xs
xsm
sm
md
lg

“อลงกรณ์” แนะ ปชป.ระวังภาวะหนึ่งพรรคสองแนวคิด ชู กปปส.กลับรังผลดี หนุนปฏิรูป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (แฟ้มภาพ)
“อลงกรณ์” ชู กปปส.กลับรังประชาธิปัตย์เป็นผลดี แนะปฏิรูปพรรคจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของเพื่อไทย แต่ให้ระวังภาวะหนึ่งพรรคสองแนวคิด ชี้ 4 ประเด็นตัวแปรสำคัญท้าทายอนาคตและการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค แต่เชื่อผู้ใหญ่จะช่วยสมานความคิดได้ แถมมีวัฒนธรรมจัดการปัญหาภายในแข็งแรง คงไม่ซ้ำรอยเหตุ 10 มกราฯ

วันนี้ (31 ส.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่ 1 (สปท.) ในฐานะอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีแกนนำ กปปส.กลับเข้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนมองสองด้านของเหรียญเสมอ ด้านหนึ่งเห็นว่าเป็นผลดีที่แกนนำ กปปส.ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.กลับพรรค แทนที่จะตั้งพรรคใหม่หรือแยกย้ายไปพรรคอื่น และแต่ละคนมีศักยภาพสูงมีจุดยืนชัดเจน เน้นการปฏิรูปและไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่ยึดมั่นความเป็นสถาบันทางการเมืองของพรรค จึงเชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหากมีการปฏิรูปพรรคและจะทำให้พรรคเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า

นายอลงกรณ์กล่าวว่า แต่อีกด้านหนึ่งตนมองว่าพรรคจะอยู่ในภาวะหนึ่งพรรคสองแนวคิด ในระยะแรกเพราะมีความต่างระดับของแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะ 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นแนวทางการปฏิรูปพรรค ประเด็นการปฏิรูปประเทศ ประเด็นผู้นำพรรค และประเด็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญท้าทายอนาคตของพรรคอย่างมีนัยยะสำคัญ และจะมีผลถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคในปลายปีนี้

นายอลงกรณ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในพรรคมีผู้หลักผู้ใหญ่ เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองหัวหน้าพรรค นายถาวร เสนเนียม วิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส. และอีกหลายท่านจะช่วยสมานความคิดของทุกคนให้ลงตัวได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งพรรคมีวัฒนธรรมที่แข็งแรงในการจัดการปัญหาภายในของตัวเองเพราะเคยมีประสบการณ์หนึ่งพรรคสองแนวคิดมาแล้วกรณี 10 มกราฯ คงไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนในอดีต
กำลังโหลดความคิดเห็น