รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุและศูนย์ฉุกเฉิน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นศูนย์กลางสั่งช่วย ลุยสำรวจความเสียหาย รีบช่วยผู้ประสบภัย ด้านอธิบดี ปภ. เผย ฝนตกหนัก 12 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 7 ยังอ่วมอีก 5
วันนี้ (20 พ.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และน้ำที่ไหลหลากเข้าท่วมขังหลายจังหวัด ว่า ได้สั่งการให้กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสานหน่วยงานทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ พร้อมให้ทุกจังหวัด รวมถึงกรุงเทพฯ จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัดและอำเภอ และศูนย์ฉุกเฉินในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นศูนย์กลางในการอำนวยการประสานสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านน้ำทั้งระบบ มุ่งระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ กักเก็บน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน วางแผนแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยพิบัติด้านน้ำอย่างทั่วถึง รวมถึงจัดเตรียมระบบการสื่อสารให้ใช้การได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ให้จัดเตรียมชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอดเวลาด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ให้จังหวัดร่วมกับ อปท. สำรวจความเสียหาย เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และให้ผู้ประสบภัยสามารถดำเนินชีวิตได้ในช่วงที่เกิดภัย
ด้าน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำไหลหลาก ระหว่างวันที่ 16 - 20 พ.ค. 60 ว่า เกิดฝนตกตั้งแต่วันที่ 16 - 20 พ.ค. 60 จนถึงปัจจุบันใน 12 จังหวัด ทำให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 1,285 หลัง เสียชีวิต 2 ราย ที่ จ.กำแพงเพชร และ จ.สุโขทัย โดยมีจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด คือ พะเยา อุบลราชธานี ลำพูน อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร และ อุดรธานี