นายกฯ พบคณบดีแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ประชาสัมพันธ์โครงการสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ รับมอบกระปุกออมสิน เสื้อยืด หมอนผ้าห่ม ฝากหมอคำนึงถึงบริบทอื่น ต้องช่วยเหลือร่วมพยาบาล ถ้าทุกคนไม่เปลี่ยนจะมีปัญหาไม่สิ้นสุด แซวรับหัวใจสีม่วงไม่ต้องให้งบแล้ว บอกไทยมีปัญหาเรื่องการทำความเข้าใจ จะปล่อยให้ไปซ้ายกับไปขวาอย่างเดียวไม่ได้ ยันไม่ได้ห้ามโชว์แต่งล่อแหลม แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงเลยหรือ บอก 4 คำถามไม่ได้หวังให้มาตอบใหญ่โต แค่สร้างการรับรู้
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นำคณะผู้บริหารมูลนิธิรามาธิบดี พร้อมด้วยศิลปินดาราจิตอาสาเข้าพบ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ในการจัดซื้ออุปกรณ์ด้านการแพทย์ รวมถึงการสร้างบุคลากรทางการแพทย์ของสถาบันฯ โดยได้มอบกระปุกออมสินรูปหัวใจ เสื้อยืดสกรีน “คำว่าให้...ไม่สิ้นสุด” และหมอนผ้าห่มลาย “น้องให้ใจ” เป็นตัวการ์ตูนรูปหัวใจสีม่วงมีปีก ตัวแทนของการให้ และการทำความดี
โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอฝากในเรื่องของความรักความสามัคคี ซึ่งแพทย์ก็ไม่ได้สอนให้เฉพาะรักษาคนไข้ อยากให้คำนึงถึงบริบทเรื่องอื่นๆ ด้วย ทั้งเรื่องของจิตสำนึกต้องมองให้กว้าง นอกเหนือการทำหน้าที่ของตัวเองต้องช่วยเหลือทั้งแพทย์และพยาบาลร่วมกัน เพราะวันนี้ทั้งโลกและประเทศกำลังเปลี่ยนแปลง ทุกคนต้องคิดอย่างที่ตนคิดเพื่อที่จะให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นปัญหาจะเป็นแบบเดิม
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินไปดูเสื้อที่เขียนว่า “คำว่าให้...ไม่มีที่สิ้นสุด” พร้อมกล่าวว่า ถ้าทุกคนยังไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองมันจะกลายเป็นคำว่าประเทศไทยมีปัญหาไม่สิ้นสุด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังที่ได้รับมอบหัวใจสีม่วงซึ่งมีชื่อว่า “น้องให้ใจ” ว่า ให้ใจแบบนี้ไม่ต้องให้งบแล้วใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงการให้เราต้องให้ประชาชนก่อน วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการทำความเข้าใจไม่ไปซ้ายก็ไปขวา ไม่มีตรงกลาง ถ้าเป็นเช่นนี้ก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ขอให้เข้าใจในฐานะที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เราพยายามแก้ปัญหา และฟังในทุกเรื่อง เพราะเราไม่อยากให้ประเทศชาติกลับไปอยู่ที่เดิม หลายอย่างที่ทำไปในเรื่องใหม่ๆ หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ ก็ต้องสร้างการรับรู้ให้มากขึ้น เพราะเราห้ามการแสดงความคิดเห็นในโลกโซเชียลฯ ไม่ได้ แต่อยากชี้ให้เห็นว่าการแสดงความเห็นบางอย่างไม่มีหลักคิดที่ถูกต้อง แล้วหลายคนก็ทำตามกันไปประเทศก็จะมีปัญหา และเป็นคนละเรื่องกับเรื่องของสิทธิมนุษยชน เราไม่ไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว แต่ทุกคนก็ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้อื่นด้วย อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน
“หัวใจสีม่วงคือหัวใจของคนที่ใกล้จะตาย คนที่ใกล้จะตายจะไม่โกหก ไม่เหมือนบางพวกที่ยังชอบโกหก แต่สำหรับผมไม่มีโกหก และเป็นคนที่มีหัวใจสีม่วงที่ได้รับพระราชทานมาในเครื่องหมายทหารเสือฯ ของผมทุกวันนี้มีหัวใจสีม่วง ไม่ใช่หัวใจสีแดง เปรียบเหมือนคนใกล้จะตายที่ไม่โกหก เราควรจะเป็นผู้ให้โดยไม่คำนึงถึงผู้รับว่าเขาจะตอบแทนอย่างไร ต้องรู้จักการให้ที่ถูกต้อง ประเทศไทยวันนี้เราจะปล่อยให้ไปซ้ายกับไปขวาอย่างเดียวไม่ได้แล้ว เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ ฝากทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหา และในสิ่งที่จะปฏิรูปประเทศ ผมเป็นคนอารมณ์ดีเว้นแต่จะเจอคำถามที่ทำให้อารมณ์เสีย ผมไม่เคยโกรธใคร ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
โดยในระหว่างการพูดคุย พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวเรื่องที่ออกมาตำหนิเรื่องการแต่งกายที่ล่อแหลมว่า “ผมเข้าใจดีว่าในทางธุรกิจจำเป็นต้องหาอะไรใหม่ๆ มา แต่ต้องดูว่าความเหมาะสมควรอยู่ตรงไหน ในเรื่องของการแสดง โลกเปลี่ยนไปก็ต้องช่วยกันคิดว่าเราจะช่วยกันสร้างค่านิยมของคนไทยอย่างไร ประเทศเราควรมีอัตลักษณ์ความเป็นไทยหรือไม่ เมื่อวันก่อนที่ผมเตือนไปว่าเรื่องการแต่งตัวอย่าให้เกินเลยกันไปมากนัก แต่ผมจะไปห้ามใครไม่ได้อยู่แล้ว ห้ามไม่ได้ แต่ที่สะท้อนกลับมาบอกว่ามันเป็นแบบนี้มานานแล้ว แล้วเราจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยหรือ เราจะต้องสร้างให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้หรือ ปล่อยให้เป็นสังคมแห่งความขัดแย้ง สังคมที่ไร้ขอบเขต อย่าลืมว่านี่คือประเทศไทยเราจะไม่เปลี่ยนแปลงให้สังคมดีขึ้นหรือ ไม่ใช่ว่าเราเห็นฝรั่งทำแล้วเราจะต้องทำตามทั้งหมด ไม่ได้ ประเทศไทยคือประเทศไทย”
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงความพอใจในการเปิดให้ประชาชนตอบ 4 คำถามในวันแรกที่ดูเหมือนบรรยากาศเงียบเหงาว่า ไม่ได้หวังให้มาตอบเป็นเรื่องราวใหญ่โต แค่เป็นการสร้างการรับรู้