รองนายกรัฐมนตรี ไม่มีความเห็นปมโอนตำรวจขึ้นตรง ก.ยุติธรรม ชี้ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ “ประยุทธ์ - ประวิตร” เตรียมการอยู่ ระบุ ต้องดูผลงานอยู่ที่ไหนแล้วชาวบ้านได้บริการดี แนะคิดด้วยถ้ากลับเข้าไป สตช. จะถูกลดหรือเพิ่มบทบาท ไม่วิจารณ์ถอยหลังลงคลอง
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่โรงแรมบันยันทรี เมื่อเวลา 09.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแผนงานปฏิรูปกิจการตำรวจ ในคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ สภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอให้โอนย้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม ว่า ตนไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ เพราะเป็นการอภิปรายในที่ประชุม สนช. รัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง และจะมีมติเช่นไรยังไม่ทราบ จึงยังไม่ออกความเห็นจนกว่าเรื่องจะถึงรัฐบาล และรัฐธรรมนูญบังคับให้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ โดยมีการกำหนดตัวบุคคลไว้ มีกรอบระยะเวลาดำเนินการใน 1 ปี หากไม่เสร็จการโยกย้ายให้ยึดลำดับความอาวุโสเพียงอย่างเดียว คณะกรรมการชุดนี้ต้องพิจารณาเรื่องสังกัดและอำนาจหน้าที่ด้วย สิ่งที่พูดใน สนช. จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการชุดดังกล่าวที่รัฐบาลจะตั้งขึ้น ถ้าเขาส่งมาก่อนรัฐบาลก็จะเสนอให้คณะกรรมการชุดนี้ โดยจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้เป็นอันขาด เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลตั้งกรรมการอะไรก็ได้ยกเว้นสองเรื่อง คือ เรื่องตำรวจและการศึกษา หากมีการส่งเรื่องที่เกี่ยวกับสองเรื่องนี้เข้ามาก็จะส่งให้คณะกรรมการทั้งสองชุดที่จะมีการแต่งตั้งขึ้น
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจนั้น รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดระยะเวลา แต่ให้เสร็จภายใน 1 ปี แสดงว่า ให้ตั้งเร็ว ซึ่งขณะนี้เขาก็เตรียมการตั้งคณะกรรมการกันอยู่ รอง ผบ.ตร. ได้สอบถามถึงขั้นตอนการจัดตั้งกับตนแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง จะเป็นผู้ดูอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกรรมการศึกษาระบุให้ตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ซึ่งขณะนี้ผ่านมาแล้ว 1 เดือน ทราบว่า นายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ เตรียมการจะตั้งอยู่
เมื่อถามว่า งานกระทรวงยุติธรรมถือว่ามากเกินไปหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า อย่าเพิ่งตอบตอนนี้ถ้าจะเอาอะไรมาไว้ที่กระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรมก็อาจบ่นว่าเยอะ ดังนั้น จะเอาอะไรออกจากกระทรวงยุติธรรมก็ได้ เมื่อจะปฏิรูปก็ต้องมีการเคลื่อนย้าย หลักการบริหารมีหลายรูปแบบ เมื่อถามอีกว่า แนวคิดดังกล่าวคืออยากให้ สตช. มาอยู่กับหน่วยงานด้านยุติธรรม จำเป็นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องคิดหลายอย่างประกอบกัน เบื้องต้นอาจจะดูดี แต่ต้องคิดต่อไปว่าอัตรากำลังพลของตำรวจมีจำนวนมาก งบประมาณก็มาก จึงต้องย้อนกลับไปดูเหตุผลที่ให้กรมตำรวจออกจากกระทรวงมหาดไทย ตอนที่เอาออกมาอาจยังคิดรูปแบบไม่ออก ว่าถ้ายังอยู่กับกระทรวงมหาดไทยจะแก้ปัญหางบประมาณมากเกินไปอย่างไร ทั้งที่ความจริงไปมากที่ตำรวจ หรือกำลังพลกระทรวงมหาดไทยมากเกินไปเมื่อเทียบกับกระทรวงศึกษา ตอนนั้นจึงเอาออกมา วันนี้มีวิธีคิดให้อยู่กับกระทรวงแล้วดูดีได้หลายวิธีแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเอาเข้าไป เราจะไปดูตรงผลปฏิบัติงานว่าอยู่กับใครที่ไหนและประชาชนได้รับบริการที่ดี วันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใหญ่ถึงขนาด ผบ.ตร. จะเป็น ส.ว. โดยตำแหน่ง จึงต้องคิดต่อไปว่าถ้าเอากลับเข้าไปในกระทรวงจะเป็นการเพิ่มหรือลดบทบาทของตำรวจ ส่วนการกลับให้เข้าไปอยู่ในกระทรวงเป็นการถอยหลังกลับเข้าคลองหรือไม่ ตนไม่ขอวิจารณ์