สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ให้ติดบัตรตลอดเวลา ใช้ลิฟต์เฉพาะชั้น ปิดทางเชื่อม ไม่อนุญาตพนักงานให้ใช้ลิฟต์ขนของ ห้ามบุคคลภายนอกนำของมาขาย ปรับจุด รปภ. ด้าน รักษาการเลขาธิการ กกต. ปัดถูกแจ้งเป็นเป้าก่อเหตุ
วันนี้ (24 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สำนักงาน กกต. ก็ได้ติดประกาศมาตรการรักษาความปลอดภัย ให้พนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน กกต. ทุกคน นักศึกษา พตส. และนักศึกษาฝึกงานติดบัตรแสดงตนตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงานของสำนักงาน กกต. และให้ทุกคนใช้ลิฟต์เพื่อเข้า - ออก ที่ทำงานในช่องทางที่ชั้น 1 และชั้น 2 เท่านั้น สนง.กกต. จะปิดทางออก ทางเชื่อมที่ชั้น 3 ชั้น 4 และชั้น 6 ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้พนักงานและลูกจ้างทุกคน รวมถึงนักศึกษาฝึกงานใช้ลิฟท์ขนของในการขึ้น - ลง
สำหรับผู้ที่มาติดต่อกับทุกส่วนงานภายในสำนักงาน กกต. ให้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ หรือเจ้าหน้าที่ประสานงานที่ชั้น 2 ตรงข้ามห้องสารบรรณ เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของส่วนงานที่จะมาติดต่อลงมาพบโดยตรง และต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกนำสินค้าเข้ามาขายภายในบริเวณพื้นที่ของสำนักงาน กกต. โดยเด็ดขาด นอกจากประกาศความเข้มงวดเรื่องการเข้า - ออกแล้ว ยังได้มีการปรับจุดประจำของเจ้าหน้าที่ รปภ. ด้วย โดยให้กระจายไปประจำทางเข้า - ออก สำนักงาน
ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต. มีมติให้สำนักงานเคร่งครัดเรื่องการรักษาความปลอดภัย ตามที่รัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหลังจากเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ทางสำนักงาน จึงได้ออกประกาศ และติดประกาศดังกล่าวเพื่อเป็นการเน้นย้ำให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ของ กกต. ได้ปฏิบัติให้เคร่งครัดมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของการติดบัตรแสดงตน การแลกบัตรเข้า - ออก สำนักงานของบุคคลภายนอกที่มาติดต่อ รวมถึงการจัดเวรยามเพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งก็ถือเป็นการปฏิบัติที่เข้มข้นมากกว่าปกติที่ทุกหน่วยงานราชการก็มักจะทำอยู่แล้ว เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะสำนักงานฯ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานด้านการข่าวว่าศูนย์ราชการฯ หรือสำนักงาน กกต. อยู่ในเป้าหมายของการก่อเหตุร้ายแต่อย่างใด