ประชุม กกต.หาหลังพิง เตรียมถกคณะที่ปรึกษากฎหมายปมเซตซีโร่ กกต.ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมตั้ง คกก.สอบสวนปม 9 รมต.ถือครองหุ้นเข้าข่ายขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่ง
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมาที่ประชุมได้มีการพูดคุยต่อกรณีที่ กมธ.วิสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่าง พ.ร.ป.กกต.มีมติให้มีการเซตซีโร่ โดยเบื้องต้นทางสำนักงานจะศึกษาเนื้อหาของร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าวว่ามีเนื้อหาสาระส่วนใดที่ขัดหรือแย้งต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร และจะได้มีการนำร่าง พ.ร.ป.กกต.ฉบับที่ กมธ.สนช.มีมติไปขอความเห็นจากที่ประชุมคณะที่ปรึกษากฎหมายที่มีนายสุรินทร์ นาควิเชียร อดีตรองประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ที่เบื้องต้นนัดประชุมไว้ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ไม่เฉพาะประเด็นเซตซีโร่ กกต.เท่านั้น แต่เป็นการศึกษาในทุกประเด็น และในสัปดาห์ถัดไปหลังที่ประชุม สนช.มีมติวันที่ 9 มิ.ย.แล้ว ก็จะให้มีการประชุมร่วมระหว่าง กกต.กับคณะที่ปรึกษากฎหมายอีกครั้ง เพื่อเป็นการเตรียมประเด็นที่ กกต.จะมีความเห็นแย้งเมื่อมีการส่งร่างกฎหมายดังกล่าวมาให้ กกต.พิจารณาตามมาตรา 267 วรรค 5 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่ง กกต.ก็จะได้ทำความเห็นกลับไปยัง สนช.ทันตามกรอบเวลา นอกจากนี้ ที่ประชุมก็ได้มีการหารือถึงกรอบเวลาในการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวหากไปถึงจุดต้องมีการตั้งคณะกรรมการร่วม 3 ฝาย ซึ่งก็มองว่าในส่วนของฝ่าย กกต.นั้น ประธาน กกต.ต้องเป็นตัวแทนไปนั่งในคณะกรรมการร่วมเอง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบตามที่สำนักกฎหมายของสำนักงาน กกต.เสนอให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนในคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรี 9 รายที่ถือครองหุ้นและมีการกระทำการที่เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามหมวด 9 ของรัฐธรรมนูญซึ่งอาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ขาดคุณสมบัติพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 264 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ โดยทางสำนักงานฯ จะไปยกร่างคำสั่งก่อนที่จะเสนอให้ประธาน กกต.ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการ ซึ่งในการสอบสวนคำร้องอื่นๆ ที่ผ่านมาคณะกรรมการสอบสวนก็จะสอบสวนหาข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายทั้งหมดมาพิจารณา และหากเห็นว่ามีมูลตามที่มีการกล่าวหาก็จะเชิญผู้ถูกร้องทั้ง 9 รายมาชี้แจงก่อนที่จะมีมติและมีความเห็นเสนอต่อ กกต.พิจารณา