xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ส่งสัญญาณอยู่ต่อ-ไม่สงบไม่มีเลือกตั้ง ย้อนศรเอาคืน “คนเลว” !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา




“ยังไม่รู้เลย ไม่รู้ ไม่รู้” นี่คือ คำตอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าจะ “ลงเลือกตั้งหรือไม่”

สำหรับประเด็นนี้มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าเป็นครั้งแรกที่เขาพูดแบบนี้ เพราะเป็นคำตอบแบบก้ำกึ่งแบ่งรับแบ่งสู้ ไม่ใช่แบบปฏิเสธทันควัน พูดง่ายๆ ก็คือ “กั๊ก” นั่นเอง

สำหรับประเด็นต่อมาที่เขาพูดถึงเรื่องสถานการณ์และเชื่อมโยงกับโรดแมป และการเลือกตั้งก็มีคำตอบน่าสนใจ

“สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคนคำนึงถึง คือ ถ้าบ้านเมืองยังเป็นอยู่แบบนี้ ทั้งการวางระเบิด การใช้อาวุธสงคราม การทำให้เกิดความขัดแย้งในภาคประชาชน แล้วมีปัญหาเหมือนเดิมที่ผ่านมา แล้วจะเลือกตั้งกันได้หรือไม่ ผมกำหนดไปก็เท่านั้น อยู่ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันเพื่อเดินไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกัน อย่าให้รัฐบาลเป็นผู้กำหนดทั้งหมด ผมเคยบอกไว้แล้วว่าเร็วที่สุดจะได้อย่างไร แต่ถ้าไม่ได้ประชาชนก็ต้องว่ากันมา ผมบังคับใครไม่ได้ในการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย ขอร้องว่า อย่ามาอ้างกลับไปกลับมาเสียเวลาเปล่า รัฐธรรมนูญ กฎหมายว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น ระยะเวลาตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าจะต้องทำอะไรบ้างก็ยังเป็นไปตามนั้นทุกอย่าง เว้นแต่บ้านเมืองไม่สงบสุข”

คำพูดข้างต้นถือว่าเป็นการตอบคำถามสำคัญสองเรื่อง คือ ยืนยันเดินหน้าตามโรดแมปที่กำหนดเอาไว้ และการไม่ปฏิเสธว่าจะไม่ลงเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะหมายรวมถึงเรื่องการ"รับตำแหน่งนายกฯคนนอก” ด้วยหรือไม่

หากพิจารณากันที่ละเรื่องที่ต้องเชื่อมโยงถึงกันกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดถึง 3 ครั้ง ในระยะเวลาห่างกันไม่กี่วัน โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เกิดเหตุวางระเบิดที่หน้าห้อง “วงษ์สุวรรณ” ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่ายี่สิบคน ทั้งสามครั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงของทหารระบุตรงกันว่ามีความเชื่อมโยงกัน เป็นฝีมือของคนกลุ่มเดียวกัน แม้ว่าจะไม่มีการระบุออกมาแบบฟันธง แต่ก็เข้าใจกันว่าเป็นฝีมือของกลุ่มที่เชื่อมโยงกับ “กลุ่มการเมือง” ส่วนจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่าเป็น “กลุ่มคนเลว” หรือไม่นั้น หากพิจารณากันแบบติดตามอย่างใกล้ชิดก็น่าจะพอมองออกว่ามีความหมายไปทางไหน

สำหรับเรื่องการเลือกตั้งที่ผ่านมามีบางกลุ่มการเมืองออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ร่นการเลือกตั้งให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองจากพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร ที่มักจะออกมาเร่งรัดอยู่แทบจะเป็นรายวัน รวมทั้งดักคอ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า พยายามเตะถ่วงยื้อเวลาเพื่อรักษาอำนาจเอาไว้ต่อไปเรื่อยๆ

แน่นอนว่า หากพิจารณากันด้วยเหตุผลแล้ว มันก็เป็นเรื่องธรรมดาเข้าใจได้ เพราะกลุ่มนี้ต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กำหนดคุณสมบัติของนักการเมืองที่มีผลกระทบกับพวกเขาโดยเฉพาะในเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามที่คนพวกนี้ “โดนกันระนาว” ตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถว ที่เห็นชัดก็คือ ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นอกจากหมดอนาคตทางการเมืองแล้วยังเสี่ยงจะถูกจับเข้าคุก ถูกยึดทรัพย์อีกด้วย นี่ยังไม่นับคดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทย ที่เสี่ยงจะลากเอา พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของ ทักษิณ ให้เข้าปิ้งอีกราย

แต่นั่นเป็นการเรียกร้องเร่งรัดให้รีบเลือกตั้ง ที่หลายคนมองออกว่า เริ่มมีแรงกดดันแบบเข้มข้นทุกทางมากขึ้นหรือไม่ รวมถึงการออกมาดิสเครดิตผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กันหนักมือมากขึ้น โดยเทน้ำหนักไปที่เรื่องความล้มเหลวเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีเสียงสะท้อนจากผลสำรวจของชาวบ้านที่ออกมายังไว้ใจรัฐบาล และ คสช. ในเรื่อง “การรักษาความสงบ” ในบ้านเมือง ความหมาย ก็คือ ก่อนหน้านี้ เรื่อง “ความมั่นคง” ยังเป็นจุดขายของรัฐบาลนั่นแหละ อย่างน้อยก็ก่อนเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

แม้ว่าจนถึงตอนนี้ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงจะยังไม่เปิดเผยออกมาเป็นฝีมือของคนกลุ่มไหน เพราะมีการสงสัยไป “หลายกลุ่ม” ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ได่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพียงแต่ว่าต้องจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ไม่เช่นนั้น จะเสียหายเพราะคราวนี้เป็นการ “จงใจหยาม” กันแบบไม่ไว้หน้า ทำนองว่า รัฐบาล “ไม่อาจรักษาความปลอดภัย” ให้ชาวบ้านได้ “ต้องออกไป” อะไรประมาณนั้น ซึ่งก็เริ่มมีการส่งเสียงขับไล่แบบนี้ออกมาแล้วสมาชิกกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม

แต่สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ หลังจากนั้นไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมาประณาม “คนเลว” ที่ลงมือก่อเหตุ และตามมาด้วยคำพูดที่ยืนยันท่าทีเหมือนกับการ “ตอบโต้การข่มขู่” ว่า “หากไม่สงบก็ไม่มีเลือกตั้ง” มันก็เหมือนกับการคาดเดาไว้แล้วว่าเป็นฝีมือ “ใคร” ความหมายก็คือจะยื้อเวลาออกไปอีกแม้ว่าจะกำหนดเวลาเป็นปี พ.ศ. เอาไว้แล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน ออกมาตอบคำถามแบบ “ไม่ปฏิเสธ” ว่า จะลงเลือกตั้งหรือไม่ มันก็เป็นท่าทีใหม่ที่สำหรับความหมายไม่ปฏิเสธ ก็คือ “อยู่ต่อ” ในเก้าอี้ “นายกฯคนนอก” ที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดเปิดทางเอาไว้แล้ว ซึ่งโดยนัยแล้วมันก็เหมือนกับเป็นการ “ย้อนศร” เอาคืนฝ่ายตรงข้ามแบบชัดเจนกว่าเดิม !!
กำลังโหลดความคิดเห็น