รองโฆษกกองทัพบก แจงปมลูกสาวทหารพลีชีพใต้ ร้องขอบรรจุเข้าราชการ ยันให้สิทธิ์คนโตไปแล้วตั้งแต่ปี 50 ยันหลักเกณฑ์ให้ได้แค่คนเดียว เผย หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ดูแลดีมาตลอด แนะไปสมัครตามกระบวนการ
วันนี้ (21 มิ.ย.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีบุตรสาวของ จ.ส.อ.นรินทร์ เครือโสม สังกัดหน่วยบัญชาการสงครมพิเศษ (นสศ.) ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อปี 2550 (ได้รับพระราชทานยศเป็น พันเอก) ร้องขอให้ ทบ. รับบรรจุเข้ารับราชการว่า การช่วยเหลือครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2550 กองทัพบก ได้ให้การดูแลทั้งเรื่องสิทธิอันพึงมีพึงได้ตามระเบียบของทางราชการ รวมทั้งการช่วยเหลือครอบครัวด้วยความห่วงใยและเอื้ออาทรมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมากองทัพบกจะบรรจุทายาททดแทนกำลังพลที่เสียชีวิตโดยทันทีครอบครัวละ 1 คน
สำหรับกรณีของ พันเอก นรินทร์ เครือโสม ซึ่งมีบุตรสาว 2 คน กองทัพบกได้ดำเนินการบรรจุบุตรสาวคนโตให้เข้ารับราชการทหารเรียบร้อยแล้วโดยทันที ตั้งแต่ปี 2550 ปัจจุบันมีชั้นยศ ร้อยเอกหญิง หลังจากนั้น มาอีก 8 ปี คือ ปี 2558 บุตรสาวคนที่ 2 เพิ่งจบการศึกษาปริญญาตรี ได้ยื่นความประสงค์ผ่านหน่วยต้นสังกัดเดิมของบิดา ขอให้กองทัพบกบรรจุเข้ารับราชการทหารเพิ่มเติมอีกนั้น กองทัพบกไม่สามารถดำเนินการตามร้องขอได้ เนื่องจากครอบครัว พันเอก นรินทร์ ได้รับสิทธิในการบรรจุทายาททดแทนไปแล้ว โดยหลักเกณฑ์ของทางราชการ ในเรื่องการบรรจุทายาททดแทนกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่นั้น สามารถบรรจุทายาททดแทนผู้เสียชีวิตได้ 1คน
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกเข้าใจความรู้สึกของบุตรสาว พันเอก นรินทร์ ที่มีความปรารถนาอยากจะเข้ารับราชการ แต่ขอได้เข้าใจในข้อจำกัดและหลักเกณฑ์ของการรับราชการ ในขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ก็ได้ให้การดูแลครอบครัวนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากทายาทยังมีความประสงค์จะเข้ารับราชการทหาร ก็สามารถไปสมัครและเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามที่หน่วยงานในสังกัดกองทัพบกเปิดรับสมัครตามห้วงเวลา หรือหากประสงค์จะสมัครงานในหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนอื่นใด ทางหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และพิจารณาให้การสนับสนุนภายในกรอบและช่องทางที่สามารถดำเนินการได้