โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้ ครม.อนุมัติซื้อรถเกราะล้อยาง 34 คัน 2,300 ล้าน ตามแผนระยะ 2 ปี 60 - 63 ใช้งบผูกพันกองทัพบก เสริมสร้างกองทัพ ทดแทนของเดิมที่ใช้มากว่า 40 - 50 ปี หวังให้กรมทหารม้าที่ 1 มีใช้ ยันซื้อตามความจำเป็น และตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ แถมจีนจะเปิดศูนย์ซ่อมที่ไทย ช่วยลดค่าใช้จ่าย แย้มตั้งโคราช เล็งผุดออปชั่นซื้อชาติไหนต้องมาตั้งโรงงานประกอบที่ไทยด้วย ขอชาวบ้านช่วยเป็นหูเป็นตาผู้ไม่หวังดี
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และโฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการจัดซื้อรถเกราะล้อยาง วีเอ็น 1 จำนวน 34 คัน จากประเทศจีน งบประมาณ 2,300 ล้านบาทว่า การอนุมัติดังกล่าวอยู่ในแผนการจัดหารถเกราะล้อยางระยะที่ 2 ประจำปี 2560-2563 โดยใช้งบประมาณผูกพันของกองทัพบกในแผนพัฒนาเสริมสร้างกำลังกองทัพเดิมอยู่แล้ว ซึ่งกองทัพบกจะเป็นหน่วยที่ใช้ ส่วนเหตุผลการซื้อนั้นเป็นการจัดหาเพื่อทดแทนรถเกราะวี 150 ซึ่งใช้งานมากว่า 40 ปีรวมถึงทดแทนรถสายพานเอ็ม 113 เอ 3 ที่ใช้งานมากว่า 50 ปีแล้วเช่นกัน เพื่อให้ทหารม้าของกรมทหารม้าที่ 1 มีรถเกราะใช้งานเพราะเป็นหน่วยยานเกราะ
เมื่อถามว่า ระยะหลังรัฐบาลอนุมัติจัดซื้อยุทโธปกรณ์จำนวนมาก จะทำให้เกิดข้อกังขาหรือไม่เพราะขณะนี้เศรษฐกิจไทยไม่ดี พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า เราอยากให้แยกเรื่องนี้เป็น 2 ส่วนคือ 1.ส่วนการเสริมสร้างกำลังกองทัพที่เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันประเทศที่เหมือนกับบ้านต้องมีรั้วที่แข็งแรง ซึ่งรถเกราะไม่ได้หายไปไหน เพราะซื้อแล้วก็เป็นของกองทัพที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ยืนยันว่าเราซื้อตามความจำเป็น และปัจจุบันรถระเกราะอายุ 50 ปีใช้ปฏิบัติการไม่ได้แล้ว และ 2.เราซื้อตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยคำนึงถึงงบประมาณ ความเหมาะสม และเศรษฐกิจแน่นอน
"ขอยืนยันว่าเป็นการซื้อตามความจำเป็นในฐานะหน่วยที่ใช้งาน ซึ่งเรามีคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์ที่กองทัพบกได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และเราไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นของประเทศใด ซึ่งการซื้อครั้งนี้เราทราบมาว่าจีนจะมาช่วยเราสร้างโรงซ่อมบำรุงตามนโยบายความร่วมมือการป้องกันประเทศ เพราะเรามียุทโธปกรณ์ของจีนอยู่ในรถถัง วีที 4 กับรถเกราะล้อยางวีเอ็น 1 จีน จึงจะเปิดเป็นศูนย์ซ่อมที่ไทย ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางทหารทำให้เราลดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ต้องส่งไปซ่อมที่จีน ส่วนสถานที่จัดสร้างโรงซ่อมเราได้ไปดูพื้นที่ จ.นครราชสีมาไว้แล้ว แต่จะต้องประเมินความพร้อมร่วมกับจีนอีกครั้งว่าจะจัดตั้งที่ใด ซึ่งต่อไปการที่เราจะกำหนดในแพคเกจผูกพันว่าเราจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากประเทศใดเราจะขอความร่วมมือให้จัดตั้งศูนย์ซ่อมสร้างหรือโรงงานประกอบที่ไทยด้วย"พล.ต.คงชีพ กล่าว
นอกจากนี้พล.ต.คงชีพ ยังให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการขู่วางระเบิดในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญว่า ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือหรือไม่ ทางหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้ประมาท ทั้งนี้เราได้เตรียมความพร้อมด้านการข่าวและเจ้าหน้าที่ไว้เป็นอย่างดี จึงขอความร่วมมือประชนว่าจะต้องไม่ตื่นตระหนกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และในขณะเดียวกันเราจะต้องไม่ประมาท รวมถึงขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังร่วมกัน โดยใช้โทรศัพท์มือถือให้เป็นประโยชน์โดยการบันทึกภาพหลักฐานเพื่อเป็นประโยชน์ในการทำงานของเจ้าหน้าที่