xs
xsm
sm
md
lg

บึ้ม รพ.พระมงกุฎฯต้องจับคนร้ายเดิมพันเก้าอี้ จักรทิพย์-ประวิตร !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา




อย่างที่ทราบตั้งแต่หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดที่ใกล้ห้องรับรอง “วงษ์สุวรรณ” ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่ายี่สิบคนนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประกาศ “แสดงความรับผิดชอบ” โดยย้ำว่า “ผมรับผิดชอบคนเดียว” ไม่โยนความรับผิดชอบไปให้ลูกน้องเป็นอันขาด

ในคำพูดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในวันนั้น มีความหมายดังกล่าว อาจจะไม่ใช่แบบถอดมาแบบคำต่อคำ แต่ความหมายชัดเจน ก็คือ ขอแสดงความรับผิดชอบ ด้วยท่าทางขึงขัง เอาจริงเอาจัง ไม่ใช่เล่นๆ แน่นอน

แน่นอนว่า ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการแถลงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหลังเกิดเหตุไม่นาน ซึ่งก็รับรู้ว่ามันเครียด เพราะการก่อเหตุคราวนี้ถือว่า “หยาม” กว่าทุกครั้งเหมือนกับว่า “นึกจะลงมือสั่งสอน” เมื่อไหร่ก็ได้ เพราะมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมไปถึงฝ่ายความมั่นคง “ไม่มีน้ำยา” จะจับกุมตัวได้ ซึ่งอีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้คิดคล้อยตามแบบนั้นได้ เนื่องจากหากนับเอาเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าแล้ว ย้อนนับรวมเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็รวมเป็น 3 ครั้งแล้ว โดยนับจากการลอบวางระเบิดในถังขยะหน้ากองสลากฯหลังเก่าเมื่อวันที่ 5 เมษายน ถัดมาก็เกิดเหตุที่หน้าโรงละครแห่งชาติ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม และวันที่ 22 พฤษภาคม ที่บังเอิญมาตรงกันวันครบรอบ 3 ปี ของการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสียอีก

สองเหตุการณ์แรก โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่หน้ากองสลากฯหลังเก่า เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน ตำรวจยังไม่สามารถหาเบาะแสคนร้ายได้เลย จนเวลาผ่านไปก็ค่อยๆ เงียบหายไป หากไม่เกิดเหตุในโรงพยาบาลก็คงไม่กดดันแบบนี้ ที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะไม่มีคนเสียชีวิต ดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่หากพิจารณาจากความหมายมันก็คือ การ “หยามแบบไม่ไว้หน้า” ดังกล่าว ซึ่งหากพิจารณาให้ละเอียดมันก็น่าเจ็บปวดยิ่งกว่าเสียอีก และยิ่งเจ้าหน้าที่สรุปฟันธงว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ มีความเชื่อมโยงกันเป็นฝีมือของคนกลุ่มเดียวกัน

มันก็กระจ่างชัดว่า เป็นการลงมือของ “กลุ่มการเมือง” ที่ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ แบบที่ไม่ต้องสงสัย ขณะเดียวกัน เมื่อมันเกิดเหตุแบบรัวๆ หยามกันแบบนี้ ถึงไม่บอกว่า “รับผิดชอบ” มันก็ต้องมีคนบังคับให้ต้องรับผิดชอบอยู่ดีนั่นแหละน่า

ขณะเดียวกัน เมื่อพูดถึงงานด้านความมั่นคง มันก็ไม่อาจมองข้าม “พี่ใหญ่” อย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ถือว่า “คุมเอาไว้ในมืออย่างเบ็ดเสร็จ” และที่ผ่านมา สามารถนำไปสร้างเครือข่ายอย่างกว้างขวางเรียกว่า “ได้กำไรเละ” ไปแล้ว แต่จากสามเหตุการณ์ดังกล่าวถึงกับทำให้ “พี่ใหญ่” ทรุดหนักกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลที่คนร้ายจงใจวางระเบิดไว้ในแจกันดอกไม้ติดกับห้อง “วงษ์สุวรรณ” ไม่ต้องคิดมาก็ย่อมรู้ว่าต้องการสื่อไปถึงใคร

งานนี้หากมองกันแบบไม่ต้องอ้อมค้อม ทั้งสองคนนั่นคือ ทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถือว่าตกที่นั่งเดียวกัน แบบที่เรียกว่า “อยู่ลำบาก” ถึงแม้ว่าจะตื้ออยู่กันไป แต่มันไม่มีเครดิต ย่อมไม่มีสง่าราศี

ดังนั้น หากบอกว่ามันไม่มีทางอื่นให้เลือกนอกจากต้องจับคนร้ายให้ได้ก่อนในเบื้องต้น ส่วนจะสาวไปถึงผู้บงการอยู่ข้างหลังได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และถือว่ายังไกลโพ้น เอาเป็นว่าหากพิจารณากันทีละขั้นตอนก็ต้องหาตัวคนร้ายมาก่อน เพราะงานนี้รู้อยู่แล้วว่าเป็นรายการ “หยาม” แต่หากยังคว้าน้ำเหลว มันก็ต้อง “รับผิดชอบ” ตามที่พูดอยู่แล้ว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น