ว .. “เสธ.พีท” ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นอริเบอร์ต้นของกลุ่มดาวดิน โด่งดังมาจากผลงานการจับ “ไผ่ ดาวดิน” เข้าคุก จนป่านนี้ ยังไม่ได้ออกมาสู่โลกภายนอก .. ล่าสุด ก็สร้างเรื่องแห่ขันหมากสู่ขอลูกสาวเศรษฐีขอนแก่น แล้วปิดถนนมิตรภาพเหลือ 1 เลน ทำรถติดนับสิบกิโลเมตร จนถูกประจานผ่านสังคมออนไลน์ ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาแถลงยอมรับผิด .. แต่ครั้งนั้น พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กลับบอกว่า ไม่มีการปิดถนน ทั้งๆ ที่เจ้าตัวสารภาพผิดไปแล้ว
** กู่ก้องให้โลกรู้ ไทยแลนด์ปลอด “ของเถื่อน - ของก๊อบ” วิจารณ์ขรม “เจ้าหน้าที่รัฐ” หลับตาเดินตรวจห้างดัง ไม่ต่างตำรวจไทยไม่รู้ “อาบอบนวด” มีไว้ทำไม
แถ่น..แทน..แท้นน.. ข่าวเด็ดประเด็นฮาประจำสัปดาห์นี้ ขอยกให้กับข่าวที่เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ “ตำรวจ ปอศ.” จูงมือกับ พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.ปทุมวัน ไปตรวจสอบภายใน “ห้างมาบุญครอง” เพื่อดูว่า มีร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่มีพฤติกรรมนำสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์มาวางจำหน่ายหรือไม่ .. ปรากฏว่า จากการตรวจสอบไม่พบผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด .. จนเกิดคำถามดังกระหึ่มโซเชี่ยลฯ ว่า เจ้าหน้าที่ไปเดินกันผิดห้างรึป่าว แล้วก็ยังพากันแปลกใจว่า ที่ห้างดังนั้นมี ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ สิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า หรือชื่อย่อย๊าว..ยาว ศปก.กก.ต.บก.ปอศ. ตั้งอยู่ด้วยหรือเนี่ย ที่ผ่านมาคงเป็นเหมือน “ศาลเพียงตา” ที่ไม่มีเจ้าที่สิงสถิตย์ หรืออาจะมองไม่ออกว่า ของแบรนด์เนม กับพวก “Top Mirror - เกรด AAA” มันต่างกันยังไง
น่าจะเป็นเพราะสัญญาณจากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ ที่สั่งขึงขังให้ “6 ตลาดดัง” ซึ่ง 1 ในนั้นมี “ศูนย์การค้า MBK” หรือ “มาบุญครอง” รวมอยู่ด้วย ต้องปลอด “สินค้าเถื่อน” กระมัง ถึงชวนกันลุกไปเอกเซอร์ไซส์ ให้คนหัวเราะใส่หน้า .. แต่ถ้าจะหลับตาเดินตรวจกันแบบนี้ ก็น่าจะเอาหูไปนา เอาตาไปไร่เหมือนเดิม ไม่ต้องมีข่าวให้คนเขาด่าเถอะพี่ .. ข่าวนี้ขำไม่แพ้เมื่อครั้งที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจค้นบริเวณหลังปั๊มเอสโซ่ ถ.สุขุมวิท ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แหล่งค้ากามชื่อดังนาม “นาเกลือใต้ - นากาตะ” แล้วไม่พบการกระทำผิด .. แต่พอนักข่าวไปลงพื้นที่วันเดียวกัน ก็ยังเจอ “แม่เล้า” ยืนจังก้า โฆษณาเด็กในสังกัดชวนเปิดห้องยันเช้า พิสูจน์ว่ายังมีการลักลอบเปิดขายบริการทางเพศแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายอยู่เลย .. กลายเป็นว่า อะไรๆ ที่คนมั่วไปเห็นว่าโจ๋งครึ้ม เจ้าหน้าที่ไม่เคยเห็นเลย ในอารมณ์เดียวกับที่ประชาชนรู้ว่า “อาบอบนวด” มีไว้ทำอะไร แต่ “ตำรวจไทย” ดันเชื่อป้าย “ห้ามค้าประเวณี” ที่แปะไว้หน้าห้อง เหมือนอยู่คนละโลกกันยังไงไม่รู้.
ช.ชฎา