ปูด! ครม.แอบไฟเขียว สตช.เปลี่ยนแปลงงบผูกพันปี 60-63 จาก 2 โครงการ 9.8 พันล้าน ผุด 141 โครงการ 8 กลุ่ม วงเงิน 7.9 ล้าน เผยจัดงบ 718 ล้าน ฟื้น “แฟลตตำรวจ” ที่ถูกทิ้งงาน 69 แห่ง-ผุดศูนย์ฯ 191 ทั่วประเทศ 6.2 พันล้าน เผยเป็นงบลงทุนก่อสร้างที่พักอาศัย/ที่ทำการ/ปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง รวม 4.1 พันล้าน พร้อมจัดหาอาวุธ/เครื่องมือปฏิบัติงาน 2.8 พันล้าน
วันนี้ (26 พ.ค.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายปี 2560 ที่ ครม.อนุมัติเมื่อ 2 พ.ค. 2560 ให้เปลี่ยนแปลง 2 รายการ จากวงเงินงบประมาณรวม 9,848 ล้านบาท ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ขออนุมัติเงินประจำงวดไปยังสำนักงบประมาณ โดยไม่พบว่ามีการแถลงของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ เป็นการอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการจาก “1. โครงการอาคารที่ทำการพร้อมอาคารที่จอดรถยนต์ และ 2.โครงการอาคารสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผูกพันปีงบประมาณ 2560-2563 จำนวน 2 รายการ วงเงิน 9,848 ล้านบาท โดยอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงรายการฯ เปลี่ยนเป็น 141 รายการวงเงิน 7,967,587,700 บาท จำแนก 8 กลุ่ม ดังนี้
1. โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต)ถูกทิ้งงาน 69 แห่ง วงเงิน 718,730,000 บาท 2. โครงการก่อสร้างที่พักอาศัย 3,798,377,000 บาท 3. โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการ (ทดแทน) วงเงิน 101,131,000 บาท 4. โครงการปรับปรุงซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างอาคารที่ทำการและที่พักอาศัย วงเงิน 207,251,300 บาท 5. โครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ 937,050,200 บาท 6. โครงการอุปกรณ์เครื่องมือปฏิบัติงาน 1,883,643,000 บาท 7. โครงการปรับปรุงศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ 191 วงเงิน 240,280,000 บาท และ 8. โครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางนิติวิทยาศาสตร์ วงเงิน 81,125,200 บาท
ทั้งนี้ ตร.ได้จำแนกรายการตามปีงบประมาณ 2 กลุ่ม ได้ดังนี้ 1. รายการที่เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2560 จำนวน 124 รายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 3,400,180,800 บาท จำแนกรายการปีเดียว 48 รายการ วงเงิน 508,389,900 บาท และรายการผูกพัน 76 รายการ วงเงิน 2,891,790,900 บาท (กลุ่มนี้จะต้อตกลงกับสำนักงบประมาณ เพื่ออนุมัติเงินประจำงวดใหม่ให้กับ ตร.) และ 2. รายการที่เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2561 จำนวน 17 รายการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 4,567,406,900 บาท จำแนกเป็น รายการปีเดียว จำนวน 11 รายการ วงเงิน 460,716,200 บาท และรายการผูกพัน จำนวน 6 รายการ 4,106,690,700 บาท
มีรายงานว่า ในคราวประชุมหน่วยขึ้นตรงขิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือให้หน่วยขึ้นตรงเตรียมความพร้อมในการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2560 ให้หน่วยก่อหนี้ผูกพัน ภายใน 30 ก.ย. 60
ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติตามหนังสือ กวพ.ด่วนที่สุด ที่ กค (กวพ) 0421.3/ว5 ลง 8 ม.ค. 2557 เรื่องซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมการจัดหาพัสดุตามระเบียบ สร. ว่าด้วยการพัสดุฯ ข้อ 13 วรรคแรก ข้อ 4 ความว่า “กรณีการทราบยอดวงเงินงบประมาณที่ต้องดำเนินการฯ หมายความถึง หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากหัวหน้าส่วนราชการได้รับอนุมัติให้โอนและหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายแล้ว หรือสำนักงบประมาณได้อนุมัติแล้ว” โดย ตร.ย้ำว่า อย่าก่อหนี้ผูกพันจนกว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณ
718 ล้าน ฟื้นแฟลตตำรวจที่ถูกทิ้งงาน 69 แห่ง-ผุดศูนย์ 191 ทั่วประเทศ 6.2 พันล้าน
มีรายงานว่า สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต) ถูกทิ้งงาน 69 แห่ง วงเงิน 718,730,000 บาทนั้น เป็นโครงการที่ต่อเนื่องจาก โครงการก่อสร้างแฟลตตำรวจ 5 ชั้น จำนวน 163 แห่ง มูลค่า 3,800 ล้านบาท ในยุคพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกเลิกสัญญา
ส่วนโครงการการปรับปรุงศูนย์บัญชาการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ 191 นั้น ตร.กำหนดวงเงิน ปี 2560 จำนวน 240,280,000 บาท และงบสนับสนุนจากกองทุนการกระจายบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (กองทุนยูโซ่) ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จำนวน 3,140 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินจัดซื้อจัดจ้างซื้อเครื่องอุปกรณ์เทคโนโลยี เลขหมายฉุกเฉินเลขหมายเดียวคือ 191
ทั้งนี้ การปรับปรุงศูนย์ฯดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 6,200 ล้านบาท ในส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3,000 ล้านบาทนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะจัดสรรงบประมาณมาเพื่อปรับปรุงอาคารสถานที่แบบงบประหยัดค่าใช้จ่าย
ในส่วนของศูนย์รวมข่าว 191 ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะใช้บริเวณพื้นที่อาคารกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ถนนวิภาวดีฯ โดยใช้ระยะเวลาปรับปรุง 7-8 เดือน
ในส่วนกองบัญชาการอื่นๆ เบื้องต้นจะปรับปรุงใช้สถานที่อาคาร บช. การใช้งานของศูนย์บัญชาการเหตุฉุกเฉินแห่งชาติจะเกิดประโยชน์ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของตำรวจและการประสานงานกับสถานที่ราชการ สนามบินต่างๆ รวมทั้งกล้องวงจรปิดทั่วประเทศ รวมถึงการทำงานปฏิบัติหน้าที่ของรถยนต์สายตรวจ 191
ขยายก่อหนี้ฯ ภาค 5 ซื้อกล้อง CCTV+ระบบเชื่อมต่อ 304,437,300 บาท
มีรายงานด้วยว่า ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 (งบจังหวัด) โดย ตร.ได้รับการจัดสรรจำนวนเงิน 313,554,500 บาท ล่าสุด ครม.อนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพัน เป็นภายในวันที่ 31 ก.ค. 2560 ประกอบด้วย โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดในแหล่งท่องเที่ยว วงเงิน 5 ล้านบาท ชองกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา, โครงการกล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบเชื่อมต่อและอุปกรณ์ (ภ.5) ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ วงเงิน 304,437,300 บาท ของกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5
โครงการกล้องตรวจจับความเร็วพร้อมอุปกรณ์ติดตั้ง วงเงิน 944,800 บาท โครงการจัดหาเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ชนิดยืนยันผลพร้อมเครื่องพิมพ์ วงเงิน 1,300,000 บาท ของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม, โครงการจัดซื้อเครื่องพิมพ์บัตรคิวพร้อมระบบและอุปกรณ์ วงเงิน 245,100 บาท โครงการจัดซื้อเครื่องปรับอากาศ แบบแยกส่วนชนิดตั้งพื้นหรือชนิดแขวน (มีระบบฟอกอากาศ) ขนาด 18,000 บีทียู วงเงิน 312,000 บาท โครงการจัดซื้อรถบรรทุก ขนาด 1 ตัน วงเงิน 864,000 บาท โครงการจัดซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ วงเงิน 150,000 บาท และโครงการจัดซื้อเครื่องพิมพ์บัตรคิวพร้อมอุปกรณ์ วงเงิน 245,100 บาท ของ กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ภาค 3 (ตม.) จ.สมุทรสงคราม