ตำรวจประจำทำเนียบฯ ตรวจเข้มหลังมีบึ้ม รพ.พระมงกุฎเกล้า ดูแลตลาดตลาดคลองผดุงฯ เป็นพิเศษ เพิ่มกำลังเท่าตัว ฝากเป็นหูเป็นตา ขออย่าวิตกกังวล จนท.ต้องระวังไว้
วันนี้ (22 พ.ค.) ผู้สื่อขาวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ล่าสุดได้มีคำสั่งจากผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 (ผกก.4 บกส.3) แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทำเนียบรัฐบาล ให้เข้มงวดการตรวจสอบยานพาหนะและบุคคลที่เดินทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล โดยมีคำสั่งว่า “เนื่องจากมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี ห้องรับรองข้าราชการบำนาญและห้องตรวจโรคนายพล ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับ 10 ราย จึงขอเน้นย้ำให้ข้าราชการตำรวจ กก.4 บก.ส.3 ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจุด ตามประตู เข้มงวดตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะเข้าออกอย่างละเอียด โดยเฉพาะที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ให้เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ เนื่องจากมีบุคคลภายนอกเดินทางเข้าออกเป็นจำนวนมาก” โดยได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จากเดิมที่ประจำจุดสะพานอรทัย และบริเวณประตูเข้าออก ฝั่งสะพานมัฆวานฯ เพิ่มอีกเท่าตัวทั้ง 2 จุด
ต่อมาเวลา 14.15 น. พ.ต.อ.เกียรติ กาบบัว ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังเกิดเหตุระเบิดที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า พล.ต.อ.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบก.สันติบาล ได้สั่งการให้ดูแลและเพิ่มความเข้มงวดภายในทำเนียบรัฐบาลและบริเวณโดยรอบ เนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญ ตนได้สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้เพิ่มความถี่ในการเดินลาดตระเวนพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด โดยเฉพาะประตูเข้าออกทุกประตู การตรวจสอบรถยนต์และบุคคล โดยรถยนต์นั้นได้สั่งการให้ตรวจสอบอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นรถที่มีสติกเกอร์ผ่านเข้าออกหรือไม่ จะต้องตรวจเข้มตลอด 24 ชั่วโมง การตรวจกระเป๋าผู้ที่ผ่านเข้าออกจะต้องให้ผ่านเครื่องสแกนวัตถุต้องสงสัย ในส่วนของการเพิ่มความถี่การลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่นั้นได้ประสานงานกับทหารจากกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ กองทัพภาคที่ 1 ด้วย
“ในส่วนพื้นที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นจุดที่ค่อนข้างอ่อนไหว ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่เอกซเรย์ให้ละเอียดและเดินลาดตระเวนตลอดเวลา อีกทั้งได้ประสานไปยังหน่วยประชาสัมพันธ์ของตลาดคลองผดุงให้แจ้งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า ขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าสังเกต หากพบสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ทันที และอย่าวิตกกังวลว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงอะไร เพียงแต่เจ้าหน้าที่ต้องระวังไว้เท่านั้น” พ.ต.อ.เกียรติกล่าว