รองนายกฯ “ประจิน” ชี้ ปราบเว็บหมิ่นสถาบัน - ภัยต่อชาติเรื่องสำคัญ แต่รับซับซ้อนขึ้น จัดการระบบไอทียาก เผย ผู้ให้บริการเริ่มเข้าใจร่วมมือรัฐมากขึ้น ในกรณีที่มีคำสั่งศาลให้ลบ ระบุฝ่ายความมั่นคง กต. ร่วมประสานลาวล่า “โกตี๋” อยู่
วันนี้ (26 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการกับเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบันและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และนอกจากเรื่องดังกล่าวยังมีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงิน และโครงสร้างพื้นฐานล้วนมีความสำคัญ หากสิ่งเหล่านี้ถูกขัดขวางหรือแทรกซึมจะมีผลกระทบอย่างแน่นอน เราจึงแก้ปัญหาแต่ละส่วนอย่างบูรณาการ ซึ่งเราทราบว่าปัจจุบันความซับซ้อนมีมากขึ้น การบริหารจัดการของเราในระบบดิจิตอลและไอทีย่อมมีความยากมากยิ่งขึ้น แต่เข้าใจว่าความร่วมมือตรงนี้จะเร่งรัดดำเนินการต่อให้ดีขึ้นทั้งหมด โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นผู้ประสาน โดยมีผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องร่วมช่วยเหลือด้วย
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า ในส่วนของการโพสต์ข้อความหมิ่นที่พบทั้งเรื่องการเมือง ความมั่นคง และเรื่องสถาบันนั้น เราพยายามดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ขณะนี้หน่วยงานที่ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ต เกิดความเข้าใจ และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมากยิ่งขึ้น กรณีใดที่มีคำสั่งศาลออกมาว่าโพสต์ใดผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ให้ดำเนินการลบออกจากระบบ เช่นเดียวกับความร่วมมือระหว่างประเทศที่ได้รับความร่วมมืออย่างดีและมีแนวโน้มว่าดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเราแบ่งความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ทั้งดีอี สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และหน่วยงานความมั่นคง
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้กระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งมีพฤติกรรมโพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันและยุยงปลุกปั่น หรืออาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ต้องแยกออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ และการติดตามตัวคนร้ายซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานอยู่
เมื่อถามอีกว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะประสานขอตัว นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ในส่วนของความมั่นคงดำเนินการติดตามอยู่ รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศก็เข้ามาช่วยเหลือ