คสช.รับสกัดกั้นยาเสพติดเป็นงานด่วนต้องทำต่อ พร้อมดูแล ปชช.แก้ปัญหาน้ำท่วม

รองโฆษก คสช.ระบุการสกัดกั้นยาเสพติดยังคงเป็นงานด่วนที่จะทำต่อ ขณะเดียวกัน ขอทุกภาคส่วนร่วมเป็นหูเป็นตาระวังเหตุไม่พึงประสงค์ ส่วนการคลี่คลายน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนนี้ ได้ร่วมกับฝ่ายปกครองและป้องกันภัยดูแลประชาชนอย่างเต็มที่

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการ คสช. เป็นประธานการประชุม สำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้กล่าวถึงการเข้มงวดตามนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และกองกำลังของหน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนดำเนินการ เป็นผลให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมยาบ้าได้ถึง 3,058,690 เม็ด, 3,058,690 เม็ด,ไอซ์ 10.32 กิโลกรัม กระท่อม 272 กิโลกรัม โดยคดีที่สำคัญได้แก่ จับยาบ้า 67,800 เม็ด ที่ อ.เมือง จ.ยโสธร, การปะทะกับกลุ่มลำเลียงยาเสพติดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยึดยาบ้าได้ 7 แสนเม็ด และการจับยาบ้า 2.2 ล้านเม็ด ได้ที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นต้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะยังคงดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการดูแลสถานการณ์ให้มีความปลอดภัยโดยรวมนั้น รองเลขาธิการ คสช.ได้กำชับให้ทุกส่วนราชการร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงดำเนินการตามบัญชาของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ช่วยกันเฝ้าระวัง ดูแลพื้นที่รับผิดชอบให้มีความเรียบร้อย ประสานการใช้งานและตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) รวมทั้งการกำหนดแผนและมาตรการดูแลพื้นที่ เพื่อให้การอำนวยความสะดวกประชาชนและการรักษาความปลอดภัยสถานที่มีความรัดกุมในทุกด้าน

สำหรับการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานในพื้นที่ รวมทั้งกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประจำพื้นที่ ได้ร่วมกันช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ในส่วนของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้มีการเตรียมความพร้อมของกำลังพลและเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัยไว้แล้ว รองเลขาธิการ คสช.กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับทางจังหวัด ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการดูแลประชาชนพร้อมคลี่คลายสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้อย่างต่อเนื่อง

ในตอนท้ายของการประชุม รองเลขาธิการ คสช.ขอให้ทุกหน่วยงานได้ช่วยกันดำรงการเผยแพร่และสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับความคืบหน้าของนโยบายและมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ของภาครัฐ รวมทั้งการกำกับดูแลให้เจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้ปฏิบัติงานอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่และประพฤติตนอย่างเหมาะสม เพื่อให้เป็นที่พึ่งในการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนในทุกเรื่อง