คสช.ลุยเชิงรุกสร้างความปลอดภัยกันป่วน แนะใช้วงจรปิดมีประสิทธิภาพ สั่งรับภัยพิบัติ

รองโฆษกคสช. เผย ประชุมประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์ เลขาฯคสช. เร่งงานเชิงรุกสร้างความปลอดภัยพื้นที่ ป้องกันการสร้างความปั่นป่วน วุ่นวาย แนะใช้กล้องวงจรปิดอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกระตุ้นทุกส่วนสร้างความพร้อมรองรับภัยพิบัติ

วันนี้ (29พ.ค.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า สำนักเลขาธิการ คสช. ยังคงจัดการประชุมประเมินสถานการณ์และติดตามผลการปฏิบัติงานประจำสัปดาห์ในทุกวันจันทร์อย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เลขาธิการ คสช. เป็นประธาน ทั้งนี้ เลขาธิการ คสช. ได้กล่าวถึงการสร้างบรรยากาศที่ดีในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะการตรวจสอบมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบการโรงแรม รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยของพื้นที่ จะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับประเทศและประชาชน ได้ย้ำให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กกล.รส.ในทุกกองทัพภาคเร่งรัดการจัดระเบียบพื้นที่เพื่อสร้างความปลอดภัยและดูแลนักท่องเที่ยวให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด

นอกจากนี้ จากสภาวะอากาศที่แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอาจไม่เป็นไปตามฤดูกาล เลขาธิการคสช. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้สร้างความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องการช่วยเหลืออุทกภัย ให้นำข้อได้เปรียบจากผลการทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาใช้ในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ ที่เห็นชัดเจนได้แก่ กกล.รส.มีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบไว้แล้ว และจากการลงพื้นที่สม่ำเสมอทำให้ทราบปัญหา รู้จุดเสี่ยง และจุดที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำซากของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งความสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมร่วมกับส่วนราชการต่างๆ จะเป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้การบูรณาการความช่วยเหลือทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาวบรรลุผลได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัดกำชับให้ กกล.รส.กองทัพภาคได้บูรณาการและวางแผนระยะยาวในการแก้ปัญหาภัยพิบัติ ให้มีความเชื่อมโยงกันในทุกพื้นที่ ส่วนในพื้นที่ กทม. กำชับให้ กกล.รส.กองทัพภาคที่ 1 และ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือประชาชนในลักษณะเสริมการทำงานของ กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนและยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหน่วยงานภาครัฐที่ทุ่มเทและร่วมกันเข้าแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ด้วย

สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อยในภาพรวมนั้น เลขาธิการคสช. ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลพื้นที่ ป้องกันมิให้มีการสร้างความปั่นป่วนและสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ กำชับให้ทุกส่วนงานดำเนินการเชิงรุกในลักษณะป้องกัน ให้ความสำคัญกับงานด้านการข่าว การเข้มงวดในมาตรการเฝ้าระวังและดูแลพื้นที่ การจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งในและนอกเครื่องแบบ การเสริมศักยภาพงานระวังป้องกันด้วยการใช้ระบบกล้องวงจรปิดที่มีประสิทธิภาพในการคลี่คลายสถานการณ์หรือป้องปรามการก่อเหตุอันไม่พึงประสงค์ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรัดซ่อมและติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งการให้ความรู้กับประชาชนและภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยสถานที่เสริมการทำงานของภาครัฐให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

การประชุมในวันนี้ เลขาธิการ คสช. ยังได้แสดงความห่วงใยอีกครั้งต่อปัญหายาเสพติดที่มีการเพิ่มปริมาณการลักลอบนำเข้าสู่ประเทศสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเมินได้จากสถิติการจับกุมในช่วง 7เดือนที่ผ่านมา สูงถึง 32 ล้านเม็ด ถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกส่วนงานทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รวมทั้ง กกล.รส.และกองกำลังชายแดน ต้องร่วมกันดำเนินการปราบปราม สกัดกั้น และจับกุมด้วยมาตรการที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพตามกรอบอำนาจหน้าที่ของกฎหมาย ให้ผลการดำเนินการปรากฏเป็นรูปธรรม สามารถป้องกันมิให้มีการลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ และกำจัดขบวนการค้ายาเสพติดในแต่ละพื้นที่ให้หมดไป โดยกำชับให้เร่งดำเนินการในทุกพื้นที่ควบคู่ไปกับการดูแลความสงบเรียบร้อยและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่นๆ