ที่ประชุม สปท.ถกรายงาน กมธ.ขับเคลื่อนปฏิรูปสื่อสารมวลชน ประเด็นร่าง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ “คณิต” อ้างไทยติดอันดับต้นเป้าหมายโจมตี ไม่ใช่มือสมัครเล่น แต่ทำเป็นเครือข่าย จึงชงทำกฎหมายรองรับแผน พร้อมดัน กม.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย ให้สังคมเห็นไม่ได้ล่วงละเมิดสิทธิ พบวางยุทธศาสตร์ป้องกัน 5 กลุ่ม ก่อนโหวตเห็นชอบ 141 ต่อ 1 งดออกเสียง 5
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 12.40 น. การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่มีน.ส.วลัยรัตน์ ศรีอรุณ รองประธาน สปท.คนที่ 2 เป็นประธาน เพื่อรับทราบรายงานจากคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน เรื่องการปกป้องคุ้มครองและรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ด้านสารสนเทศของประเทศ โดยมี พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธาน กมธ.สื่อฯ อภิปรายชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า กมธ.พบว่าความรู้ของบุคลการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศไทยมีน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น วันนี้ไทยติดอันดับต้นๆ เป็นเป้าหมาย ทางผ่านการโจมตี ต่อไปการรับมือจะประสานทั้งภาครัฐและเอกชน เพราะภัยคุกคามต่อจากนี้คาดเดายาก ไม่ใช่ภัยที่เกิดจากมือสมัครเล่นอีกต่อไป แต่มีการกระทำในลักษณะโยงใยเป็นเครือข่าย เราจึงเสนอจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้องรองรับแผนยุทธศาสตร์ ให้รัฐบาลควรผลักดันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. ... ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็ว พร้อมผลักดันกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย เพราะเกี่ยวข้องการแก้ปัญหา รับมือ เกี่ยวโยงกันทั้งระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ และรัฐต้องสร้างบริบทแวดล้อมให้เห็นว่า กฎหมายไม่ได้มุ่งล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
มีรายงานว่า องค์ประกอบในรายงานนี้ ได้วางยุทธศาสตร์ป้องกันระบบโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มสารสนเทศและโทรคมนาคม 2. กลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน 3. กลุ่มพลังงาน 4. กลุ่มการขนส่งทางกายภาพ และ 5. กลุ่มบริการที่จำเป็นต่างๆ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาปฏิรูปเป็น 4 ระยะ ใช้เวลา 6 เดือน จากนั้นต้องเริ่ม ใช้นโยบายหรือแผนยุทธศาสตร์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศด้านสารสนเทศ หลังจากสมาชิกอภิปรายส่วนใหญ่ด้วยในหลักการ จึงโหวตเห็นชอบ 141 ต่อ 1 งดออกเสียง 5 ส่งรายงานให้คณะรัฐมนตรีต่อไป