นายกรัฐมนตรี ชี้ พวกก่อเหตุใต้นำคำสอนศาสนาบิดเบือน หากทำช่วง 10 วันรอมฎอน จะได้ขึ้นสวรรค์ ยันองค์กรอิสลามช่วยรัฐอยู่ ต้องทำให้ชาวบ้านปลอดภัย ยังเดินหน้าเซฟตี้โซน บอกแก้มาหลายอย่างแล้ว ส่วนการเจรจาต้องให้อันตรายน้อยลง
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการป้องกันการก่อเหตุของกลุ่มก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ว่า ก็ต้องไปดูว่าใครทำ ในกลุ่มที่ทำมีทั้งกลุ่มที่อยากร่วมมือกับรัฐบาล เพราะเห็นว่ามีโครงการพาคนกลับบ้าน และโครงการอื่นอีกเยอะ แต่อีกส่วนหนึ่งก็ยืนยันว่าจะทำ โดยใช้คำสอนทางศาสนามาบิดเบือนว่าหากก่อเหตุในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน จะทำให้ขึ้นสวรรค์สูงกว่าเดิม เขาใช้เหตุผลดังกล่าวไปขับเคลื่อน เราก็ต้องป้องกันให้ได้ ในส่วนขององค์กรอิสลามก็ช่วยกันอยู่แล้ว ก็อย่าไปโจมตีกันไปมา หรือโทษกันไปมา คนดีมีอยู่
“เราต้องให้ความมั่นใจกับประชาชน แม้ทหารยังไม่ปลอดภัย ก็ต้องทำให้ประชาชนมั่นใจว่าปลอดภัย ทหารสร้างความเข้าใจด้วยชีวิตของเขา ถ้าเขาคิดว่าไม่ปลอดภัยแล้วไม่ไปขึ้นมา ประชาชนจะทำอย่างไร วันนี้เขาไปให้หมด สั่งไปไหนเขาก็ไป เขาก็มีมาตรการของเขาแล้ว แต่อย่าลืมว่าคนเฝ้าทำกับคนเฝ้าระวังมันจะสอดคล้องต้องกันตรงไหน ให้โอกาสเขาบ้าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยก็ยังทำอยู่ แต่คุยวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะจบเลยหรือไม่ ตอนนี้คุยมา 6 เดือนแล้ว ก็ต้องรับฟังทุกกลุ่ม และบางคนก็ไม่เห็นชอบด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเราคุยแล้วให้ศักยภาพกลุ่มไหนมากกว่ากัน เพราะมันมีศักยภาพทุกกลุ่ม แต่ถามว่าหากกำหนดพื้นที่ปลอดภัยแล้ว มันไม่ปลอดภัยจริงรัฐบาลก็โดนอีก เรื่องการพูดคุย การเจรจา มันต้องค่อยๆ ลดระดับให้อันตรายน้อยลง ไม่ใช่พูดครั้งเดียวแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง การแก้ปัญหาของบ้านเมืองแก้มากี่ปีแล้ว แล้วมาบอกว่าแก้อะไรไม่ได้เลย เราแก้มาหลายอย่างแล้วไปดูบ้าง