“สมชัย” เผย กกต.เตรียมออกระเบียบรองรับร่าง พ.ร.ป.กกต.-พรรค เชื่อไร้ปัญหาก่อนส่งไม้ต่อชุดใหม่ เมินข้อเสนอ “อภิสิทธิ์” ให้ช่วยจัดหน่วยเลือกตั้งรับไพรเมอรี่โหวต ชี้เป็นภาระพรรค ยุติเรื่องส่งศาล รธน.ปม จัดเลือกตั้งเสร็จ 150 วันรวมประกาศผลหรือไม่ ปล่อยชุดใหม่ตัดสินใจ เตรียมแต่งนิทาน “มดน้อยเวอร์ชัน กกต.” หลังเปิดคลิปนิทานนายกฯ ย้อนใครควรถูกไล่ออก
วันนี้้ (22 มิ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานการประชุมจัดลำดับความสำคัญของงาน โครงการ หรือกิจกรรมที่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรัดดำเนินการ ซึ่งมีรักษาการเลขาธิการ กกต. และผู้บริหารสำนักงาน กกต.เข้าร่วม โดยนายสมชั กล่าวว่า เป็นการประชุมหารือเพื่อซักซ้อมว่าช่วงเวลาที่เหลือก่อนส่งมอบงานให้กับกกต.ชุดใหม่ จะต้องเตรียมงานสำคัญในแต่ละด้านอย่างไร ซึ่งเป็นรอบแรก ยังไม่จบ โดยจะดูกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่า เมื่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ที่จะกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการเรื่องต่างๆ ไว้นั้น กกต.จะต้องเตรียมการเรื่องไหนบ้าง เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าตามโรดแมปและจัดเลือกตั้งได้ตามกำหนด เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถรอ กกต.ชุดใหม่ได้ แต่ต้องเตรียมการล่วงหน้า เช่น เมื่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองออกมา มีกำหนดเวลาว่าภายใน 180 วันพรรคการเมืองต้องทำอะไรให้เสร็จ หรือภายใน 1 ปีต้องทำอะไรให้เสร็จ กกต.จึงต้องเตรียมในเรื่องของการออกระเบียบต่างๆ เพื่อรองรับให้เกิดความสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า กกต.ยังทำงานเต็มที่ไม่ปล่อยให้เป็นภาระกับ กกต.ชุดใหม่ และจะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับ กกต.ชุดใหม่ ยกเว้นเรื่องเชิงนโยบายที่ต้องอาศัยการตัดสินใจ กกต.ชุดนี้ก็จะให้ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ กกต.เป็นผู้จัดหน่วยเลือกตั้งในระบบไพรมารีโหวตเพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่พรรคการเมืองนั้น ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้เป็นภาระของพรรคการเมืองที่ต้องดำเนินการเอง แต่ถ้าคำตอบที่เป็นทางการต้องถาม กกต. อย่างไรก็ตาม สำหรับการออกระเบียบเพื่อรองรับระบบไพรมารีโหวต กกต.มีเวลา 60 วันหลัง พ.ร.ป.พรรคการเมืองประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยในขั้นตอนดังกล่าวก็จะมีการออกระเบียบที่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมที่จะทำให้เกิดความสำเร็จได้
นายสมชัยยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต.ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ที่กำหนดว่า หลังประกาศใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งแล้วให้ กกต.จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วันนั้น ระยะเวลาดังกล่าวจะรวมถึงการประกาศรับรองผลด้วยหรือไม่ ว่าได้รับหนังสือตอบจากสำนักงานกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา แจ้งว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดที่ 1 ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นประธานได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องนี้ กกต.ท่านหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะไปแล้วว่าจะขอความเห็นจากศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานกฤษฎีกาฯจึงไม่จำเป็นต้องตอบคำถามดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ กรธ.ก็มีหนังสือแจ้งกลับมาเช่นเดียวกันว่ามีหน้าที่เพียงแค่ร่างรัฐธรรมนูญไม่มีหน้าที่ตีความ ขอให้สอบถามศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ขณะนี้จึงถือว่า กกต.ได้รับทราบความเห็นจากทั้งสองหน่วยงานอย่างเป็นทางการแล้ว โดยไม่มีการตอบมาให้ชัดเจนว่า การจัดเลือกตั้งให้แล้วเสร็จใน 150 วันแปลว่าอะไร
อย่างไรก็ตาม กกต.จะยังไม่สอบถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญ โดย กกต.ชุดนี้ขอยุติเรื่อง และให้เป็นเรื่องของ กกต.ชุดใหม่พิจารณาว่า เห็นว่าเป็นปัญหาที่ต้องได้ความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ หาก กกต.ชุดใหม่ไม่สงสัยก็สามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งไปได้เลย แต่ได้มอบหมายให้สำนักงานฯ รายงานความเห็นของ กกต.ชุดนี้ให้กับ กกต.ชุดใหม่ได้รับทราบ และสอบถามในจังหวะเวลาที่พอเพียงที่จะใช้ตัดสินใจกำหนดวันเลือกตั้ง แต่ถ้าถามในจังหวะเวลาที่ไม่เพียงพอแล้วต้องกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งอาจมีผู้ไปร้องเรียนในภายหลังว่าเป็นการเลือกตั้งที่ขัดรัฐธรรมนูญก็จะเป็นปัญหาของ กกต.ชุดใหม่
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่น่าเอาสิ่งที่อยู่ในอากาศมาเป็นเหตุผล แต่น่าจะเอาสิ่งที่เป็นเอกสารที่เป็นทางการมากล่าวอ้างมากกว่า แต่เมื่อตอบมาแล้วก็ไม่เป็นไร ผมไม่มีปัญหาส่วนตัวกับใครเมื่อได้คำตอบจากสองหน่วยงานตอบเป็นอากาศกลับมา ไม่มีรายละเอียด และ กกต.ชุดนี้ไม่อยู่ในฐานะที่จะจัดการเลือกตั้งก็ขอส่งมอบต่อให้ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้ดำเนินการ”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มเข้าสู่การประชุม นายสมชัยได้นำคลิปวิดีโอนิทานเรื่อง “มดน้อย” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เล่านิทานให้รัฐมนตรีฟังในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา มาฉายให้ผู้บริหารสำนักงานได้รับชม โดยภายหลังการรับชมนิทานมดน้อย นายสมชัยได้ให้พนักงานช่วยกันคิดว่าใครสมควรที่จะถูกไล่ออก ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่เห็นว่าสิงโตสมควรโดนไล่ออกเป็นคนแรกเพราะไม่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารงาน โดยนายสมชัยได้พูดทิ้งท้ายว่า หลังจากนี้ตนจะมีการแต่งนิทานเรื่องมดน้อยเวอร์ชันของ กกต.ในตอนต่อไป
